Bitcoin หรือเงินสกุลดิจิทัล (Cryptocurrency) กลายเป็นเครื่องมือสำหรับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนคนรุ่นใหม่ที่นิยมหันมาลงทุนในรูปแบบเงินดิจิตอลมากขึ้น และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการลงทุนในเงินดิจิทัล คือการรับรู้ผลกำไรหรือขาดทุนที่รวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการที่รวดเร็วของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งการลงทุนในเงินดิจิทัลกำลังได้รับความนิยมถึงขนาดที่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของภาครัฐในหลายๆ ประเทศ
หลายคนมักจะพูดถึงการลงทุนในเงินดิจิทัลที่ได้ผลกำไรอยู่ในระดับสูง และบางครั้งอาจมากกว่า 100% แต่ต้องไม่ลืมว่าเมื่อมีกำไรก็ต้องมีขาดทุน ซึ่งผลขาดทุนก็แทบไม่หนีในระดับเดียวกับผลกำไร ซึ่ง Warren Buffett พ่อมดแห่งการลงทุนระดับโลก มีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในเงินดิจิทัล โดย Warren ชี้ว่า การลงทุนในเงินดิจิทัล เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีประสิทธิผลและไม่ก่อให้เกิดสิ่งที่สามารถจับต้องได้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการลงทุนสูงมาก
โดย Warren ยอมรับว่า แม้ว่าการลงทุนในเงินดิจิทัลจะเย้ายวนและน่าดึงดูดใจอย่างมาก ราวกับมีเวทย์มนตร์ และหลายคนก็พร้องต้องผู้มนตร์สะกดให้เข้าไปร่วมลงทุน แต่สำหรับ Warren ไม่ว่าผลกำไรของการลงทุนในเงินดิจิทัลของปีหน้าจะขึ้นหรือลง หรือในอีก 5 ปีหรือ 10 ปี ตัวของ Warren ก็จะไม่สน เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจริง มันคือการลงทุนที่ไม่มีผลผลิตใดๆ เลย และนักลงทุนเงินดิจิทัลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ถือระยะสั้นตามที่คาดหวังไว้ ส่วนใหญ่ยังคงเป็นการถือระยะยาว
แม้ว่าบางสกุลดิจิทัลมีการเพิ่มรูปแบบการใช้งานเงินดิจิทัล ทั้งในเรื่องของการซื้อสินค้าหรือให้กู้ยืม เพื่อให้นักลงทุนเห็นประสิทธิภาพของเงินดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มที่ลงทุนเงินดิจิทัลที่มีประสบการณ์น้อยเกิดความสนใจ และนำไปสู่การเก็งกำไร แต่สำหรับ Warren แล้วก็ยังมองไม่เห็นคุณค่าของเงินดิจิทัล เมื่อเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ
โดย Warren ยกตัวอย่างว่า ถ้ามีคนบอกให้เขาซื้อที่ดินแปลงเกษตรในราคา 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะได้กำไรเพียง 1% เขาพร้อมควักเงินจ่ายให้ทันทีหรือโอนพร้อมเพย์ก็ได้ และถ้ามีคนขายอพาร์ทเม้นต์อีกมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยจะได้กำไรเพียง 1% เขาพร้อมจะหยิบสมุดเช็คแล้วเซ็นให้เดี๋ยวนั้นเลย แต่ถ้ามีคนเสนอขาย Bitcoin ทั้งหมดในโลกในราคา 25 ดอลลาร์ Warren จะไม่มีวันซื้อเด็ดขาด
นั่นเพราะ Warren ไม่รู้ว่าจะนำ Bitcoin ไปทำอะไรได้ ที่สำคัญมูลค่าของมันก็มีความผันผวนสูง สุดท้ายก็ต้องขายกลับคืนให้กับผู้ขาย โดยที่อาจจะมีราคาสูงกว่าที่ซื้อมาก็ได้ ซึ่งเท่ากับขายขาดทุน ในขณะที่ที่ดินแผลงเกษตร เขาสามารถนำไปเพาะปลูกเพื่อให้ได้ผลผลิตนำออกไปจำหน่าย ซึ่งอาจได้กำไรมากกว่า 1% หรืออพาร์ทเม้นต์ก็สามารถปล่อยให้เช่าได้ ซึ่งอาจจะสร้างรายได้ต่อไปในอนาคตที่มากกว่า 1%
Warren ยังชี้ว่า ทรัพย์สินที่มีมูลค่าต้องส่งมอบบางสิ่งให้กับใครบางคน และเงินที่ใช้กันในปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่มีมูลค่าที่สามารถส่งมอบให้กัน โดย Warren ทิ้งท้ายว่า มี 3 สิ่งที่เขาจะไม่ทำเด็ดขาด นั่นคือสิ่งที่ทำแล้วดูโง่เขลา สิ่งที่ทำแล้วดูชั่วร้าย และสิ่งที่ทำแล้วดูงี่เง่า ซึ่งการลงทุนใน Bitcoin มีครบทั้ง 3 อย่าง อย่างแรก การลงทุน Bitcoin มันงี่เง่าเพราะเป็นการลงทุนที่โอกาสเสียมากกว่าได้ การลงทุน Bitcoin มันชั่วร้ายเพราะเป็นการบ่อนทำลายระบบธนาคารของแต่ละประเทศ และการลงทุน Bitcoin ทำให้ดูโง่เขลา เมื่อเทียบกับผู้นำจีนที่หลายคนยังมองว่าล้าหลัง แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะสั่งแบนการลงทุนและทุกกิจกรรมเกี่ยวกับ Bitcoin ในประเทศจีน
Source: CNBC