ปฏิเสธไม่ได้ว่า Metaverse กำลังเป็นสิ่งที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นเพียงแค่กระแส แล้วจะสามารถยกระดับเป็น Main Stream ได้ในเร็ววันหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะในวงการเกมนั้นแม้จะยังไม่ได้เต็มรูปแบบ แต่ก็เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเดินบนเส้นทางนี้มาแสนนาน ก่อนที่หลายๆ อุตสาหกรรมหลายๆ วงการจะโอบรับเสียอีก
ดังนั้น ถ้าจะให้เปิดมุมมองว่า Metaverse จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหนในวงการเกม ก็คงต้องขอโอกาสพูดคุยกับตัวแม่แห่งวงการตอนนี้เลย ซึ่งล่าสุด (ปี 2022) ยอด Suscribe พุ่งไปมากกว่า 15 ล้าน! แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหนเธอก็คือ “แป้ง-นัยรัตน์ ธนไวทย์โกเศส” หรือ “แป้ง Zbing z.” เจ้าหญิงแห่งวงการเกม ซึ่งถือเป็น Content Creator บน Youtube ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศคนเลยทีเดียว
ล่าสุด ในเดือนแห่งการเฉลิมฉลองวันสตรีสากลในปีนี้ “แป้ง Zbing Z.” เป็นตัวแทนประเทศไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 5 จาก YouTube ครีเอเตอร์หญิงในเอเชียแปซิฟิก ที่ใช้แพลตฟอร์ม YouTube ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อส่งเสริมสร้างแรงบันดาลใจ และแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญให้กับผู้อื่น รวมไปถึงการแสดงให้เห็นบทบาทของผู้หญิงที่สามารถทำในสิ่งที่ปกติผู้ชายทำและการทำให้เสียงของพวกเธอโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ความรู้สึกต่อโลก Metaverse
แป้ง เล่าว่า ยังไม่ได้สัมผัสเองโดยตรง แต่ที่เห็นคือเห็นจาก teaser ที่เขาปล่อยออกมา แล้วก็มีเพื่อนๆ หลายคนที่แชร์ แล้วก็ให้ความสนใจกันมาก สำหรับส่วนตัวแล้วมองว่า Metaverse เป็นเหมือนโลกใหม่ ปกติตัวเราเองก็จะไปเที่ยว แต่ตอนนี้ต้องอยู่ที่บ้าน แต่ว่าตอนนี้เทคโนโลยีใหม่กำลังเปลี่ยนแปลง การที่เราอยู่บ้านแบบนี้เราสามารถออกไปข้างนอกได้ ผ่านตัว Metaverse
“ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ เห้ย! เหมือนในหนังเรื่อง Ready Player One เลย เหมือนมากๆ เลย แล้วตอนนี้จะกลายเป็นแบบโลกอนาคตแบบนั้นแล้วเหรอ ตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้สัมผัสแล้วก็อยากให้เทคโนโลยีนี้มาบูมเร็วๆ”
ส่วนที่ว่าเเคยเล่นเกมที่เป็น Metaverse หรือยัง แป้งบอกว่า ถ้าเป็นเกมที่เป็น Metaverse แบบเต็มรูปแบบ ยังไม่เคยเล่นแบบนั้น แต่ว่าก่อนหน้านี้ก็เคยเล่นที่เป็น VR ซึ่งถือว่าเป็น Metaverse ระดับหนึ่ง ในยุคที่ VR มาแรกๆ พอเราใส่กล้องเข้าไป เราจะรู้สึกว่าการเล่นเกมของเราเปลี่ยนไปเลย มันไม่เหมืนแบบเดิม โลกของเกมที่เราเห็นที่เราเห็นหน้าจอแค่ตรงนี้อยู่ในแว่นของเราแล้ว มองไปรอบๆ ก็คือเราอยู่ในนั้นเลย
จะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับวงการเกมได้มากน้อยแค่ไหน
ในมุมมองนี้ แป้ง เห็นด้วยเต็มที่ว่ามันจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้แน่นอน เพราะเทคโนโลยีมันทำให้วงการมันเปลี่ยนแปลงขึ้นไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว อย่างตอนแรกเป็นเกมคอมพิวเตอร์ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น เกมเพลย์สเตชั่น หรือเกมคอนโซลต่างๆ ที่ออกมา มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเยอะมากๆ ยิ่งเป็นแว่น VR ที่ออกมาใหม่ มันเหมือนโลกได้ออกมาขับเคลื่อนไปไกล ซึ่งไม่แน่ในอนาคตการที่ Metaverse มาบูม ทั้งในไทยและต่างประเทศเอง อาจจะมีการเริ่มก่อตัวสร้างโครงการต่างๆ ที่ให้ทุกคนได้เข้าร่วมโดยที่ทุกคนอยู่บ้านก็ทำได้ อย่างเช่นงานเกมในอนาคตก็อาจจะจัดใน Metaverse เลยก็ได้ แล้วทุกคนก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเล่นเกม ทำกิจกรรมอะไรก็ได้โดยที่แบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย มันเหมือนกับการขับเคลื่อนวงการไปอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่อาจจะไม่สะดวกที่จะมาหรือลำบากที่จะมา
ส่วนในทางธุรกิจมองว่า เกมในอนาคต อาจจะมีรูปแบบของการเอา Metaverse มาใช้ อาจจะมีเกมใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ประเทศไทยได้ ขับเคลื่อนไปไกลสู่สากลได้ อย่างเกมในไทยก็จะมีเกมที่เกี่ยวกับ VR หรือว่าโลกเสมือนจริงก็หลายเกมอยู่ แล้วทางต่างประเทศก็ให้ความสนใจด้วย ฃจุดนี้อาจจะทำให้วงการเกมขับเคลื่อนไปได้ไกลกว่าเดิม
กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น บรรดาเกมเมอร์หรือแคสเตอร์จะต้องเตรียมพร้อมกับ Metaverse อย่างไร
แป้งมองว่า มันไม่ได้ต้องรับมืออะไรมาก เพราะว่าตัวเทคโนโลยีเอง พอมันเปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่นเวลา Facebook Youtube เปลี่ยนหน้าจอใหม่ เปลี่ยนแพล็ตฟอร์มใหม่ พอมันมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ มันมีการเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติ แต่ว่าอาจจะต้อง รับมือในเรื่องของการที่โลกเราอาจจะไม่ได้กลายเป็นเหมือนเดิมแล้ว จะเริ่มมีโลกเสมือนจริงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะว่าจากที่ดูในทีเซอร์ มันไม่ใช่แค่ว่าตัวเราเข้าไปอยู่ในสังคมอย่างเดียว เข้าไปอยู่ในห้องประชุมอย่างเดียว แต่ว่าเราสามารถไปเดินเขาได้ ว่ายน้ำได้ ตกปลาได้ แต่เป็นโลกที่เราสามารถสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้ เราก็จะได้ประสบการณ์ใหม่จากเทคโนโลยีนี้ด้วย
อุปสรรคและสิ่งที่ต้องพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม
ขณะที่สิ่งที่เป็นอุปสรรคหรือควรจะต้องเพิ่มและปรับปรังให้ดีขึ้น แป้ง มองว่า ตัว VR เองมันก็จะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความร้อน เรื่องของประสิทธิภาพที่ไม่ได้ซัพพอร์ตกับคอมพิวเตอร์ที่รุ่นเก่ามาก แล้วราคาก็ค่อนข้างสูง ทำให้คนที่จะจับต้องได้มันมีน้อย อย่างในประเทศไทยหรือในต่างประเทศเอง คนที่จะมาทำ Youtube เกี่ยวกับพวก VR โดยตรง ค่อนข้างเห็นได้น้อยมากๆ เพราะว่าเกมที่เขาพัฒนา ยังมีไม่มากพอ แล้วอุปกรณ์ที่ซื้อมาเพื่อที่จะซัพพอร์ตกับตัวเกมตัวนี้มันค่อนข้างมีราคาที่แพงและไม่คุ้มกับสิ่งที่ลงทุนไป มันต่างจากเพลย์สเตชั่นที่มีเกมซัพพอร์ตอยู่แล้วเป็นพันเป็นหมื่นเกม เราสามารถซื้อตรงนี้มาแล้วมันคุ้ม แต่ว่าเกม VR ไม่ได้มีตลาดที่ใหญ่มากขนาดนั้น ทำให้การตัดสินใจซื้อมันน้อยลง
“หวังว่าอยากให้มี อย่างตอนนี้อยู่ในยุคที่เราต้องกักตัว เราต้อง Work from home หรือเด็กๆ ที่ไม่สามารถไปเรียนได้ เขาก็จะรู้สึกว่าเหงาไม่ได้เจอเพื่อน ซึ่งถ้าโลกของ Metaverse เขามาจริง เด็กๆ ก็อาจจะสามารถเรียนออนไลน์ได้โดยที่เรามองไปข้างๆ ก็จะเจอเพื่อนเราเลย มันก็จะเหมือนเป็นห้องเรียนออนไลน์ที่ดูดีกว่าการที่เรียนผ่านโปรแกรม Zoom หรือผ่านโปรแกรมคุยตามปกติ อะไรแบบนี้ มันจะได้สัมผัสอะไรใหม่ๆ ขึ้น อีกอย่างก็คือแป้งอยากเห็นแบบ พวกคอนเสิร์ตหรือว่ากิจกรรมที่หลายๆ คนมาร่วม Meeting กัน แล้วอาจจะทำอะไรบางอย่างกันตามพื้นที่ต่างๆ ในที่ๆ เราอยากไป เพราะว่า Metaverse ไม่ใช่พื้นที่ที่ฟิกซ์เลยเราสามารถที่จะไปทีไหนก็ได้ สมมุติว่าเราอยากไป อียิปต์เราก็ไปได้ เราอยากไปอเมริกาเราก็ไปได้ โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายตรงนี้แล้วก็สามารถไปกับเพื่อนๆ ที่เรารักได้ ที่เราเป็นกลุ่มเป็นแก๊งกันไปเที่ยวด้วยกันได้อยากเห็นมุมมองแบบนี้”
ผลกระทบจากช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา วงการแคสต์เกม วงการเกมเมอร์เป็นอย่างไรบ้าง
แป้งเล่าว่า ส่วนตัวเองไม่ได้อาจจะไม่ได้รับผลกระทบด้านธุรกิจัก แต่อาจจะมีผลต่อด้านจิตใจด้าอารมณ์มากกว่าเพราะว่าต้องอยู่บ้านอย่างเดียวเลย แล้วเราเป็นครีเอเตอร์ มันเหมือนกับว่า เราจะต้องมีความคิดผลิดอกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพอเราไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้มองเห็นมุมมองของโลกที่มันกว้างขึ้น มันก็ทำให้ไอเดียตันขึ้นได้ อีกอย่างคือเรื่องของการทำงานความเครียด ก็มีเกิดขึ้นเช่นกัน ด้วยความที่ข่าวด้วยอะไรด้วย มันเหมือนเราได้ซึมซับกับเรื่องพวกนี้ผลกระทบ ทำให้ผลกระทบต่อด้านจิตใจเราจะเยอะกว่า แต่ว่าถ้าพูดถึงเรื่องของธุรกิจ ก็มีบ้าง เรื่องของค่าโฆษณาหรือว่าเรื่องของสปอนเซอร์ ที่อาจจะลดหย่อนลงหน่อย ใช่ค่ะ ก็จะมีผลกระทบตรงนี้ แต่มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
“จากแต่ก่อนเราเคยจัดมีทติ้งกับน้องๆ หรือว่างานเกมแล้วทำให้ได้พบปะกัน ด้วยคามมที่สถานการณ์เกมตอนนี้มันก็ไม่ได้ดีมาก ทำให้หลายๆ คนที่จะมาเข้าร่วมงานเกมก็ค่อนข้างลำบาก ตัวแป้งเองก็เลยมองว่า การที่เราผลิตสินค้า หรือว่าอะไรที่เขาสามารถที่จะซื้อนำไปเก็บได้ นำไปใช้ได้เป็นของเอ็กซ์คลูซีฟ ก็เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ดีมากๆ เลย”
เส้นทางใหม่กับ ‘ธุรกิจออฟไลน์’ ต่อยอดจากออนไลน์
จากที่ช่วงโควิดก็อาจทำให้ติดปัญหาเรื่องการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ ทำให้เป็นโอกาสดีทีได้ Collaboration ร่วมกับแบรนด์ ในการต่อยอดจากความสำเร็จที่ออนไลน์มาสู่ธุรกิจออฟไลน์ ในการออกรองเท้าแตะ ลายน้องแมว ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงคอนเทนต์ไลนฟ์สไตล์
แป้งเล่าว่า เป็นคนที่ชอบใส่รองเท้าแตะอยู่แล้ว ก็เลยมีการคอแล็บฯ กับ Kito Lab ก็จะเอาพวกรูปของน้องแมว ที่เด่นๆ ในช่องมาทำเป็นลายน่ารักๆ ก็จะมี “น้องนาซ่า” กับ “น้องซิมบ้า” ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เราเริ่มทำคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับ น้องแมวที่เลี้ยงเอาไว้ เป็นคลิปที่ค่อนข้างโดดเด่นมากๆ จนเกิดเป เป็น Kito Lab X ZBing Z. เป็นครั้งแรกที่สร้างขึ้นมาเพื่อที่ให้น้องๆ (แฟนคลับ) ที่แบบไม่ได้มาพบเจอกันตัวเป็นๆ ได้เก็บของเราเป็นที่ระลึก แล้วอีกอย่างเราก็จะมีการจัดกิจกรรมที่เป็นแบบแนวออฟไลน์ เช่น ให้น้องๆ ได้มาร่วมกิจกรรมในเพจแจกของรางวัลเป็นระยะๆ ด้วย เพื่อเป็นการสานต่อและทำแอคทิวิตี้กับน้องๆ
“มันยากกว่าตรงที่ว่าเราไม่มีประสบการณ์ในเรื่องของการขาย เรื่องของการโปรโมทในเรื่องของสินค้า อย่างแบรนด์ดิ้งที่เข้ามาในช่องคือเป็นแบรนด์ดิ้งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แล้วเขาสามารถขายได้ด้วยตัวเขาเองอยู่แล้วเราเป็นแค่คนที่มารีวิว เราเป็นแค่คนที่มาประกาศให้คนอื่นรู้ว่า สินค้าตัวนี้มันเป็นแบบนี้นะ เขามีโปรโมชั่นแบบนี้นะ แต่ว่าด้วยความที่เป็นสินค้าของเราเอง มันเป็นความยากที่ ยิ่งคนไม่มีประสบการณ์ ถ้าเกิดว่าเราไปผิดทางมันอาจขายไม่ออกเลยก็ได้ ต้องศึกษาตรงนี้เยอะมากๆ”
มองอนาคตทิศทางวงการเกมไทย ทิศทางจะเป็นแบบไหนต่อไปอย่างไร
ในฐานะที่อยู่ในวงการเกมมาเกือบ 10 ปี และถือว่าเป็นแถวหน้าในวงการ อยากให้แป้งได้มองอนาคตทิศทางของวงการต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร แป้งให้ความเห็นว่า น่าจะไปได้อีกไกลมากๆ จากเมื่อก่อนย้อนกลับไปประมาณสัก 7 ปี วงการเกมยังไม่ค่อยบูมขนาดนี้ ซึ่งอันนี้วัดจากสปอนเซอร์เป็นหลักแล้วกัน เพราะว่ายังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์มากมายหลากหลายอย่างเท่าในปัจจุบัน ตอนนี้มีตั้งแต่เครื่องดื่ม ขนม หรือแม้แต่แบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ ฯลฯ
“Youtuber หรือ Content Creator มีคนทำค่อนข้างเยอะ ต้องอ้างอิงจากประเทศญี่ปุ่นเลย ที่เขามีการทำโพลขึ้นมาบอกว่า เด็กๆ รุ่นใหม่โหวตเลยว่าอยากจะเป็นอะไรมากที่สุด อันดับ 1 ของเด็กญี่ปุ่นเขาบอกว่าอยากเป็น Youtuber นี่มันบอกให้เราเห็นเลยว่า ถ้าแพล็ตฟอร์มเว็บไซต์หนึ่ง สามารถทำให้คนอยากจะเป็นสิ่งนั้นได้ ด้วยความที่ Youtuber เองเขาเป็นคนที่สามารถสร้างสรรค์อะไรเองก็ได้ในช่องของตัวเอง มันเป็นอาชีพที่ค่อนข้างอิสระ ทำให้คนอยากจะเป็นเยอะ แล้วตัวแป้งเอง พอมองหันหลังไปจะเห็นว่าคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มทำแบบนี้ เริ่มทำแบบแป้งเอง เริ่มทำแบบบล็อกเอย ทำแนวไลฟ์สไตล์เอย หรือว่าจะเป็นบิวตี้บล็อเกอร์เอย ทุกคนล้วนแต่จะมีความสามารถเองทั้งนั้น”
ดังนั้น วงการของการทำอาชีพออนไลน์ มันค่อนข้างที่จะเติบโตเยอะขึ้นมากๆ เลย แล้ววงการเกมก็เหมือนกัน ตอนนี้เริ่มมีสปอนเซอร์หลายอย่างเข้ามาเยอะมากๆ แล้วก็เริ่มีการผลักดันนักกีฬา E-Sport เมืองนอกเลย มีการแข่งขัน มีเงินรางวัลเยอะมาก เกมในไทยเองก็มี ไม่ว่าจะเป็นเกม Free Fire, PUB G หรือว่าจะเป็นเกมต่างๆ ก็มีการแข่งขันที่ชิงรางวัลเยอะเหมือนกัน ทำให้อาชีพของ E-Sport นักแข่งเกม คนที่เป็น Youtuber หรือคนที่แบบรีวิวเกมเฉยๆ ก็มีอาชีพ ก็มีรายได้ได้เหมือนกัน นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้น ที่คิดว่านี่ยังไม่ใช่ปลายทางของอาชีพ Youtuber และวงการเกมก็น่าจะไปต่อได้อีกไกล
“งานเกมเดี๋ยวนี้คือใหญ่มาก ใหญ่พอๆ กับงานบ้าน งานรถ งานมอเตอร์โชว์เลย คือมันทำให้เราเห็นว่าเริ่มมีชาวต่างชาติ เริ่มมีหลายๆ คนเริ่มมีผู้ใหญ่หลายๆ คนเริ่มเล็งเห็นว่าตรงนี้เป็นธุรกิจที่สามารถจะไปต่อได้ และพร้อมที่จะมาลงทุน”
ให้คำแนะนำการทำคอนเทนต์ที่ดีแก่รุ่นน้อง
สำหรับคำแนะนำที่ “แป้ง” ให้แก่รุ่นน้องในการทำคอนเทนต์ที่ดีว่า ไม่ว่าน้องๆ จะทำช่องแบบไหน ทำไลฟ์สไตล์แบบไหน สิ่งที่เราควรยึดหลักจริงๆ คือความถูกต้อง เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนที่ไปผิดทางบ่อย ไปเวย์อื่นที่แบบว่าไม่เหมาะไม่ควร สำหรับส่วนตัวจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบว่าการพนันเลย ซึ่งมันทำให้ภาพลักษณ์ของเราคลีนมากๆ ก็อยากให้คนรุ่นหลังๆ ยึดหลักนี้เหมือนกันด้วยเพราะว่าไม่ว่าแบรนด์อะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยเขาก็ต้องเช็คประวัติของคนที่เคยทำมาอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้แบรนด์ของเขมีความเสียหาย แล้วพอเราได้งานตรงนี้ สิ่งที่เราควรจะทำมากๆ ก็คือ ความจริงใจต่อแบรนด์ แล้วก็ไม่ว่าสินค้าอะไรก็แล้วแต่ ต้องรีวิวด้วยความจริงจัง รีวิวด้วยความจริงใจ แล้วก็ซื่อตรงต่อคนที่เขาเข้ามาดูเราด้วย
วงการเกมไทย ยังขาดอะไรและยังต้องการการสนับสนุนอะไรบ้าง
ท้ายที่สุดสิ่งที่ “แป้ง” อยากจะเห็นวงการเกมไทยยกระดับและพัฒนายิ่งขึ้น โดยฝากถึงผู้ใหญ่คนอื่นๆ ว่า อยากให้ทางผู้ใหญ่ สนับสนุนวงการเกมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทางผู้ใหญ่ไม่ได้สนับสนุนเลย ก็มีการสนับสนุนส่วนหนึ่งแต่ว่า อยากให้ผู้ใหญ่มองเกมในมุมที่หลากหลายขึ้น ไม่ได้เฉพาะแค่เรื่องสนับสนุนในแบบสปอนเซอร์ แต่อยากจะให้ทุกคนมองเกมในแง่ที่ดีๆ ของมัน เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นข่าวหรืออะไรก็แล้วแต่บางทีก็จะโทษแต่เกมอย่างเดียว
“ตัวแป้งเองมองว่าเกมมันสร้างอะไรหลายๆ อย่าง ฝึกทักษะ ฝึกสมอง แล้วก็ฝึกหลายๆ อย่างทำให้แป้งมีงานตรงนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีด้วย มันอยู่ที่ การที่เราใช้มันอย่างไรมากกว่า”
ดังนั้น อยากให้ผู้ใหญ่มองเกมในแง่ดี และช่วยสนับสนุนวงการนี้ให้ไปไกลๆ เพราะว่าแป้งเชื่อว่ายังมีเด็กที่มีความสามารถแล้วก็พร้อมที่จะมาอยู่ในวงการนี้เยอะมากๆ แล้วเขาก็รอที่จะได้รับการสนับสนุนจากตรงนี้อยู่