รีแบรนด์เป็นเหตุสังเกตได้ เพราะอะไรความเชื่อมั่นแบรนด์เกี่ยวกับ Meta กลับลดลง

การประกาศแนวทางใหม่ของ Facebook ในงานใหญ่ประจำปี Connect 2021 เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา เรียกเสียงฮือฮาไปทั่วโลกเกี่ยวกับการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ที่ CEO มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ปรับเปลี่ยนชื่อองค์กรจาก Facebook เป็น Meta เพื่อสอดรับกับ vision ใหม่เกี่ยวกับโลกของ Metaverse

เวลาผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์มีหลายๆ feedback เกี่ยวกับวิสัยทัศน์นี้ของ มาร์ก ทั้งชื่นชมในความกล้าคิด กล้าทำ และกล้าลอง จนไปถึงแสดงความกังวลในหลายกรณี หนึ่งในนั้นคือเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเคยเป็นประเด็นและจุดอ่อนของ Facebook มาก่อน

ข้อมูลของ Harris Brand Platform เป็นเครื่องมือที่ช่วยติดตามแบรนด์จาก The Harris Poll เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ความเชื่อมั่นใน Facebook (กรณีข้อมูลรั่วไหล) เริ่มดีขึ้น จนกระทั่งบริษัทประกาศรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อเป็น Meta และทำให้ความเชื่อมั่นลดลงอีกครั้ง

ทั้งนี้ เครื่องมือ Harris Brand Platform ได้มุ่งติดตามเรื่องความเชื่อมั่นทางอารมณ์ระหว่างผู้บริโภคโดยเชื่อมโยงกับแบรนด์ พบว่า คะแนนความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม Facebook เริ่มลดลงจาก 16% (ช่วงกลางเดือน ก.ย.) หลังจากซีรีส์ “Facebook Files” ของ The Wall Street Journal ถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสุขภาพของผู้ใช้จากอาการ ‘เสพติดอินเทอร์เน็ต’ (internet addiction) อย่างเช่น

อาการนอนไม่หลับ
กระทบต่อเรื่องงาน
กระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว

นอกจากนี้ ทีมวิเคราะห์ที่เปิดเผยกับ The Wall Street Journal ยังได้อ้างอิงไปถึง Instagram อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า ‘toxic’ (เป็นพิษ) ต่อผู้ใช้ ซึ่งเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ฉุดคะแนนความเชื่อมั่นของบริษัท Meta ลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่ที่ประกาศจุดยืนใหม่

โดยสรุปคะแนนความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มภายใต้ Meta มีคะแนนลดลงเรื่อยๆ จากแรกๆ อยู่ที่ 16% ลงมาที่ 11% ในช่วงการแพร่ระบาด + ประกาศรีแบรนด์องค์กร จนปัจจุบัน (ณ วันที่ 29 ต.ค. ถึง 4 พ.ย.) คะแนนความเชื่อมั่นแบรนด์อยู่ที่ 6.2%

Facebook รีแบรนด์ก่อนวัยอันควร?

มีอีกหนึ่งความคิดเห็นจาก Denise Lee Yohn ผู้เชี่ยวชาญจาก Harvard Business Review ที่มองว่า มาร์ก ประกาศรีแบรนด์และเข้าสู่ Metaverse ก่อนเวลาที่ควรจะเป็น ส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิด feedback มากมายเกี่ยวกับการรีแบรนด์ครั้งนี้เพราะ “ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจเกี่ยวกับ Metaverse และกล้าลอง”

“ถึงแม้ว่า vision ใหม่ของ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จะทำให้เราเห็นว่าโลกกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างกระโดด แต่มันไม่ใช่สำหรับทุกคน ความน่ากังวลก็คือ ผู้บริโภคอาจจะรู้สึกไม่สบายใจและไม่เชื่อมั่น และถ้าเป็นแบบนั้นแบรนด์ต่างๆ ก็อาจจะหยุดการพึ่งพิงทางธุรกิจจาก Facebook ชั่วคราว”

“การรีแบรนด์เป็นเพียงวิสัยทัศน์ใหม่ แต่กลับไม่มีรายละเอียดสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ยังเป็นปัญหาค้างคาของ Facebook จึงมองว่า การตัดสินใจรีแบรนด์ของ Facebook เป็นการเคลื่อนไหวที่ผิดเวลา”

คล้ายๆ กับความคิดเห็นของ Adam Rizzieri หัวหน้าเจ้าหน้าที่การตลาดที่ Addison ที่มองว่า ธุรกิจหลักของ Facebook คือการโฆษณาออนไลน์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลผู้ใช้ ดังนั้น การรีแบรนด์ก่อนเวลาและสร้างความสับสนต่อผู้ใช้อาจกระทบต่อ vision ใหม่ได้

ทั้งยังมองว่า แพลนการพัฒนาเกี่ยวกับ Metaverse ของ Meta อาจต้องใช้เวลาหลายปี หรือนานถึง 10 ปีที่จะเห็นมูฟเมนต์ชัดเจน ดังนั้น สิ่งที่น่าห่วงคือ ช่วงระยะสั้นๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับ Meta และผู้บริโภค แน่นอนว่าแบรนด์ต่างๆ อาจพิจารณาแพลตฟอร์มนี้อีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม

(สรุป) ไอเดีย ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ กับโลก Metaverse เหตุผลที่ Facebook รีแบรนด์เปลี่ยนชื่อองค์กรเป็น ‘Meta’

ที่มา: fast company, reworked, wsj