Google Search Engine คือ Search Engine อันดับ 1 ของโลกที่ดูแล้วไม่น่าจะมีใครโค่นลงได้ เพราะจำนวน User ที่มากกว่า 4 พันล้านคน ในแต่ละวันมีคนเข้ามาใช้ Google ค้นหาข้อมูลมากถึง 8,500 ล้านครั้ง หรือ 99,000 ครั้งในทุกๆวินาที แต่บังลังก์ของ Google Search กำลังสั่นคลอน เมื่อมีคู่แข่งมาท้าชิงนั่นก็คือ ChatGPT Search ที่หลังจากเปิดตัวออกมาทำเอาหุ้น Alphabet ร่วงลงไป 2% เช่นเดียวกับหุ้น Microsoft ที่มี Bing เป็น Engine คู่แข่งก็ร่วงลงไป 6% เลยทีเดียว
ChatGPT Search ไม่ใช่อะไรใหม่เพราะมันก็คือ ChatGPT ที่เพิ่มฟีเจอร์ Search เข้ามาให้ใช้งานเพื่อให้ ChatGPT ที่เดิมข้อมูลไม่ Real-Time ได้ข้อมูล Real-Time จากเว็บไซต์ต่างๆมาให้คำตอบกับเราได้แล้ว พร้อมเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วย Link อ้างอิงมาให้ด้วย
เหตุผลที่คนมองว่า ChatGPT จะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Google Search ก็เพราะ มีโอกาสที่ ChatGPT Search จะกลายเป็น “วิธีการใหม่” ที่คนใช้หาข้อมูลในโลกออนไลน์แทน Google Search ได้
เรื่องนี้ไม่ต้องสำรวจที่ไหนไกล คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง Bitkub ก็เคยให้สัมพาษณ์กับ TNN เอาไว้ด้วยว่าเขาเลิกเสิร์ช Google มานานแล้วแต่หันมาใช้ ChatGPT แทนเพราะให้คำตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องมานั่งกด link รอโหลดเว็บไซต์ต่างๆเพื่อหาข้อมูล
ChatGPT Search ไม่ได้สั่นสะเทือนถึงธุรกิจของ Google เพียงเท่านั้นแต่สะเทือนถึง Microsoft ที่มี Bing เป็น Search Engine หลักรวมไปถึงยักษ์ใหญ่อย่าง Meta ที่กำลังพัฒนา Search Engine ของตัวเองเพื่อนำไปใช้กับ Meta AI ของตัวเองด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ChatGPT Search ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังมีข้อจำกัดหลายอย่างเช่น เนื้อหา Real-Time ที่นำมาตอบกับผู้ใช้งานยังมาจากแหล่งข้อมูลที่จำกัด ทำให้ขอบเขตเนื้อหายังคงจำกัดอยู่แค่บางเรื่องเช่น ข่าว,ผลกีฬา, สภาพอากาศ,หุ้น เป็นต้น
ChatGPT Search จะเน้นมากว่าข้อมูลที่นำมาใช้คุยตอบโต้กับผู้ใช้งานจะเน้นที่ “ความโปร่งใส” ใช้ข้อมูลจาก Publisher ที่ร่วมมือกันเท่านั้น เช่น The Associated Press, Reuters, Axel Springer, Condé Nast, Hearst, Dotdash Meredith, the Financial Times, News Corp., Le Monde, The Atlantic, Time และ Vox Media เป็นต้น
มูฟนี้ของ ChatGPT เรียกว่าเพื่อป้องกันการถูกฟ้องร้องจากการนำข้อมูลไปให้ AI เรียนรู้ อย่างกรณีก่อนหน้านี้ สื่ออย่าง The New York Time ก็คือฟ้องร้อง OpenAI รวมถึง Microsoft ในกรณีนี้มาแล้ว ส่วน Wall Street Journal และ New York Post เองก็เคยฟ้องร้อง Perplexity แพลทฟอร์ม AI Search Engine ที่นำข้อมูลของตัวเองไปให้ AI เรียนรู้โดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้วเช่นกัน
ถามว่า ChatGPT Search จะโค่น Google ได้ไหม หลังจากนี้ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ChatGPT Search จะพัฒนาไปมากแค่ไหน และจะทำให้พฤติกรรมการค้นข้อมูลของคนเราเปลี่ยนแปลงจากการค้น Google มาสู่การ “ถาม” ChatGPT ได้มากแค่ไหน เช่นเดียวกันกับ Google ที่มี AI อย่าง Gemini จะกล้าพัฒนาฟีเจอร์แบบเดียวกันนี้ให้ Gemini และมาแย่งส่วนแบ่งตลาด Google Search ที่ครองส่วนแบ่งรายได้มากที่สุดในโลกหรือราว 58% หรือไม่ต้องติดตาม