Move on: ฟรีแลนซ์กำลังเป็น new normal ใหม่ของโลก

  • 459
  •  
  •  
  •  
  •  

freelance

ข่าวดีสำหรับคุณๆ ผู้เหนื่อยหน่ายชีวิตมนุษย์เงินเดือนและอยากออกมาเป็นฟรีแลนซ์ใจจะขาด นี่เป็นเวลาที่แสนเฟอร์เฟคสำหรับคุณๆ ที่จะตัดสินใจก้าวเท้าออกมาเสียที เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ค่อยๆ ฟื้นฟูตัว บวกกับการเกิดขึ้นของประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ใหม่มายมายทำให้งานฟรีแลนซ์กำลังล้นตลาดโลก และหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทักษะภาษาอังกฤษพอได้ นี่เป็นโอกาสดีของคุณเลยล่ะ

งานฟรีแลนซ์กำลังกลายเป็น new normal ใหม่

การสำรวจจาก Freelancers Union และองค์กรอิสระ Elance-oDesk ระบุว่าชาวอเมริกันกว่า 53 ล้านคนในปัจจุบันทำงานเป็นฟรีแลนซ์และนับเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากสองสามปีที่แล้วกว่า 2 เท่า เหตุผลด้วยฝีมือการทำงานและความรับผิดชอบของเหล่าฟรีแลนซ์เจนใหม่ล้างภาพอคติของสังคมที่มองว่าคนทำงานฟรีแลนซ์เป็นพวกไม่มีประสิทธิภาพและไม่มีปัญหาหางานประจำ ปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มเปลี่ยนใจหันมาจ้างฟรีแลนซ์ด้วยเหตุผลด้านต้นทุนและคุณภาพ โดยในผลสำรวจเดียวกันระบุว่าฟรีแลนซ์กว่า 32% ระบุว่าปีนี้พวกเขามีงานเพิ่มขึ้นมากทีเดียว

โลกทุกวันนี้มีตำแหน่งเกิดขึ้นใหม่มากมายและสถาบันการศึกษาไม่สามารถป้อนแรงงานที่มีทักษะจำเพาะเหล่านั้นเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ทันเวลา นั้นเป็นเหตุผลในการเกิดฟรีแลนซ์ขึ้น อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ไม่กล้าก้าวออกมาเป็นฟรีแลนซ์เพราะกลัวเรื่องความมั่นคงและปริมาณงานที่เข้ามาไม่สม่ำเสมอในแต่ล่ะเดือน วันนี้เราจะมาเปลี่ยนใจคุณกันครับ

ไม่จำเป็นต้องลาออกทันที

สาเหตุหลักที่หลายคนไม่กล้าออกมาเป็นฟรีแลนซ์เพราะกลัวความผิดพลาด อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเราลาออกแล้วหางานไม่ได้ล่ะ…ค่าผ่อนบ้านผ่อนรถ ค่าเทอมลูกใครจะจ่าย

ถ้านี้เป็นข้อโต้แย้งของคุณอย่าลืมจุดสำคัญที่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องลาออกก็ได้นี่ งานฟรีแลนซ์ยืดหยุ่นมากและไม่มีเหตุผลที่คุณต้องลาออกหากคุณยังสามารถบริหารเวลาของตัวเองได้ ยอมเสียสละเวลาดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม มาเป็นการทำงานฟรีแลนซ์ช่วงวันหยุด และเมื่อคุณรู้สึกว่างานของคุณไปได้สวย คุณก็ค่อยตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาเป็นฟรีแลนซ์เต็มตัวให้ได้ก็ยังไม่สาย

หรือบางทีคุณอาจลดระดับงานประจำของคุณออกมาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ก่อนแล้วเน้นการทำงานฟรีแลนซ์ที่ท้าทายและน่าจะเจริญเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่องดีกว่า (คือมีเงินไหลมาจากการทำงานพาร์ทไทม์และทำฟรีแลนซ์เพื่อพัฒนาตัวเองไปในทางที่เราชอบ)

ความมั่นคงไม่มีจริง

หลายคนยังติดอยู่กับความมั่นคงทางการเงินและชีวิตทำให้ไม่กล้าออกมาเป็นฟรีแลนซ์ แต่จากการวิจัยและกรณีตัวอย่างมากมาย เช่น การล้มละลายของบริษัทยักษ์ใหญ่ ก็น่าจะพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่าความมั่นคงในยุคปัจจุบันเป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก แถมสิ่งที่เราคิดว่ามั่นคงอย่างการทำงานในบริษัทใหญ่ๆ หลายครั้งกลับใจร้ายที่สุดเพราะเราเห็นกรณีมากมายที่บริษัทใหญ่ปิดตัวเองโดยไม่บอกพนักงานล่วงหน้าและปฏิเสธการจ่ายเงินชดเชยอย่างเลือดเย็น

นอกจากนั้นเรายังเห็นหลายบริษัทที่ปลดพนักงานประจำหลายตำแหน่งเพื่อจ้างฟรีแลนซ์มาทำหน้าที่แทน ทั้งสะดวกในการบริหารและประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งเทคโนโลยีของการสื่อสารข้ามโลกปัจจุบันยังเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถมองหาแรงงานฝีมือดีจากอีกมุมหนึ่งของโลกขณะที่ฟรีแลนซ์ก็สามารถหางานค่าตอบแทนสูงลิบทำได้ง่ายดาย

เมื่อตำแหน่งงานของคุณไม่รู้จะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่วันไหน ความมั่นคงจึงยิ่งกลายเป็นนิทาน และด้วยเหตุนี้แทนที่คุณจะเลือกต่อสู้เพื่อรักษาเก้าอี้ของคุณไว้ (ซึ่งผลสุดท้ายบริษัทก็มักจะเป็นฝ่ายชนะในการปลดพนักงานออกไปได้อยู่ดี) ทำไมคุณไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงและปรับตัวมาเป็นฟรีแลนซ์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเราเองดีกว่า

การหางานง่ายกว่าที่ผ่านมา

สมัยก่อนกว่าที่คุณจะพาตัวเองไปให้องค์กรรู้จักก็กินเวลาและเสียแรงไปเยอะ แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้การหางานของฟรีแลนซ์เป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ Freelancers Union ระบุว่ากว่า 69% ของฟรีแลนซ์คิดว่าเทคโนโลยีทำให้การหางานเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะ

ตัวอย่างเว็บไซต์หางานฟรีแลนซ์ก็เช่น Fastwork หรือ FreelanceBay ในประเทศไทยที่เป็นตัวกลางช่วยให้ผู้จ้างพบฟรีแลนซ์ได้ง่ายขึ้น และยังมีระบบคัดกรองคุณภาพของฟรีแลนซ์ผ่านประวัติเบื้องต้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ว่าจ้างอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ฟรีแลนซ์มือใหม่ก็ไม่ควรลืมคอนเนคชั่นเก่าก่อนจากที่ทำงานที่ร่วมงานกันมา คอยหมั่นสร้างสัมพันธ์เมื่อพวกเขามีตำแหน่งงานสำหรับฟรีแลนซ์พวกเขาก็จะคิดถึงเราก่อนเสมอ

สุดท้าย ถึงเทคโนโลยีจะพัฒนาไปมากจนฟรีแลนซ์สามารถหางานได้ง่ายขึ้น ทำงานที่ไหนก็ได้ แต่อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของฟรีแลนซ์ก็ยังเป็นคุณภาพงาน ความตรงต่อเวลาและความสัมพันธ์ที่คุณมีต่อผู้จ้าง หากคุณสามารถหางานได้มากมายแต่ไม่สามารถทำงานให้ออกมาได้ดี ทำได้ตรงเวลา ก็อย่ารับงานนั้นมาแต่ต้นเลยดีกว่า เพราะชื่อเสียงสำหรับฟรีแลนซ์ถือเป็นหัวใจสำคัญที่คุณไม่อาจยอมเสียไปได้


  • 459
  •  
  •  
  •  
  •  
อุ้งทีนหมี
เตาะแตะในโรงเรียนชายล้วนแถวยศเส ก่อนเติบโตต่อในมหาวิทยาลัยริมฝั่งน้ำเจ้าพระยา ที่สุดจับพลัดจับผลูเข้าทำงานในนแวดวงสื่อสารมวลชนมาแล้วกว่า 4 ปี โต้ลมโต้ฝนทั้งในวงการข่าวต่างประเทศ เยาวชน ธุรกิจ การเมือง สังคม ฯลฯ แต่สุดท้ายกลับลำมาหลงรักวงการมาร์เก็ตติ้งที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปขี่จิงโจ้เรียนปริญญาโทมา เลยตัดสินใจหันหางเสือออกสู่การผจญภัยครั้งใหม่อีกสักตั้ง