แค่ Mobile site อาจไม่พอ?

  • 217
  •  
  •  
  •  
  •  

DSC08762-3

ปัจจุบันนี้ เว็บไซต์หลายๆ แห่งคงจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้งาน ที่คนเข้าเว็บมาจากมือถือ มากกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ปกติกันแล้ว การสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านมือถือมากขึ้น ที่เรียกว่า Mobile site จึงเป็นที่นิยม และมีความสำคัญ … กระทั่งเฟซบุ๊กและยูทู้ป ก็ต่างก็เผยข้อมูลสถิติผู้ใช้งานของตนในทำนองเดียวกันมาสนับสนุนว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ของเขานั้น (มากกว่าครึ่ง) ใช้งานจากมือถือ (อ้างอิง http://newsroom.fb.com/company-info/, https://www.youtube.com/yt/press/en-GB/statistics.html) พฤติกรรมการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือ จึงสำคัญ และน่าสนใจที่เราควรทำความเข้าใจกันสักหน่อย

เริ่มจากหยิบมือถือขึ้นมา แล้วกดปุ่มให้หน้าจอติด ปลดล็อคมือถือไม่ว่าจะด้วยการพิมพ์รหัส กวาดนิ้ว หรือใช้นิ้วสัมผัส … ถึงจุดที่ต้องตัดสินใจกันแล้ว ว่า “เราจะทำอะไร” ถ้ามองว่าทุกอย่างในมือถือถูกแสดงเป็นแอพฯ ก็จะเป็นตัวตัดสินว่า เราจะเอานิ้วจิ้มไปบนแอพฯ อะไร … ถ้าจะโทรศัพท์ ก็กดแอพฯ โทรศัพท์, ถ้าจะเช็ค SMS ก็กดแอพฯ ข้อความ, ถ้าจะเช็คอีเมล ก็กดแอพฯ อีเมล, ถ้าจะส่งข้อความหาคนรู้จัก ก็กดแอพฯ Line หรือ WhatsApp, ถ้าอยากรู้ว่ามีใครคอมเม้นท์เราบ้าง หรือเพื่อนแชร์อะไรบ้างในเฟซบุ๊ก ก็กดแอพฯ เฟซบุ๊ก … ถ้าจะหาอะไรสักอย่าง ที่นึกไม่ออกว่าแอพฯ อะไรที่จะตอบโจทย์ หรือไม่มีแอพฯ ใดให้คำตอบได้ ก็อาจจะกดแอพฯ ประเภทบราวเซอร์ เช่น Chrome หรือ Safari แล้วพิมพ์สิ่งที่อยากรู้ ลงไปในช่องว่าง แล้วกด “Go” (หรือ “ไป” ในภาษาไทย) ซึ่งจะเป็นการเรียกใช้งาน Search engine และจะแสดงรายชื่อเว็บไซต์ ที่มีข้อมูลในสิ่งที่เรากำลังตามหา ให้คลิกไปอ่านต่อได้ นั่นเอง … นี่คือพฤติกรรมการใช้มือถือของคนทั่วไป ใช่หรือเปล่า?

บนโลกของโทรศัพท์มือถือ สิ่งที่มีอิทธิพลมาก คือการเกิดขึ้นของ แอพฯ ต่างๆ ว่าสามารถตอบโจทย์ ตอบความต้องการ เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้ใช้ มากน้อยเพียงใด ยิ่งมีแอพฯ ที่ตอบโจทย์ข้างต้นมาก การพึ่งพาการใช้ Search engine ของคน ก็จะลดต่ำลง อันจะส่งผลไปยังการใช้งานเว็บไซต์ ที่ลดลงด้วย

หลายๆ ครั้งผมได้ยินผู้มีประสบการณ์การตลาดดิจิทัล กล่าวว่า ในประเทศไทย ผู้ใช้ยังคงติดอยู่กับแอพฯ ไม่กี่แอพฯ ลองคิดกันดูนะครับ ว่าจริงไหม? สำหรับผม แอพฯ ที่ผมใช้ประจำที่ไม่ใช่แอพฯ พื้นฐานที่ติดเครื่องมา (พวก Phone, Camera, Mail, etc.) ก็จะมี Chrome, Google Maps, Line, Messenger, Facebook, TrueID, Youtube, Anywhere, Discord, Citibank TH เป็นต้น … แล้วท่านผู้อ่านล่ะครับ ใช้แอพฯ อะไรประจำกันบ้าง เหมือนกับผม หรือต่างกับผม แชร์กันได้นะครับ … ในต่างประเทศ ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตบนมือถือเกิดขึ้นก่อนประเทศไทยหลายๆ ปี มีผู้ผลิตแอพฯ จำนวนมากมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และพฤติกรรมของผู้ใช้ตอบรับกับแอพฯ เหล่านั้นดี … ผลลัพธ์ก็อาจจะต่างไปกับประเทศไทยของเรา คือ ใช้แอพฯ มากกว่า และค้นหาน้อยกว่า

ด้วยเหตุข้างต้น จึงทำให้ Search engine กับ เว็บไซต์ นั้นรักกันมาก เพราะพึ่งพาซึ่งกันและกัน ถ้าเว็บไซต์หมดความสำคัญ Search engine ก็ได้รับผลกระทบด้วย และในทางตรงกันข้าม ถ้าคนไม่ใช้ Search engine เว็บไซต์ก็จะเดือดร้อนไปด้วย นั่นเอง … บริษัท Search engine อันดับหนึ่งของโลก อย่าง Google จึงได้บุกเบิกเทคโนโลยีเว็บไซต์ใหม่อย่าง Progressive Web Apps (PWA; สนใจอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://developers.google.com/web/progressive-web-apps/) ที่ทำให้เว็บไซต์ มีศักยภาพเพิ่มขึ้น ต่อกรกับแอพฯ (ในสายตาของผู้ใช้) ได้ดีขึ้น เพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เร็วและง่าย คล้ายแอพฯ ทำอะไรบางอย่างได้คล้ายแอพฯ (เช่นการส่ง Notifications หรือการควบคุมการทำงานของมือถือบางอย่าง) ถึงแม้จะยังไม่แพร่หลายในปัจจุบัน แต่ก็เป็นอนาคต หรือเป็นความหวังที่ดี ของเว็บไซต์ นะครับ

Screen Shot 2017-04-02 at 5.24.48 PM

สำหรับคนทำเว็บไซต์ จึงควรติดตามความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมนี้ให้ดี พร้อมไปกับการเตรียมปรับตัว ตราบใดที่คนไทย ยังคงใช้แอพฯ อยู่ไม่กี่แอพฯ การค้นหาด้วย Search engine ก็จะยังจำเป็น และเว็บไซต์ก็จะยังมีความสำคัญ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราควรจะอยู่เฉยๆ … หลังจากที่เราได้ปรับตัวกันไประลอกหนึ่งแล้ว กับการทำ Mobile website หรือ การทำ Responsive website ที่เหมาะกับการชมด้วยมือถือมากขึ้น เรายังควรศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้เว็บไซต์ อยู่เคียงข้างกับแอพฯ ต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย เช่น PWA หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ในอนาคต

เพราะการเปลี่ยนแปลง อาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด และอาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ ไม่ทันให้เราตั้งตัว ;)

 

เขียนโดย เจริญ ลักษณ์เลิศกุล
Expertise: Web Site Evangelist
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่

Copyright © MarketingOops.com


  • 217
  •  
  •  
  •  
  •  
Jarern Lucklertkul
ประสบการณ์ 15 ปี ในหลากบทบาท Digital เช่น Publisher, Service provider, Agency หรือ Brand ปัจจุบันผันตัวไปเปิดโลกในธุรกิจทีวี เพื่อเป้าหมายการวางกลยุทธ์ตลาดแบบ 360 องศา มีความรัก ในเครื่องมือ "เว็บไซต์" อย่างยิ่งยวด เป็นหนึ่งในคณะผู้เขียนหนังสือ "re:digital" ในบทที่ว่าด้วยเรื่องเว็บไซต์ มีอุดมการณ์ที่จะถ่ายทอดสิ่งที่ตนเองได้เรียนรู้ แก่คนรุ่นหลัง จึงริเริ่มสอนเด็กๆ ที่มีไฟ อยากเรียนรู้เรื่อง Digital Business & Digital Marketing ในชื่อโครงการ OBP (Online Business Professional) เป็นโครงการที่ไม่มีค่าใช้จ่าย มากว่า 4 ปี ทำงานให้กับสมาคมไทยเว็บมาสเตอร์ ในฐานะกรรมการและวิทยากร ในค่าย YWC (Young Webmaster Camp) เป็นบล็อกเกอร์อิสระสายบิวตี้สำหรับผู้ชาย ในยามว่าง