[opinion] ทำอย่างไรเมื่อคุณมีฝันหวานมากมาย (แต่ไม่ได้ลงมือทำซะที!)

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

personal consideration

คุณๆ คงเคยได้ยินคำแนะนำทำนองว่าต้องโฟกัสในสิ่งที่ชอบสิถึงจะเจริญในหน้าที่การบ้าน อืม…เอาเข้าจริงเรื่องนี้จะง่ายขึ้นอีกเยอะมากหากคุณทำงานในองค์กรการกุศลและไม่ต้องสนใจเรื่องเงิน ยังไม่เลยไปพิจารณาว่าในยุคที่ผู้คนเปลี่ยนตัวเองเป็นRenaissance people (คนที่มีความสามารถรอบด้าน) แล้ว บางครั้งความชอบและความถนัดอาจเป็นปัจจัยหลังๆ ในการการจะเลือกทางเดินที่ตนเองต้องการจริงๆ

เช่นนั้นหนทางที่ดีที่สุดคืออะไรล่ะ? ลองให้ตลาดกำหนดให้คุณดูสิ

วิธีการคือหากคุณมีไอเดียมากมาย ลองเลือกไอเดียที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดและมีตลาดแบบเห็นได้ชัดมาสักสองสามไอเดีย จากนั้นลงมือทำไปเลยโดยไม่สนถูกผิดและค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีล่ะชั้น สุดท้ายคุณจะรู้ว่าไอเดียไหนกันแน่ที่ทั้งเหมาะกับคุณและโดนใจตลาด

อันที่จริงแล้ว ไอเดียที่บรรเจิดขึ้นมาในหัวของคุณมักถูกวาดภาพผลสำเร็จในตอนท้ายแต่ไม่ได้วาดภาพบันไดที่จะปีนขึ้นไปยังจุดหมาย ดังนั้นเมื่อคุณเริ่มทดลองไอเดียเหล่านั้นแบบเป็นขั้นเป็นตอน คุณจะเข้าใจว่าการจะประสบผลสำเร็จจากไอเดียมีขั้นตอนอย่างไรและคุณต้องการทำมันหรือเปล่า? เมื่อเหลือไอเดียที่คุณรักมันจริงๆ ค่อยเดินหน้ากับมันอย่างจริงจังแต่เริ่มจากเล็กๆ เช่น หากอยากเป็น infopreneur ก็ต้องเริ่มจากการสร้างเพจ สร้างคอมมิวนิตี้ ไต่ไปทีล่ะขั้น

จำไว้ว่าการตามหาความสามารถเฉพาะตัวของคุณนั้นไม่ได้เป็นวิทยาศาสตร์แต่มันต้องอาศัยการลองผิดลองถูกชี้ทางไปเรื่อยๆ ที่สำคัญคือต้องกล้าเสี่ยงในสิ่งที่ตัวเองรักเพราะการออกจาก comfort zone จะช่วยให้คุณเติบโตขึ้นได้ไม่จำกัด

Source


  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง