เรียนการทำการตลาดจากบทเรียนการชนะของ Donald Trump

  • 280
  •  
  •  
  •  
  •  

ตอนนี้คงไม่มีใครไม่รู้ว่าประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐอเมริกาจะเป็น Donald Trump ซึ่งจากการหาเสียงและดีเบทที่ผ่านมานั้นหลาย ๆ คนคงติดภาพลักษณ์ลูกบ้า หรือความเพี้ยนของ Donald Trump ที่ออกผ่านสื่อต่าง ๆ ซึ่งด้วยภาพลักษณ์และวิธีการสื่อสารแบบนี้ทำให้ Donald Trump นั้นสามารถเอาชนะการเลือกตั้งมาได้ และวันนี้เราจะมาเรียนรู้บทเรียนหลาย ๆ อย่างที่ Donald Trump ใช้แล้วสามารถเอามาใช้กับการทำการตลาดได้ด้วย

nbc-fires-donald-trump-after-he-calls-mexicans-rapists-and-drug-runners

Donald Trump เป็นที่ยี้ของใครหลาย ๆ คนตอนที่ประกาศตัวว่าจะลงสมัครประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และหลาย ๆ คนคิดว่า Donald Trump นี้จะไม่สามารถเอาชนะได้ เพราะมีจุดพลาดหลาย ๆ อย่างในการหาเสียง แต่สุดท้ายแล้วในการลงคะแนนเสียงออกมา Donald Trump ก็ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งการทำ Campaign ของ Donald Trump นั้นแสดงถึงหลักการพื้นฐานและการใช้หลักการใหม่ ๆ ในการสื่อสารเพื่อทำการตลาดได้ด้วย

151229111148-donald-trump-face-super-169

  1. มีกลุ่มผู้ฟังชัดเจน : Donald Trump นั้นรู้ว่าจะต้องสื่อสารกับใครอยากชัดเจน นั้นคือคนอเมริกันที่เป็นชนชั้นแรงงาน หรือกลุ่มที่อยากกลับมามีงานทำ หวนนึกถึงอดีต และสูญเสียประโยชน์อะไรต่าง ๆ จากการที่โอบาม่าเข้ามาเป็นประธานาธิบดีที่ออกนโยบายต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าสิทธิตัวเองสูญเสียไป ซึ่งนี้เหมือนกับการทำการตลาดที่ต้องรู้ว่า Target ตัวเองเป็นใคร กำลังมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น
  2. พูดในสิ่งที่ผู้ฟังอยากจะฟัง : Donald Trump เข้าใจว่าคนอเมริกันที่เป็นกลุ่มเป้าหมายตัวเองนั้นมีความต้องการที่อยากจะมีงานทำ เกลียดผู้อพยพที่เข้ามาแย่งงาน เกลียดความเท่าเทียมกันทางเพศ สีผิวและอื่น ๆ และคนกลุ่มนี้ปรับตัวไม่ทันต่อเทคโนโลยีกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทำให้ Donald Trump นั้นจึงสื่อสารและออกสื่อที่ดูเหมือนสร้างความขัดแย้งเพื่อเอาใจกลุ่มผู้ฟังตัวเอง ซึ่งนี้เหมือนหลักการของการทำการตลาดที่ต้องเข้าใจว่าผู้บริโภคนั้นอยากจะได้อะไร แล้วจะสื่อสารในสิ่งที่ผู้บริโภคอยากจะฟังยังไง
  3. มี Positioning ที่ชัดเจน : สิ่งที่ Donald Trump ทำคือการประกาศและสร้างตัวตนที่ชัดเจนเลยว่าเห็นด้วยกับเรื่องไหนและไม่เห็นด้วยกับเรื่องไหน และทำตัวว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมืองที่จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงในการเมือง ซึ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายและประชาชนนั้นฝังภาพลักษณ์และมี Positioning ที่ชัดเจนของ Donald Trump ทันที เช่นกันการมี Positioning ที่ชัดเจนนั้นช่วยทำให้เกิดการจดจำและการฝังความคิดเข้าไปในหัวผู้บริโภคทันที
  4. ลดความสำคัญของคู่แข่งลง : การลด Positioning ของคู่แข่งลงเป็นสิ่งที่ Trump นั้นถนัดในการทำอย่างมาก โดยการสร้างจุดจดจำคู่แข่งแบบแย่ ๆ ให้กลุ่มเป้าหมายหรือคนที่ติดตามฟังเช่น การให้ฉายาคู่แข่งของ Trump อย่าง “Low energy Jeb”, “lyin’ Ted”, “Little Marco” และ “Crooked Hillary” ซึ่งดูเหมือนเป็นการแสดงออกที่แย่ แต่กลับกลายเป็นว่าได้ผลเป็นอย่างดีในการเรียกสื่อ และสร้างกระแสขึ้นมา นอกจากนี้ยังต้องทำให้คู่แข่งนั้นเสียเวลาที่จะมาแก้ต่างในการโดนโจมตีด้วยฉายาเช่นนี้อีก การแข่งขันในการตลาดก็เช่นกัน การสร้างจุดได้เปรียบเหนือจุดเสียเปรียบของคู่แข่งนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพื่อเอาชนะเช่นกัน
  5. สื่อสารให้ชัดเจน โฟกัส ทรงพลัง และเน้นย้ำ : Make America Great Again เป็นสโลแกนของ Donald Trump ในครั้งนี้ อย่างที่บอกไปว่า Trump รู้ว่าคนฟังนั้นอยากได้อะไร จึงสื่อสารออกมาเป็นสโลแกนนี้ที่เข้าใจอย่างง่าย กระชับ ทำให้คนนึงถึงอดีต แถมทรงพลังในตัวเอง แถมทุกครั้งที่สื่อสารในนโยบาย Trump เลือกจะใช้คำที่ดูแล้วยิ่งใหญ่แต่เข้าใจง่าย และเน้นย้ำกับพูดคำที่ต้องการบ่อย ๆ เห็นภาพทันทีไม่ว่า “Build the Wall’, “Drain the Swamp”, “Law and Order President”  และ “Bad Deals” ซึ่งนี้ให้บทเรียนเรื่องการสื่อสารที่ดีนั้นไม่ควรจะซับซ้อนเข้าใจยาก และต้องสื่อสารให้ให้บ่อย ๆ เน้นย้ำให้คนนั้นได้จดจำอีกด้วย
  6. เลิกเชื่อวิธีการเก่า ๆ : สิ่งที่พลาดอย่างมากของฝั่ง Hilary Clinton คือการเชื่อผลสำรวจ แต่เมื่อผลออกมากลับกลายเป็นว่า Trump นั้นชนะ ซึ่งนั้นเป็นเพราะคนไม่ตอบตามความจริงในการทำโพส สิ่งที่ Trump ทำคือใช้ Technology Bigdata  ในการช่วยดูกระแสของตัวเองว่าเป็นอย่างไร และจับกระแสตัวนี้เป็นการวัดว่าจะชนะหรือไม่ชนะมากกว่าโพส แถมโฟกัสลงไปในพื้นที่ที่ตัวเองมีสิทธิ์ที่จะชนะไปเลย ซึ่งนี้เหมือนกับการทำการตลาดที่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปการใช้เครื่องมือและข้อมูลก็ต้องเปลี่ยนไป ในตอนนี้ก็ต้องใช้ข้อมูลในออนไลน์มาประกอบเพื่อสร้างความเข้าใจเพิ่มเติมและยึดมั่นในฐานผู้บริโภคของตัวเองให้แน่นก่อน
  7. ใช้ Personalized ให้เกิด : Trump ทำ Campaign หาเสียงที่เจาะเข้าไปเลยในแต่ละคน ทำให้ทุกคนนั้นได้รับข้อความที่ตัวเองอยากจะฟังหรือเหมือน Trump นั้นมาสื่อสารกับตัวเอง แสดงถึงความใส่ใจของผู้หาเสียง และ Trump ไม่ได้ใช้การหาเสียงแบบ Mass เลย ซึ่งนี้เองที่คนทำการตลาดต้องเรียนรู้ในการใช้ข้อมูลมากทำให้เกิดประสิทธิภาพในการสื่อสารที่เจาะในแต่ละบุคคล เลิกการสื่อสารแบบกลาง ๆ ที่เหมารวมทุกคนเข้ามาด้วยกัน
  8. เอาความเร็วเข้าสู้ : สิ่งที่ Trump ทำคือการเข้าไปแก้ต่างหรือแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีการแก้เกมแบบช๊อตต่อช๊อตทำให้เกิดความได้เปรียบในการหาเสียงหรือสร้างกระแสของตัวเองได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นผลมาจากการวางแผนและตัดสินใจ แล้วลงมือทำที่รวดเร็วด้วย ซึ่งนี้ก็เป็นบทเรียนในการทำการตลาดว่า ความเร็วในการแข่งขันคือทุกสิ่งในยุคนี้ การตัดสินใจแล้วลงมือทำเลยมืความสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ชนะ

สิ่งที่ Trump ทำนั้นแตกต่างจากการหาเสียงของนักการเมืองคนอื่นที่จะใช้รูปแบบการหาเสียงแบบการเมืองจนชนะ แต่ Trump เป็นนักธุรกิจ เข้าใจการตลาด วิธีการนี้จึงเป็นเหมือนทั้งพื้นฐานการตลาดและสิ่งที่ปรับเปลี่ยนตามยุคสมัยนี้ที่ Trump นั้นใช้จนชนะ และเป็นบทเรียนที่น่าสนใจให้นักการตลาดอีกด้วย


  • 280
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ