ดราม่าล่าสุดกรณีพนักงานต้อนรับของสายการบิน United Airline ลากผู้โดยสารชาวเอเชียลงจากเครื่องอย่างถึงลูกถึงคนกลายเป็นกระแสล้อเลียนและต่อต้านบนโลกโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งต้นเหตุต้องยอมรับว่าเกิดจากตัวสายการบิน Overbooking หรือจองตั๋วเกินจำนวนผู้โดยสารและการปฏิบัติของพนักงานต้อนรับที่ทำเกินกว่าเหตุอย่างปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ แต่สำหรับประเด็น Overbooking ที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ เราอยากชวนคุณมาสำรวจว่าอะไรคือ Overbooking และมันร้ายแรงอย่างที่หลายฝ่ายเสียดสีกันจริงหรือ
เราไปลองสำรวจเรื่องนี้กันดีกว่าครับ…
อะไรคือการจองตั๋วเกินจำนวน (Overbooking) และมันผิดกฏหมายหรือเปล่า?
Financial Times กระตุกต่อมความเชื่อของเราโดยบอกว่าการจองตั๋วเกินจำนวนนี้เป็นระเบียบปฏิบัติที่สายการบินส่วนใหญ่ทำกันมาโดยตลอด ที่สำคัญมันดันถูกกฏหมายซะด้วย! เนื่องจากสายการบินเหล่านี้ระบุว่าโดยปกติ มีผู้โดยสารเป็นจำนวนมากที่ “ไม่ปรากฏตัว” มาขึ้นด้วยเหตุผลหลากหลาย เช่น พลาดบิน สายการบินที่มาต่อเครื่องดีเลย์ หรือเปลี่ยนแผนการเดินทาง ด้วยเหตุผลทางธุรกิจนี่เองที่ทำให้สายการบินพยายามจองตั๋วให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
การจองตั๋วเกินจำนวนคนดูเหมือนจะเป็นเรื่องจำเป็นในอดีตเพราะจากสถิติของสำนักงานการขนส่งของสหรัฐระบุว่าในปี 1999 มีผู้สละสิทธิการขึ้นเครื่องทั้งอย่างเต็มใจและไม่เต็มใจรวมทั้งสิ้นกว่า 1.07 ล้านคนทั้งปี อย่างไรก็ตาม ในปี 2015 ปรากฏว่าตัวเลขนี้ดิ่งลงเหลืออยู่ที่ 552,000 คนทั้งปีซึ่งน่าจะเกิดจากความสะดวกสบายในการเดินทาง ความเคยชินในการโดยสารเครื่องบิน และขั้นตอนการเดินทางที่ง่ายดายขึ้น
แล้วจะแก้ปัญหายังไงเมื่อเกิด Overbooking?
สิ่งแรกที่สายการบินต้องทำคือการหาอาสาสมัครที่ยอมยกเลิกเที่ยวบินแลกกับเงินชดเชย หากไม่มีขั้นตอนต่อมาคือการมอบคูปองเพื่อนำมาเดินทางหรือแลกเป็นเงินสดภายหลังให้แก่ผู้โดยสารโชคร้ายและยังมีหน้าที่ต้องช่วยผู้โดยสารหาสายการบินอื่นเพื่อเดินทางไปยังที่หมายตามกำหนดการเดิมให้ได้ เงินค่าชดเชยที่จ่ายอยู่ที่ 250 ยูโร (ราว 9.1 พันบาท) สำหรับสายการบินระยะใกล้ และ 600 ยูโร (ราว 2.2 หมื่นบาท) สำหรับสายการบินระยะไกล
7 ข้อผิดพลาดที่ต้องระวังก่อนจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์
แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ? ทางแก้ที่ดีคือการตรวจสอบให้ถี่ถ้วน ไม่เฉพาะแต่รายละเอียดการเดินทางต่างๆ แต่ต้องตรวจสอบถึงประวัติสายการบิน ประวัติกัปตัน และสิ่งอำนวยความสะดวกบนเครื่องบิน อย่าลืมว่าเมื่อเครื่องเทคออฟขึ้นจากพื้นชีวิตของคุณก็อยู่ในกำมือของคนกลุ่มนั้นเรียบร้อย หากคุณจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์เอง เรามี 7 ข้อผิดพลาดควรระวังในการจองตั๋วออนไลน์มานำเสนอครับ
1.อย่ามองข้ามประสบการณ์ในเที่ยวบิน
อย่าเลือกสายการบินด้วยราคาเป็นตัวตั้ง อย่าลืมว่าเมื่อคุณเหินฟ้าขึ้นไปแล้วชีวิตของคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ไม่สามารถหาคนช่วยได้ นอกจากราคาสมเหตุสมผลแล้ว คุณจึงควรเน้นที่ความปลอดภัย ความสามารถและความน่าเชื่อถือของนักบิน นอกจากนี้ยังต้องมองไปถึงลักษณะเบาะนั่ง พื้นที่เหยียดขา ความบันเทิงบนเครื่องและอื่นๆ มากมาย แน่นอนว่าใครๆ ก็อยากได้ของถูกที่สุดแต่หากต้องแลกมากับสุขภาพกายและสุขภาพใจแล้ว ราคาถูกอาจไม่คุ้มเสมอไปนะครับ
2.มองต้นทุนอื่นๆ ร่วมด้วย
ตั๋วเครื่องบินอาจจะถูก แต่อย่าลืมมองอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ตั๋วรอบถูกลงเครื่องเที่ยงคืน หมายความว่าคุณอาจไม่ได้นั่งรถไฟแต่ต้องเรียกแท๊กซี่ ต้องเสียค่าโรงแรมเพิ่มหนึ่งวันเพื่อจองโรงแรมใกล้สนามบิน หรือต้องแบกกระเป๋าเองเพราะไม่มีใครช่วยคุณยกของแล้วในเวลานั้น หากจองตั๋วรอบเช้ามากแล้วคุณเป็นคนชอบตื่นสายก็อาจเสี่ยงตกเครื่องจนต้องยกเลิกเที่ยวบินไปเลยก็ได้ ช่วงเวลาเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการเลือกตั๋วเครื่องบิน
3.สนามบินไหนกันแน่?
เมืองใหญ่ๆ หลายเมืองมีสนามบินหลายแห่ง ไม่ต้องไปไหนไกล อย่างกรุงเทพมหานครก็มีสนามบินสองสนามบินคือดอนเมืองและสุวรรณภูมิ หรือโตเกียวก็มีสนามบินนาริตะกับสนามบินฮาเนดะ ดังนั้นก่อนอื่นเลยคือคุณควรเช็คว่าสายการบินนี้พาคุณร่อนลงที่สนามบินไหนเพื่อวางแผนการเดินทางและที่พัก นอกจากนี้แต่ล่ะสนามบินก็มีราคาค่าตั๋วแตกต่างกันด้วย
หรือบางครั้งหากคุณศึกษาเส้นทางดีพอ คุณอาจบินไปยังสนามบินอื่นๆ ที่ใกล้กับจุดหมายหรือที่พักของคุณแทนที่จะบินลงสนามบินที่คนทั่วไปรู้จัก ทั้งประหยัดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกโข
4.อย่าลืมเคลียร์ cookies
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่ประวัติการค้นหาและการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณก็มีผลต่อตั๋วเครื่องบินที่ค้นเจอด้วย เรื่องนี้อาจไม่มีการระบุอย่างเป็นทางการ แต่เว็บไซต์ independenttraveler.com ระบุว่าหากคุณใช้งานอินเตอร์เน็ตเพื่อค้นหาตั๋วเครื่องบินบ่อยๆ จะมีแนวโน้มที่การค้นหาครั้งต่อๆ ไปเจอแต่ตั๋วเครื่องบินที่มีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาตั๋วเครื่องบินยังขึ้นอยู่กับประเภทของคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้ค้นหาด้วย Barney Harford ซีอีโอของเว็บ Orbitz เว็บไซต์ค้นหาและจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ของสหรัฐฯ ออกมายอมรับเร็วๆ นี้ว่าระบบจะแนะนำราคาโรงแรมที่สูงกว่าปกติให้แก่ผู้ใช้ Mac เมื่อเทียบกับผู้ใช้งาน PC
ดังนั้นทุกครั้งที่คุณเห็นข้อความ “welcome back!” ปรากฏขึ้นเวลาคุณจะจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์…ถึงเวลาลบ cookies แล้วครับ
5.จองตั๋วให้ถูกเวลา
เริ่มเสิร์จค้นหาตั๋วหลังเที่ยงคืนดีกว่าเพราะเป็นเวลาที่หลายสายการบินจะรีโหลดคอมพิวเตอร์พร้อมส่วนลดและตัดคนที่จองตั๋วแต่ไม่จ่ายเงินออกไป แต่หากคุณหาตั๋วในวันกระชั้นชิด เจาะตรงเข้าไปยังเว็บไซต์ของสายการบินที่คุณหมายตาเลยจะมีข้อมูลที่อัพเดทมากกว่าเพราะบางครั้งข้อมูลที่มายังแอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์รวบรวมตั๋วเครื่องบินอาจยังไม่อัพเดทข้อมูล อย่างไรก็ตาม หากไม่อยากพลาดดีลสุดพิเศษ ลองเช็คราคาตั๋วเครื่องบินทั้งสัปดาห์แล้วค่อยตัดสินใจดีกว่า
6.อย่าบินในวันศุกร์และอาทิตย์ถ้าเลี่ยงได้
ราคาตั๋วเครื่องบินมีแนวโน้มจะแพงมากในวันศุกร์และอาทิตย์ เหตุผลง่ายๆ คือมันเป็นเวลาเหมาะเจาะสำหรับช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สำหรับวันที่น่าจองตั๋วมากที่สุดหากคุณไม่มีธุระอะไรคือวันอังคาร พุธ และเสาร์ ดังนั้นลองเปลี่ยนเป็นบินวันพุธตอนเย็นและกลับมาวันเสาร์เย็นเช่นกันก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่หยอกทีเดียว
7.อย่าลืมเช็คหลายๆ เว็บไซต์
หลายคนอาจเน้นเลือกแอพฯจองตั๋วที่ตัวเองเคยใช้แล้วดี แต่แนะนำว่าควรค้นหาดีลจากหลายๆ แอพพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์เพราะทุกๆ ที่ก็ได้รับดีลมาจากที่เดียวกันคือสายการบินนั้นแหละ และที่สำคัญคือเบื้องหลังแต่ล่ะเว็บไซต์ คุณจะพบว่าพวกเขามีอัลกอริธึมที่แตกต่างกันทำให้ผลแสดงราคา เวลาบิน และออฟชั่นต่างๆ แตกต่างกันไป
สุดท้าย ก่อนกดจองตั๋วให้ไล่เช็ควัน เวลา สนามบินให้ชัดเจนอีกครั้ง หากพร้อมแล้วก็กดจองตั๋วไปเลยครับ :)
Source