“AI มาเราอาจจะตกงาน ความสามารถของ AI อาจจะมาแย่งงานคนไป จะมาเปลี่ยนโลก จะมาทำให้ชีวิตคนดีขึ้น หรืออันตรายขึ้น เพราะมันรู้ใจเราจนรู้ดีกว่าตัวเอง”
วาทะคำคมพวกนี้ทำให้เราไม่รู้ว่า ตกลงแล้่ว AI นั้นดีหรือไม่ดีกันแน่ ต่อยอดไปสู่คำถามที่ว่า “แล้วคนฉลาดๆในโลกนี้คิดอย่างไรกับ AI”
มีงานวิจัยหนึ่ง ที่ได้ทำสำรวจสอบถามไปยังคนที่คิดว่าฉลาดราวพันกว่าคนทั่วโลก เป็นนักวิจัยบ้าง เป็นอาจารย์ในมหาฯลัยบ้าง บางคนก็เรียกตัวเองว่าเป็นนักอนาคตศาสตร์เลยก็มี มาดูกันว่า คนพวกนี้จะพูดถึง AI กันไว้ว่าอย่างไร?
1. ถ้า AI กับ Machine Learning เป็นแหล่งอำนาจกับความมั่งคั่งจริง เราคงกำจัดความยากจน โรคภัยไข้เจ็บ คนก็เข้าถึงการศึกษาที่ดีได้มากขึ้น แต่มันก็อาจจะถูกใช้เป็นอาวุธ หรือสร้างความร่ำรวยแล้วทิ้งคนอื่นไว้ข้างหลังได้เหมือนกัน
2. ปี 2030 สถานการณ์ทางสังคมส่วนใหญ่จะมีหุ่นยนต์มาอำนวยความสะดวก มาคอยพูดคุยโต้ตอบกับคนที่บ้าน พ่อแม่ก็ให้หุ่นยนต์ช่วยสอนการบ้านลูก ที่ทำงานก็ให้หุ่นยนต์จัดประชุมให้ กลายเป็นที่ปรึกษาประจำตัวของทุกคน
3. AI จะทำให้เราเห็นปัญหาเรื่องของการเลือกปฏิบัติ การลงโทษที่ไม่เป็นธรรมในหลายๆงานมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นประกัน การหางาน หรือแม้แต่การประเมินผลงานของพนักงานๆ
4.โอกาสที่มาพร้อมกับ AI มันไม่มีจำกัด ประเด็นคือยิ่งมันใช้งานได้ง่ายแค่ไหน มันก็อยากรู้เรื่องของเรามากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมความชอบ ความสามารถ การใช้ชีวิต เราต้องเลือกแล้วล่ะ ว่าอยากให้มันเกิดขึ้นจริงหรือเปล่า?
5. AI จะเป็นเครื่องมือที่มนุษย์เอาไปใช้ทำอะไรก็ได้รวมไปถึงการได้อำนาจ จะมีการใช้ AI ในทางที่ผิด เหมือนที่เอา AI ไปใช้พัฒนาวิทยาศาสตร์และสังคม และเรื่องแบบนี้มันไม่แน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ
6. ในอนาคต เราต้องการคนที่มีทักษะหลากหลาย ทำงานที่ไม่เคยมีมาก่อน เราต้องการชาวนาที่วิเคราะห์ข้อมูลระดับ Big Data เป็น นักชีววิทยาที่มีการอมรมให้เป็นวิศวกร เราไม่ได้เตรียมกำลังคนให้พร้อมแค่ครั้งเดียวแล้วจบ ถ้า AI ถึงจุดอิ่มตัว เราต้องการแรงงานที่พร้อมทำงานกับระบบและเครื่องมือใหม่ๆได้ทันที ความต้องการแรงงานแบบนี้จะมาแรงจนโรงเรียน มหาฯลัย ที่ทำงานไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ จน AI ทำให้คนหลายๆคนทำงานไม่เป็นในที่สุด
7. ปี 2030 AI จะถูกใช้เป็นอาวุธที่ดีกว่าอาวุธที่มีอยู่ในตอนนี้จนกลายเป็นเรื่องปรกติ
8. AI จะทำให้เราทำงานแล้วได้งานมากขึ้นและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
9. ปี 2030 AI จะเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมคน โดยเฉพาะของการเข้าสังคม การพบปะพูดคุย มันจะเกิดขึ้นได้ทุกที่พร้อมๆกัน
10. เกิด AI มันนำไปสู่สงครามแบบหุ่นยนต์สู้กับหุ่นยนต์ขึ้นมาจริงๆจะทำอย่างไร หากหุ่นยนต์พวกนี้ไม่มีใครดูแล มันก็ฆ่าคนได้โดยไม่ได้ลังเลหรือต้องรับผิดชอบอะไร เราต้องกลับมาคิดกันใหม่ ว่าสังคมแบบไหนกันแน่ที่เราอยากใช้ชีวิตอยู่
11. AI จะทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่นอน มันจะมายืดชีวิตของเราไม่ว่ามันจะมาในรูปแบบของแอปฯสุขภาพคอยเตือนโรคภัยไข้เจ็บ คอยบอกว่าผู้สูงอายุคนไหนที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ งานหลายๆอย่างของเอเจนซี่หรือองค์ก็ยกให้ AI ทำ ก็ทำให้พนักงานไม่ต้องมานั่งทำงานที่ไม่ได้พูดคุยกับคน ก็จะทำให้ชุมชนมีความสุขขึ้น
12. AI จะกลายเป็นอำนาจและความมั่งคั่งใหม่ให้กับบริษัทไม่กี่เจ้าในจีนและอเมริกา และคนส่วนใหญ่นี่แหละที่จะเสียหาย
13. ต่อไปเราไม่ต้องมานั่งคิดละว่าเช้านี้จะกินอะไร ออกกำลังกายตอนเช้าแบบไหนดี แล้ววันนี้จะทำงานอะไรก่อนหลัง เพราะอัลกอริธึ่มมันเลือกให้เราแล้ว เลือกให้เราได้ทำมันอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด เผลอๆช่วยให้พนักงานทำกำไรสูงๆได้ด้วย ดีไม่ดีไม่เกินปี 2030 เราจะได้ทำอะไรได้มากขึ้น ยุ่งมากๆจนไม่คิดว่าชีวิตเราจะดีขึ้น
14. AI จะสร้างโลกที่ความจริงเป็นเรื่องที่ควบคุมดัดแปลงไปในทางที่เราไม่พอใจได้ไม่ว่าจะเป็นคลิปปลอม เสียงปลอม หรือสื่อปลอมๆทำให้ไม่มีใครแยกว่าอะไรจริงไม่จริงได้เลย
15. มันเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีอย่าง AI จะกลืนกินชีวิตของเรา และไม่มีความรู้อะไรที่ไหนจะหยุดสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่
16. AI มีประโยชน์กับพวกมืออาชีพกลุ่มเล็กๆแต่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือควบคุมคนก็ได้
17. AI จะเป็นภัยต่อผู้บริโภค คนรวยได้ประโยชน์จากรถขับอัตโนมัติ ในขณะที่หลายๆคนต้องติดตั้งอะไรหลายๆอย่างให้กับตัวรถเพิ่ม เพิ่มให้ทำงานกับ AI ได้
18. แรงงานที่ไม่มีทักษะจะต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะอนาคตอาจจะไม่มีใครจ้างเลย ถึงตอนนั้นสังคมก็จะเปลี่ยนถึงขนาดที่เราเห็นมันเปลี่ยนในยุคของทรัมป์กับ Brexit น่ะแหละ
19. เราต้องระวังให้ดีว่าจะใช้ AI กับ Machine Learning อย่างไร? หากมีคนใช้มันผิดๆ เกิดมีบั๊คหรืออันตรายขึ้นมาจริงๆ
20. หากในอนาคตทางแก้ปัญหาหรือความต้องการเรื่องพลังงาน รถ ทางด่วนแม้แต่อินเตอร์เน็ตมันทวีความซับซ้อนยิ่งขึ้น พวกนี้ก็จะใช้งานไม่ได้ ถ้าไม่มี AI
21. ผมกำลังคิดถึงโลกที่อุปกรณ์ติดตัวทุกคนจะคอยเช็คสุขภาพและความปลอดภัยของพวกเรา ลองนึกถึงสภาพสังคมเมืองตอนนี้ดูสิ ถ้าอุปกรณ์ของต่ละคนมี AI เชื่อมกันอยู่ คอยเช็คว่าที่ไหนเสียงดังวุ่นวาย เช็คคุณภาพอากาศในแต่ละจุด เหตุการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ AI ในแต่ละอุปกรณ์ที่เรามีจะวิเคราะห์ให้ข้อมูลหมดว่าอะไรเป็นสาเหตุ สุขภาพของเราจะเป็นอย่างไรถ้าไปอยู่ในแต่ละจุด แม้แต่คอยเตือนว่าแถวไหนมีแนวโน้มเกิดอาชญากรรมให้ตำรวจสอดส่อง
22. คนจะเห็นความสำคัญของการพบปะพูดคุยโต้ตอบกันมากขึ้น โดยมี AI คอยสนับสนุนอยู่ ชีวิตแบบ”สโลว์ไลฟ์” กันมากขึ้น อย่างการจ่ายตลาดซื้อของ ก็ใช้ให้ AI ไปทำ ตัวเองก็เตรียมทำอาหารอยู่บ้าน ไม่ต้องรีบไปซื้อของ หรืออย่างพวกการรีไซเคิล การลดขยะ การเอาของกลับมาใช้ใหม่ พอเอา 3D Printer หรือเครื่องพิมพ์สามมิติมาใช้ มี AI มาช่วยทำงาน ก็ทำให้ขยะกลายเป็นผลงานใหม่ๆได้ด้วย
23. ลองคิดดูว่ามันจะดีแค่ไหน ถ้าเกิดเรานั่งรถขับอัตโนมัติอยู่แล้วเราสามารถอ่านหนังสือบนกระจกรถไปด้วยได้ เกิดไอเดียดีๆมันมาระหว่างทาง เราก็ใช้เสียงพูดจดโน้ตได้ ไม่ต้องมานั่งพะวงพวงมาลัย และถ้าเกิดมีรถติดอยู่ข้างหน้า AI ก็จะเตือนให้เรารู้ล่วงหน้าสัก 10 นาที การคุยกันระหว่าง AI กับคนขับจะเป็นธรรมชาติและไร้ที่ติ อย่างกับจาร์วิสคุยกับพวกอเวนเจอร์อย่างนั้นเลย แต่ AI ยุกแรกๆก็จะโฟกัสไปที่ฟังก์ชั่นเฉพาะในรถและพวกงานส่วนตัว จดโน้ต อ่านข่าวไปก่อนนะ
24. AI ที่อยากให้มีมากที่สุดไม่ใช่ AI ที่ไว้ก่ออาชญากรรมแต่เป็น AI ที่คอยเตือนวินาศกรรมล่วงหน้า พวกโรคภัยโรคระบาด รวมถึงภัยสิ่งแวดล้อม เราจะได้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
25. เราหวังว่าพวกสมาร์ตฟาร์มกับระบบจำหน่ายสินค้าที่เชื่อมกันจะช่วยลดพื้นที่ที่ขาดแคลนอาหาร เพิ่มการผลิตอาหารในที่ที่ไม่เหมาะกับการทำนาทำไร่
สมัยที่ยุคอินเตอร์เน็ตบูม คนก็เถียงกันว่าอินเตอร์เน็ตมันดีหรือไม่ดี จนตอนนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ AI ก็เหมือนกัน สุดท้ายก็แล้วแต่เจตนาของคนเอาไปใช้ว่าจะเอาไปใช้ในทางไหน ก็แล้วแต่ว่าใครจะคิดอย่างไรครับ
ตัวอย่างลิสรายชื่อของกูรูระดับโลก
- Erik Brynjolfsson, director of the MIT Initiative on the Digital Economy
- Vint Cerf, chief internet evangelist at Google
- Judith Donath, Harvard University’s Berkman Klein Center for Internet & Society
- Andrew McLaughlin, executive director of the Center for Innovative Thinking at Yale University, previously deputy chief technology officer of the United States
- Michael M. Roberts, first president and CEO of the Internet Corporation for Assigned Names and Numbers (Icann)
- Danah Boyd, a principal researcher for Microsoft and founder and president of the Data & Society Research Institute
- Robert D. Atkinson, president of the Information Technology and Innovation Foundation
- Greg Shannon, chief scientist for the CERT Division at Carnegie Mellon University
- David A. Banks, an associate research analyst with the Social Science Research Council
- Alan Bundy, a professor of automated reasoning at the University of Edinburgh
- Dana Klisanin, psychologist, futurist and game designer