ใครว่าการระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอย่างเดียว เพราะอย่างน้อยๆ ในทุกๆ วิกฤตมักจะมาพร้อมกับ ‘โอกาส’ เสมอ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างขับเคลื่อนไปด้วยออนไลน์
จากกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟจัดโดย ‘Adobe’ ในงาน ‘พุธหรรษา พาสดใส กับ Adobe x น้าเน็ก’ เราได้ฟังมุมมองหนึ่งจาก น้าเน็ก ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว ในฐานะที่เป็นหนึ่งใน influencers แถวหน้าของประเทศไทย
หลายคนอาจจะชินภาพ ‘น้าเน็ก’ มีบทบาทในรายการโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ แต่มีประโยคหนึ่งจากน้าเน็กที่ยอมรับกับเราตรงๆ ว่า “ผมเป็นหนึ่งในคนที่ถูก disrupt จากออนไลน์ มาถึงยุคที่รายการโทรทัศน์ดั้งเดิมถูก disrupt ด้วยดิจิทัล”
แต่ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งก็อาจจะคุ้นหน้าคุ้นตา น้าเน็ก จากช่องใน YouTube ‘อย่าหาว่าน้าสอน’ แต่คงไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังลึกๆ แล้ว น้าเน็กคนนี้ เพิ่งจะมารู้จักกับคำว่า ‘ออนไลน์’ ได้ไม่นาน ยิ่งสื่อโซเชียลมีเดียเพิ่งมาสัมผัสกับเขาก็ปี 2561 นี่เอง
จากคนที่ไม่รู้จัก ‘ออนไลน์’ กลายเป็นมียอด Subscribe เกือบ 1 ล้าน ได้อย่างไร?
ตั้งแต่ที่เปิดตัวรายการใน YouTube Channel ระยะเวลาก็เกือบๆ 3 ปี และจากที่ในปีแรก มียอดติดตามแค่ 1 แสนนิดๆ เพราะวันที่เริ่มต้นธุรกิจ ไม่รู้ว่าคนออนไลน์ต้องการเสพอะไร ชอบแบบไหน ซึ่งมันก็ไม่ work แต่ว่าตอนนี้เราปรับตัวมาเรื่อยๆ ทำให้ยอดขยับขึ้นมาเป็นเกือบ 1 ล้านแล้ว
น้าเน็กพูดให้ฟังว่า “สำหรับการวางแผนงานของผม ก็คือ ไม่มีแผน” หมายความว่า “เมื่อคิดอะไรออก ให้ทำทันที โดยเร็วที่สุด” เพราะไอเดียมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราขับรถอยู่ เดินอยู่ แม้แต่กำลังเข้าห้องน้ำ (ถ่ายหนัก) อย่างเช่น รายการ อย่าหาว่าน้าสอน ระยะเวลาที่คิดและเกิดขึ้นใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้น
น้าเน็ก ให้แง่คิดอีกอย่างที่น่าสนใจ น้าพูดว่า “ออนไลน์ มันเปิดโอกาสให้เราได้ลองผิดลองถูก ถ้า content เราดีมันก็จะเจริญงอกงาม แต่ถ้ามันไม่ดี content ของเราก็จะถูกลืมๆ ไป”
พอฟังประโยคนี้แล้วรู้สึกเห็นด้วยมากๆ เพราะเท่าที่ดู stars ในวงการออนไลน์หน้าใหม่ๆ ก็มักจะเกิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัวเลย บางทีเป็น content ที่เราไม่ได้คิดไตร่ตรองว่าจะดังเปรี๊ยงด้วยซ้ำไป!
แต่ Key ของน้าเน็กอยู่ตรงนี้! ด้วยความที่มันไม่มีกรอบที่ชัดเจนว่าคนออนไลน์จะชอบแบบไหน ดังนั้น ความอิสระนี้แหละที่เราต้องคิดให้มาก content ออนไลน์ ไม่ใช่แค่ต้องสนุก แต่มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น อย่าลืมว่าบนจอมือถือของเรา หน้า feed ของแต่ละคนแสดงเนื้อหาที่ไม่เหมือนกัน
ดังนั้น นี่คือสิ่งที่น้าเน็กย้ำ สิ่งที่ต้องคำนึงเกี่ยวกับ content ออนไลน์ ก็คือ
-
สนุกสนาน ดูแล้วเพลิดเพลิน
-
Content ต้องทำให้รู้สึกว่าใกล้กับเรา (คนเสพ)
-
แก้ pain point ผู้คนได้มั้ย (นี่คือคอนเซ็ปต์ของรายการทั้งหมดของน้าเน็ก)
-
เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราด้านไหน
มีสิ่งหนึ่งที่น้าเน็กเรียนรู้จากการทำงานบนออนไลน์ก็คือ หนึ่งในความสำเร็จของธุรกิจก็คือ ‘interaction’ ไม่ว่าจะเป็น การอ่านคอมเมนต์ให้บ่อย การมีปฏิสัมพันธ์กับคนดูบ่อยๆ (ผ่าน Live) สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความพึงพอใจ และจะทำให้รายการของเราสามารถดึงดูดคนดูได้มากขึ้น
เคล็ดลับ ‘เลือกคนทำงานด้วย’ สำหรับมือใหม่หัดทำ content
น้าเน็ก ได้กระซิบบอกด้วยว่า สำหรับเทคนิคการเลือกคนเข้าทำงานด้วย เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับคนกลุ่มใหม่ในวงการที่อยากจะลองทำ content ออนไลน์บ้าง
อย่างแรกเลยก็คือ ‘คนๆ นั้นต้องเป็นเหมือนแก้วเปล่า’ น้าเน็กพูดว่า “ผมเลือกคนธรรมดาๆ ที่มีทัศนคติดี สนุกสนานด้วยกันได้ มีวิธีการทำงานที่เหมือนหรือคล้ายกัน ผมไม่สนใจว่าจะเก่งมาจากที่ไหน เคยเป็นใคร มาจากไหน อยู่ที่ว่าอยู่กับเราแล้วสนุกมั้ย อยากทำงานด้วยกันจริงๆ มั้ย เพราะยังไงก็ต้องมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันอยู่ดี”
อย่างที่ 2 ก็คือ ‘ควรมี multi-skills’ ไม่ใช่เพราะผมขี้เหนียวนะ แต่งานมันจะเสร็จเร็วขึ้น เพราะหนึ่งคนทำได้หลายอย่าง บางทีไม่ต้องมารอขั้นตอนจากคนนั้น แล้วกว่าจะมาคนนี้อีก
คำทำนายอนาคต ‘อุตสาหกรรมออนไลน์’ จะรุ่งกว่านี้อีก!
ตามคาดการณ์ในปี 2021 จากมุมมองของ น้าเน็ก คาดการณ์ไว้ว่า วงการออนไลน์จะเติบโตมากกว่านี้อีก เพราะออนไลน์ทำให้นิยามของ ‘ชุมชน’ เปลี่ยนไป กลายมาเป็น ‘ชุมชนไม่ยึดติดที่ตั้งอีกต่อไป’ อยู่ที่ไหนก็คุยกันได้ ติดต่อกันได้ มันจะไร้พรมแดนกว่านี้อีก แต่สิ่งที่น่ากังวลที่จะตามมาก็มีอยู่เยอะ ที่แน่ๆ ออนไลน์ทำให้พื้นที่บนโลกออนไลน์กลายเป็น ‘พื้นที่แสดงความคิดเห็น มากกว่าข้อเท็จจริง’ ดังนั้น พวก hate speech, ดราม่าต่างๆ ที่เกิดขึ้นง่าย จะมากขึ้น “ผู้คนจะเปลี่ยนไปแบบที่เราคาดเดาไม่ถูก”
และด้วยการเติบโตแบบไร้ขีดจำกัดของโลกออกไลน์ จึงเป็นที่มาของคำว่า ‘โอกาส’ ยิ่งในช่วง COVID-19 ยิ่งสร้างโอกาสสร้าง new era ใหม่ๆ ขึ้นมา แต่อยู่ที่ว่า content ของเราจะดีแค่ไหน และสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน ความท้าทายคือ เราต้องตีโจทย์นี้ให้แตก
แต่เดี๋ยวนี้แค่ไอเดียมันยังไม่พอ มันต้องมี tools ต่างๆ ที่มาสนับสนุนไอเดียของเราด้วย อย่างที่เราเห็นมูฟเมนต์ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมาจาก Adobe Max ที่โฟกัสชัดเจนไปที่การสร้างสรรค์ผลงาน artwork ต่างๆ ของคนในยุคนี้ เพิ่มความสะดวกสบาย อัดฟังก์ชั่นสนุกๆ มากขึ้น
อย่าง Adobe Max 2020 ที่เพิ่มฟีเจอร์เด่นๆ เข้ามาสำหรับซอฟแวร์ยอดนิยม อย่างเช่น Photoshop, Illustrator, Lightroom และ Premiere Pro ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมไหนก็ตาม จะได้รับการอัพเดทลิงก์มาอยู่ที่ ‘Adobe Creative Cloud’ ทั้งหมด ทำให้เราสามารถสลับการใช้งานระหว่าง Mobile, iPad และ Desktop ได้ง่ายๆ
ก็อย่างที่ ‘Michael Stoddart’ Director of Strategic Development จาก Adobe ที่พูดในกิจกรรมนี้ว่า ‘creative’ คือสิ่งสำคัญที่สุดที่ Adobe ใส่ใจ โดยสนับสนุนให้ผู้คนเรียนรู้ และเพิ่มทักษะใหม่ๆ ที่มีส่วนนการครีเอทอย่างสร้างสรรค์ โดยเป็นคนกลางที่ออกแบบเครื่องมือที่ทุกคนสามารถ express ความคิดไอเดียต่างๆ ออกมาได้
อย่างเครื่องมือที่อัพเดตใน Max 2020 นี้ ได้แก่ การเร่งการทำงานร่วมกัน (Accelerating Collaboration), การเปลี่ยนแปลงผลผลิต (Transforming Productivity), เพิ่มชุดทักษะที่เน้นความคิดสร้างสรค์ (Expanding Creative Skillets) และ เพิ่มขีดความสามารถในการร้างสรรค์สำหรับทุกคน (Empowering Creative for All)
หรืออย่างที่ Adobe ได้โชว์บางเครื่องมือให้เราดูว่ามันน่าสนุกขนาดไหน เช่น ฟีเจอร์ใหม่ใน Photoshop ที่น่าตื่นเต้นคือ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้าง ‘Neural Filters’ เราสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาคนให้แก่ขึ้น อ่อนเยาว์ลง หรือแม้แต่ปรับสีหน้าอารมณ์ก็ได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้จะแสดงผลทันทีแบบ real time ให้เราปรับแต่งได้เรื่อยๆ จนกว่าจะถูกใจ เป็นต้น
ทีนี้เครื่องมือสร้างสรรค์พร้อมแล้ว ไอเดียก็พร้อมแล้ว และน้าเน็กก็คอนเฟิร์มขนาดนี้ว่า ปี 2021 ธุรกิจออนไลน์จะยังรุ่งแน่นอน งั้นจะรออะไรล่ะ! ลุย!!!!
