สรุป 7 เทคนิคสอบผ่าน Facebook Blueprint Media Planning และ Media Buying

  • 2.6K
  •  
  •  
  •  
  •  

Facebook Blueprint Media Planning และ Media Buying เป็น Certification ที่หลายคนโดยเฉพาะคนทำโฆษณาบน Facebook คนทำงานในเอเจนซี่ หรือแม้แต่คนทำธุรกิจทั่วไปให้ความสนใจที่อยากสอบให้ผ่าน แต่ใครที่กำลังเตรียมสอบ Facebook Blueprint จะรู้ว่าเนื้อหามันเยอะมากและไม่รู้ว่าต้องอ่านตรงไหน? แล้วเวลาทำข้อสอบจริงต้องเจออะไร? 

วันนี้จะมาสรุปคร่าวๆว่าเทคนิคที่ใช้เตรียมตัวสอบและสอบจริงใน Facebook Blueprint Media Planning และ Media Buying มีอะไรบ้าง

 

1. อ่าน Study Guide

 

เพราะไม่ว่าจะสอบ Media Planning หรือ Media Buying คำถามก็จะหนีไม่พ้นเรื่องพื้นฐานเช่น Buying Type, Dynamic Advertising, Bidding Strategy, Campaign Budget Optimization, Campaign Objective, Creative Strategy ฯลฯ ฉะนั้นเราต้องอ่าน Study Guide เพื่อให้แน่ใจว่าเราอ่านเก็บหัวข้อสำคัญๆให้ครบ ก่อนไปสอบ 

 

คำถามเกี่ยวกับ Bidding Strategies มีแน่นนอน ทั้งใน Media Buying และ Media Planning

 

และขอแนะนำให้อ่านตรงหมวด Glossary ด้วย ถ้าไม่อยากตกใจเวลาเจอคำศัพท์ที่บางคนอาจไม่รู้จักมาก่อน (เพราะว่าคำศัพท์บางคำอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน Facebook ในชีวิตประจำวัน) 

 

 

2. เน้น Keyword สำคัญในคำถาม

 

อยากจะบอกว่าการสอบ Facebook Blueprint มันคือ Keyword Game คำถามหลายๆข้อในข้อสอบมักจะมี Keyword ที่ซ่อนอยู่ และถามคำถามเกี่ยวข้องกับ Keyword นั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในแนวจำลองสถานการณ์ 

เช่น มีลูกค้าอยู่เจ้าหนึ่ง อยากให้แคมเปญสามารถ “คาดคะเน” จำนวนคนที่สามารถเข้าถึงโฆษณาได้เป็นตัวเลขคร่าวๆจาก Audience Size ที่กำหนด 

คำถามคือเราจะแนะนำให้ลูกค้าใช้ Buying Type แบบไหน?

ข้อสอบเป็นแบบปรนัย ส่วนใหญ่ให้มา 4 ตัวเลือก และใครที่อ่าน Study Guide จะรู้ว่า Buying Type มันมีแค่สองแบบเท่านั้น ฉะนั้นข้อไหนที่ไม่ใช่ Buying Type ก็ตัดออก เหลืออยู่สองข้อที่เป็น Buying Type คือ Reach and Frequency กับ Auction 

 

Auction: หนึ่งใน Buying Type ที่คนทำโฆษณาบน Facebook ใช้ประจำ

 

ส่วนใครที่เคยอ่าน Study Guide จะรู้ว่า Reach and Frequency เน้น Predictability ส่วน Auction เน้น Flexibility ที่ไม่สามารถคาดคะเนจำนวนคนที่แคมเปญสามารถเข้าถึงได้ ฉะนั้นข้อนี้คำตอบคือ Reach and Frequency 

ฉะนั้นขอย้ำว่า เวลาอ่าน Study Guide หรือคอร์สเพิ่มเติมของ Blueprint นั้น Keyword สำคัญมาก

 

 

3. อ่าน Recommended Courses หลังจากทำ Mock-up Exam

 

ขอบอกก่อนว่าข้อสอบจริงนั้น ยากกว่าแบบทดสอบที่อยู่ใน Media Planning และ Media Buying 3 -5  เท่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการจับเวลาทำข้อสอบ แต่ละคำถามจะมีคำถามซ้อนคำถาม บางข้อ ให้เราเลือกคำตอบที่ถูกมากกว่าหนึ่งข้อ บางข้อมีคำนวนด้วย

แต่ไม่ได้หมายความว่า เราไม่ต้องทำ Mock-up Exam ซึ่งจะมี 30 ข้อให้เราได้ลองทำ ทำเสร็จแล้ว ดูคะแนนและดูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง แต่ที่สำคัญคือ Facebook Blueprint จะแนะนำคอร์สออนไลน์(ฟรี) สั้นๆที่เกี่ยวกับคำถามที่เราตอบผิดใน Mock-up Exam ให้เราได้อ่านเข้าใจเพิ่มเติม ตรงนี้แหละที่อยากให้อ่าน จะได้ไม่ไปพลาดเวลาทำข้อสอบจริง

 

 

 

4. แม่นเรื่อง Performance Metrics ต่างๆ

 

ต้องเจอแน่นอนพวก CPM, CPC, CPA, ROAS, ROI, Frequency, Reach ฯลฯ จากประสบการณ์ที่เคยสอบ พบว่าข้อสอบแนว Media Buying จะให้ค่า Metrics พวกนี้มา ซึ่งบางที่ไม่เกี่ยวกับคำถามที่ถามด้วยซ้ำ (เป็นตัวหลอก) แต่ของ Media Planning นั้น Metrics ที่ให้มานั้น เราต้องใช้คำนวนหาค่าที่ข้อสอบถาม

และหนึ่งในคำถามจะให้เราหางบประมาณที่ลูกค้าต้องใช้ซึ่งจะให้ Audience Size, เปอร์เซนต์ของ Reach ที่ลูกค้าอยากได้, Frequency และ CPM ถึงตรงนี้เราต้องหา Reach ให้ได้ว่า Reach คือเท่าไหร่? Impression ที่แคมเปญต้องหามาได้คือเท่าไหร่? แล้วงบที่ต้องมีสำหรับจำนวน Impression ที่ต้องให้ได้นั้น ต้องมีเท่าไหร่? ส่วนตัวเจอคำถามแบบนี้ใน Media Planning 4-5 ข้อ และมีใน Mock-up Exam ด้วย

 

เจอคำถามแบบนี้แน่ใน Media Planning

 

ตรงนี้บางคนอาจจะถามว่า เอาเครื่องคิดเลขเข้าไปได้หรือไม่? ให้กระดาษทดได้หรือไม่? คำตอบคือไม่ได้นะครับ เครื่องคิดเลขจะเป็น Build-in Function ใน Proctor Software ที่ Facebook Blueprint บังคับให้เราดาวน์โหลดก่อนหน้านี้เพื่อทำข้อสอบออนไลน์ แล้วกระดาษทด ปากกา ทางผู้คุมสอบกำหนดห้ามใช้ครับ 

แต่เชื่อว่าการคำนวนนั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไร เราแค่ต้องคล่องเรื่องของคำนวนแบบบัญญัติไตรยางค์และไม่งงว่า CPM และ Frequency สูตรมันคืออะไรครับ

 

 

5. ทำใจกับคำถามที่เราไม่ได้อ่านมาล่วงหน้ามาก่อน

 

เพราะเนื้อหาใน Facebook Blueprint มันเยอะมากจริงๆ บางคำถามเป็นคำถามที่เราไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้ามาก่อน (เว้นแต่บางคนที่ปรกติทำงานเกี่ยวกับหัวข้อของคำถามนั้น) เช่นในข้อสอบ Media Buying มีการถามเรื่องของ Best Practices ของการยิงโฆษณาโดยมี Campaign Objective แบบ Lead Generation ถามว่าเราควรต้อง Customize Disclaimer หรือไม่? ส่วนตัวคือไม่คุ้นเคย 

และอีกข้อคือ SDK ใครที่เคยอ่าย Study Guide มันก็คือ Software Development Kit ที่ใช้ติดกับแอปฯมือถือที่ดักจับพฤติกรรมการใช้งานแอปฯและเราคนทำโฆษณา เอา SDK ไปสร้าง Custom Audience กับคนที่เคยเข้าแอปฯ เหมือนกับ Pixel ของ Website 

ซึ่งข้อสอบ Media Buying มีถามเรื่องนี้และคำศัพท์ในข้อสอบเป็นเรื่องที่เราไม่รู้จัก ก็เลยต้องเดาไป ฉะนั้นบางคำถามอาจจะอยู่นอกเหนือจากสิ่งที่เราเตรียมตัวมาก็ได้

เนื้อหาเกี่ยวกับ Best Practices ในการยิงโฆษณา Lead Generation ที่ออกสอบใน Media Buying

 

 

6. รู้จักการสร้าง Custom Audience, Lookalike Audience และ Core Audience

 

โดยเฉพาะการ Exclude Audience ตามที่ลูกค้าต้องการ (ข้อสอบมักกจะจำลองสถานการณ์ว่ามีลูกค้า แล้วเราจะเป็นคนแนะนำ) เช่นถ้าลูกค้าต้องการหาลูกค้าใหม่ เราก็ควร สร้าง Lookalike Audience แล้ว exclude Custom Audience ที่เป็นลูกค้าประจำ เพื่อที่ลูกค้าจะได้ยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ หรือสินค้าตัวใหม่ เป็นต้น

บางคำถามก็จะยากขึ้นมาอีกหน่อยเช่น ถ้าเราอยากจะสร้าง Value-based Custom Audience ต้องทำอย่างไร? ต้องเอาข้อมูลมาจากไหน? พวกนี้เปนคำถามที่สามารถหาได้จาก Study Guide และต้องคิดวิเคราะห์ต่อให้เป็น

 

 

7. เผื่อเวลาทบทวนคำตอบเอาไว้ด้วย

 

ข้อสอบทั้งของ Media Planning และ Media Buying  จะมีทั้งหมด 60 ข้อ ใช้เวลา 105 นาที สรุป 1 ข้อควรทำเสร็จเฉลี่ยใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที 

คำแนะนำคือ ควรรีบทำให้เสร็จแล้วมีเวลาอย่างน้อย 30 นาทีเพื่อทบทวนคำตอบ ฉะนั้นถึงบอกว่าควรแม่น Keyword เพื่อให้เราประหยัดเวลาทำข้อสอบแต่ละข้อ บางคำถามก็ถามตรงๆและไม่ต้องคิดเยอะ เผื่อเวลาทบทวน และทำข้อสอบที่ต้องใช้คำนวน

 

พอกด Register สมัครสอบ ระบบก็จะให้เราเลือกเวลา สถานที่ที่เราสามารถสอบได้

 

ค่าสมัครสอบตกอยู่ที่ $75 ต่อการสมัครสอบ 1 ครั้ง (ประมาณ 2,300 – 2,500 บาท) ไม่เหมือนสอบ Certificate ของ Google ที่สอบฟรี ฉะนั้นตั้งใจทบทวนเนื้อหาและทำตาม 7 เทคนิคที่ว่าก็น่าจะทำข้อสอบผ่านเกินขั้นต่ำ 700 คะแนน จาก 1,000 ได้ไม่ยากเย็น

 

Copyright by Marketing Oops


  • 2.6K
  •  
  •  
  •  
  •  
Sarunjade
แชร์มุมมองเกี่ยวกับ Digital Marketing, Digital Business และ Technology เท่าที่รู้ สามารถติชมหรืออยากให้เจาะลึกเรื่องไหนเป็นพิเศษ ส่งเมลมาเลยที่ contact@oopsnetwork.co.th