4 ดิจิทัลเอเจนซี่ดาวรุ่ง เปิดใจเหตุผลที่เลือกเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner ในยุคการแข่งขันอันดุเดือดของอีคอมเมิร์ซ

  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •  

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตแบบไม่หยุด ทั้งนี้ มีข้อมูลเปิดเผยว่า ปี 2023 มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทย อยู่ที่ 932,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 14% เมื่อเทียบกับปี 2022 (คลิกอ่านเกี่ยวกับตลาดอีคอมเมิร์ซเพิ่มเติม) แม้นั่นจะเป็นข่าวดี แต่สิ่งที่เป็นความท้าทายเมื่อตลาดเติบโตก็ย่อมมีการแข่งขันที่เข้มข้นอย่างแน่นอน ดังนั้น กลยุทธ์และการวางแผนการตลาดจึงจะต้องเข้ามาช่วยเพื่อทำให้ธุรกิจเติบโต เทรนด์หนึ่งที่เห็นได้ชัดในอีคอมเมิร์ซก็คือ Shoppertainment ซึ่งเชื่อว่านักการตลาดรุ่นใหม่รู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งก็คือการสร้างประสบการณ์การ Shopping ผ่านความสนุกสนานหรือ Entertainment ที่กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน แล้วต้องยอมรับว่าผู้ที่เคลมคำนี้ได้ดีที่สุดคือ TikTok โซเชียลมีเดียที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเปิดตัว TikTok Shop ก็ยิ่งผลักดันให้กลยุทธ์ Shoppertainment เป็นที่ยอมรับมากขึ้นและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ตลาดมากขึ้นด้วย

ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกธุรกิจหรือทุกแบรนด์จะสามารถนำกลยุทธ์ Shoppertainment ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นการมีผู้ช่วยที่ดีในการช่วยกันผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปได้ก็เป็นเรื่องสำคัญมากในยุคนี้ จึงเป็นที่มาของการที่ TikTok Shop จับมือกับเอเจนซี่ผนึกกำลังกันเป็น TikTok Shop Partner ในการให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจและแบรนด์เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งเราได้โอกาสจาก 4 เอเจนซี่สำคัญในวงการอีคอมเมิร์ซที่มาร่วมกันเป็น TikTok Shop Partner ได้แก่ บริษัท เอนี่มายด์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไวท์เลเบิล เอเจนซี จำกัด, บริษัท อัปเปอร์คัซ ครีเอทีฟ จำกัด และ บริษัท แอดเดอะท็อป จำกัด ที่จะมาแบ่งปันแชร์ประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับ TikTok Shop จนสามารถช่วยให้ธุรกิจและแบรนด์ประสบความสำเร็จได้อย่างไรบ้าง

 

การทำงานแบบ As a team สูตรลับความสำเร็จในฐานะ TikTok Shop Partner

 

คุณเกม – กรกานต์ แย้มสัตย์ธรรม Deputy Head, D2C-EC Enablement and Affiliate Business  บริษัท เอนี่มายด์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันว่า หลังวิกฤตโควิดเป็นที่ชัดเจนว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างก้าวกระโดด ประเทศไทยยิ่งชัดขึ้นไปอีกว่าเติบโตต่อเนื่องทุกปี มันอาจจะดร็อป ลงไปบ้างในช่วงที่โควิดเริ่มทรงตัวแต่ก็ยังเติบโตอยู่ ดังนั้น ความท้าทายของธุรกิจนี้ในตอนนี้ก็คือ จะทำอย่างไรให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถอยู่ได้ใน Red Ocean

สำหรับประเทศไทยแม้ TikTok จะเป็นผู้เล่นรายใหม่แต่ก็เข้ามาเปลี่ยนตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ TikTok เริ่มเข้ามาทำในพาร์ทของอีคอมเมิร์ซอย่างจริงจัง ทำให้เราเริ่มเห็นว่าบรรดาแพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซดั้งเดิมเองก็เริ่มมีเปลี่ยนแปลงและปรับตัวเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนใหม่

“รูปแบบการขายของเปลี่ยนไป Journey ผู้ซื้อเปลี่ยนไป เมื่อก่อนคนเข้าไปที่แพล็ตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเพื่อค้นหาสินค้า แต่วันนี้ เมื่อ TikTok Shop เข้ามา ด้วยการลีดผ่านคอนเทนต์ที่เรียกว่า Shoppertainment นั่นแปลว่าเค้าพยายามเข้าถึงอินไซต์ของผู้บริโภค จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่า #ป้ายยา และที่น่าสนใจมากๆ เลยก็คือ การป้ายยานั้นไม่ได้เกิดจากคนดังหรือพรีเซ็นเตอร์ แต่เกิดจากใครก็ไม่รู้บน TikTok แค่เพราะว่าเราชอบคอนเทนต์ของเขาแล้วเราก็รู้สึกว่าอยากได้สินค้านั้นตามเขา (ป้ายยา) เพราะฉะนั้นสิ่งนี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงแบรนด์อย่างแน่นอน”

นอกเหนือจากความท้าทายที่ต้องปรับตัวแล้ว คุณเกมยังแนะนำว่า การทำคอนเทนต์ผ่านกลยุทธ์ Shoppertainment ให้เหมาะกับ TikTok ก็สำคัญมาก ซึ่งได้ให้คำแนะนำว่า สิ่งแรกเลยก็คือ ต้องไม่เฟค ไม่โอเวอร์เคลม เพราะหากวันหนึ่งได้ฟีดแบ็คที่ไม่ดีกลับมามันจะขายไม่ได้เลย ต่อมาคือการผสมผสานระหว่างแบรนด์ดิ้งกับ “ความสนุก” ซึ่งอันนี้ต้องมาก่อน แล้วมันจะโน้มน้าวนำไปสู่การ “ซื้อ” ได้ หรือที่เรียกว่า Call to action อย่างไรก็ตาม การทำ Shoppertainment ไม่จำเป็นต้องเน้นการขายเสมอไป สามารถทำคอนเทนต์ในเชิงสร้าง Branding ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าแบรนด์น่าเชื่อถือก็จะเกิดการซื้อเอง ดังนั้น Shoppertainment สามารถสร้างได้ทั้งในมุมของคอนเทนต์สร้าง Branding และมุมคอนเทนต์สร้างยอดขาย เพราะฉะนั้นแล้วก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการสร้างคอนเทนต์ด้วย

เมื่อถามต่อว่าเมื่อ Journey ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว กระทบกับการทำการตลาดและการทำงานของเอเจนซี่ในปัจจุบันหรือไม่ คุณเกมตอบว่า แน่นอนเพราะว่าเมื่อย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมาก็มีตั้งแต่การใช้พรีเซ็นเตอร์ จนมาถึงยุค Influencer และ KOL ถัดมาก็ KOC ที่หลายคนพูดกัน แต่ตอนนี้กำลังมีคลื่นลูกใหม่ที่เรียกว่า eSOLs” (E-Selling Opinion Leaders (คลิกอ่านเพิ่มเติม) คือคนที่มาช่วยสร้างยอดขายให้แบรนด์ไม่จำเป็นต้องมีฟอลโลวเวอร์ก็ได้ แต่กลับมีทักษะในการขายของที่ดี ยอดขายพุ่งทุกครั้ง

 

 

“ผมเห็น data บางอย่าง บางคนยอด follower ไม่เยอะเลย แต่เขาขายสินค้าได้เก่ง แล้วเขาก็อยากได้ลูกค้า เขาก็กล้าเอายอดขายมาให้เราดูก็พบว่ามันสูงจริงๆ คือเวลาที่เขาไลฟ์หรือทำคลิปลง TikTok เขามีเสน่ห์บางอย่างที่ตรงกับสิ่งที่เรียกว่า Shoppertainment ซึ่งทำให้ยอดขายเขาดี”

ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นการเปลี่ยนแปลงเลยในฝั่งของการเป็นเอเจนซี่ก็คือ ทั้ง Influencer  KOL  KOC หรือแม้แต่ Old Media ไม่ได้หายไปไหนเลย เพียงแต่ทุกอย่างมันพลิกไปมาเรื่อยๆ แล้วแบรนด์อาจจะรับมือมันไม่ทัน ดังนั้น เอเจนซี่ก็จะต้องเป็นตัวกลางที่จะเข้ามาแร็พอัปทั้งหมดให้กับแบรนด์ให้ได้ ต้องให้คำแนะนำแก่แบรนด์ให้ได้ว่าจะต้องทำขั้นไหน แบบไหน ถึงจะเอาชนะการแข่งขันที่สูงอย่างนี้ให้ได้

และกับการได้มาเป็น TikTok Shop Partner คือสิ่งที่ทำให้การทำงานร่วมกับลูกค้าง่ายและมั่นใจได้มากขึ้น สิ่งที่รู้สึกประทับใจเลยคือ การเป็นหนึ่งเดียวกัน As a team ของทีม TikTok Shop ที่มีให้กับเราและลูกค้า (แบรนด์) ซึ่งเริ่มตั้งแต่ Day 1 เลยทีเดียว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มต้นบน TikTok Shop เราไม่เข้าใจตรงไหน เราทำไม่ได้ตรงไหนทีม TikTok Shop จะเข้ามาประสานทันที แนะนำทุกดีเทลอย่างละเอียดจนเข้าใจ

“ประทับใจมากกับการที่ TikTok Shop เปิดประตูรับเราก่อน ในวันที่เรายังอยู่ในช่วงค้นหาตลาดนี้ แต่ทีม TikTok Shop ก็ไม่เคยทิ้งเราเลย ให้ความรู้สึกเหมือนการเป็นเพื่อนร่วมธุรกิจที่ดีต่อกัน ซึ่งวันนี้เราอยู่ได้ก็ต้องบอกว่า เพราะได้มาเป็นพาร์ทเนอร์กับทีม TikTok Shop นั่นเอง”

 

จับมือลุยงาน พร้อมแก้ปัญหาแบบเรียลไทม์ สร้างความสำเร็จร่วมกัน

 

คุณเต – เตชนันท์ ตั้งเทวนนท์ Chief Marketing Officer บริษัท ไวท์เลเบิล เอเจนซี จำกัด เริ่มต้นพูดถึงภาพรวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันว่า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตอย่างไม่ต้องสงสัยและเป็นโอกาสที่ดีของแบรนด์อยู่แล้ว แต่ก็ต้องบอกว่ามี 2 กลุ่มที่อยู่ในตลาดนี้ หนึ่งคือ แบรนด์ที่ตั้งหลักได้ยืนอยู่ได้ประมาณหนึ่งแล้ว กับอีกกลุ่มคือ แบรนด์ที่เป็นดาวรุ่งซึ่งกำลังเข้ามาซึ่งกลุ่มนี้อาจจะกำลังค้นหาทิศทางของตัวเองอยู่ ทีนี้สิ่งสำคัญลำดับแรกเลยในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็คือ จะต้องเข้าใจและเรียนรู้ว่าธรรมชาติของแต่ละแพล็ตฟอร์มทำงานทำหน้าที่แตกต่างกันอย่างไร

ดังนั้น สิ่งที่ทาง ไวท์เลเบิลฯ จะสามารถเข้ามาให้คำแนะนำในการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ก็คือ เราจะทำตัวเหมือนเป็นคุณครูสอนแบรนด์เลยว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ทำอย่างไรบ้าง ซึ่งสิ่งสำคัญเลยที่เราได้เข้าไปช่วยให้คำแนะนำคือด้านกลยุทธ์ในการขยายพอร์ตโฟลิโอ แต่แบรนด์เองก็จะต้องปรับ mind set ด้วยว่า พอบอกว่าเป็นอีคอมเมิร์ซแล้วไม่ได้หมายความถึงการสร้างยอดขายอย่างเดียวหรือต้องได้กำไรออกมาเลยทันที มันคงไม่ได้สำเร็จใน 1-2 เดือน แต่เราจะต้องพูดกันในหลัก 6 เดือนหรือ 1 ปีด้วย มันคือหมุดหมายที่เราจะต้องปักชัยชนะได้ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นหน้าที่ที่สำคัญของเอเจนซี่เช่นกันที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนด์เห็นด้วยเช่นกันว่าเราจะสามารถก้าวไปถึงโกลด์ของเราได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่คุณเต มองว่าน่าจะทำให้สามารถวินในเกมส์อีคอมเมิร์ซได้ในยุคนี้ก็คือ Shoppertainment โดยระบุว่า เป็นเมกะเทรนด์ที่สำคัญ แต่ก็จะต้องหาตัวตนของเราบน Shoppertainment นั้นให้เจอ ว่าตรงไหนที่เหมาะกับเรา

 

 

“สินค้าหลายๆ ตัวที่ขับเคลื่อนโดย Shoppertainment มันคือสินค้าที่ในแบบ Impulse Purchase หรือการซื้อโดยที่ไม่คิด แต่บางแบรนด์เป็นสินค้าแบบ Plan Purchase ก็มี เช่น ต้องรอวันแคมเปญดับเบิ้ลเดทนะถึงจะซื้อ ดังนั้น แบรนด์จะต้องตีโจทย์ให้ออกว่า ถ้าเราจะอด็อป Shoppertainment มาใช้ เราจะไดร์ฟการขายด้วยสินค้าอะไร และใช้โปรโมชั่นอะไร ราคาไม่จำเป็นต้องถูก แต่เพียงแค่หาจุดที่เหมาะสมกับแบรนด์ของเราให้ได้เท่านั้นเอง”

นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญอีกอย่างก็คือ จะต้องเรียนรู้และเข้าใจเบื้องหลังที่มาของความจำเป็นในการทำสิ่งๆ หนึ่ง (Why behind what) ยกตัวอย่างว่า เวลาที่เราเห็นคนอื่นไลฟ์ แล้วเขาขายดีเราก็อยากไลฟ์บ้าง เราก็ทำเลยโดยที่ไม่ได้แคร็กในสิ่งนั้นว่าอะไรคือคีย์สำคัญของมัน ก็จะทำให้เกิดการลงทุนที่เปล่าประโยชน์ (westing investment) ดังนั้น การที่มีทั้งพาร์ทเนอร์ที่เป็นทั้งแพล็ตฟอร์มก็ดี หรือเป็นฝั่งเอเจนซี่ก็ดี ตรงนี้สามารถช่วยแบรนด์ให้ไม่ต้องลงทุนไปอย่างเปล่าประโยชน์ได้

สำหรับความช่วยเหลือของ TikTok Shop Partner คุณเตเล่าว่า นอกจากจะมีในรูปแบบส่วนลดและคูปองต่างๆ แล้ว อีกสิ่งที่คิดว่าสำคัญมากที่สุดคือการ องค์ความรู้ในการใช้เครื่องมือต่างๆ โดยเฉพาะคำแนะนำการดูระบบหลังบ้านซึ่งมีประโยชน์มากจริงๆ เช่น เวลาที่เรา Live การดูหลังบ้านอาจจะมีเมทริกซ์อยู่หลายตัวแต่เราแทบจะไม่เข้าไปดูเลย แต่ทีม TikTok Shop อาจจะเข้าไปช่วยดูให้ว่าตัวนี้สำคัญนะ มีประโยชน์กับเพอร์ฟอร์แมนซ์อย่างไร ซึ่งถ้าเราเข้าใจมันก็จะทำให้การ Live มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือไปช่วย optimize แบบเรียลไทม์ให้เลย

“อันนี้ถือว่าต้องยกเครดิตให้กับ ทีม TikTok Shop เลยที่ช่วยตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง บางคนก็มานั่งอยู่ในกอง Live กับลูกค้าแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็มี แนะนำตั้งแต่การจัดไฟ การวางสคริปต์ ช่วยดูหลังบ้านให้แบบเรียลไทม์เลย พอเห็นอันไหนขายไม่ดีรีบบอกเอาออกทันที แล้วเอาสินค้าดีๆ รีบดันเลย พวกนี้คือจุดที่เราประทับใจมากจริงๆ ที่ทีม TikTok Shop คอยซัพพอร์ตเราและลูกค้าอย่างเข้มแข็งมาโดยตลอด เป็น Human Support ที่ผมว่าสำคัญมาก ซึ่งช่วยให้ทั้งแบรนด์และเอเจนซี่เรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกัน ดีใจและภูมิใจที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner ในวันนี้” 

 

คอนเทนต์ต้องวิน แต่ Solutions ก็ต้องปัง เป็นทุกอย่างให้คุณได้

 

คุณแอมป์ – ศรัณย์ แบ่งกุศลจิต Chief Executive Officer บริษัท อัปเปอร์คัซ ครีเอทีฟ ซึ่งนอกจากจะทำงานใกล้ชิดกับฝั่ง TikTok Shop และแบรนด์แล้ว ก็ยังเป็นครีเอเตอร์ชื่อดังใน TikTok ในชื่อ “การตลาดการเตลิด” ด้วย ทำให้เราต้องถามเรื่องเทรนด์คอนเทนต์ ในปัจจุบันว่าคืออะไร คุณแอมป์ ตอบอย่างไม่ลังเลเลยว่าคือ วิดีโอสั้น (Short VDO) ซึ่งมาแรงมาในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นแพล็ตฟอร์มไหนก็ตาม และกลายเป็นรูปแบบใหม่ที่ทุกแพล็ตฟอร์มจะต้องมี ซึ่งในฐานะเอเจนซี่เราเองก็มักจะถูกลูกค้าถามอยู่บ่อยๆ ว่านอกเหนือจากภาพนิ่งแล้วมีวิดีโอสั้นไหม มีคลิปใน TikTok หรือเปล่า ดังนั้น บอกเลยว่าวันนี้  “วิดีโอสั้น” มีบทบาทอย่างมาก

“ยูคนี้ไม่ว่าจะเป็น ผู้ให้บริการแพล็ตฟอร์มก็เน้นวิดีโอสั้น ยูเซอร์เองก็ชอบดูวิดีโอสั้น ทำให้แบรนด์ก็ต้องตอบสนองด้วยการทำวิดีโอสั้นออกมาด้วย เรียกได้ว่าเป็น Age of Short VDO มากๆ และถ้าใครยังไม่ทำวิดีโอสั้นก็ถือว่าเอาท์มากๆ เลย”

นอกเหนือจาก “วิดีโอสั้น” ที่มาแรงแล้วอีกสิ่งที่คุณแอมป์แนะนำก็คือเมกะเทรนด์ Shoppertainment ซึ่งจะช่วยให้การเสริมการขายให้ดีขึ้น โดยคุณแอมป์บอกว่า คือการทำให้คนซื้อสินค้าหรือบริการผ่านการดูคอนเทนต์ แม้บางครั้งเขาจะอาจจะไม่เคยรู้สึกว่าอยากได้สินค้าตัวนี้เลยด้วยซ้ำ มันเรียกว่าการ “ป้ายยา” ซึ่งแบรนด์เองก็ป้ายยาด้วยหลักการทำ Shoppertainment ได้ เพียงแค่ต้องเข้าใจในธรรมชาติของแพล็ตฟอร์มนั้นๆ นิสัยของคนใน TikTok เป็นอย่างไร หรือแพล็ตฟอร์มอื่นเป็นอย่างไร

 

 

“สำหรับแบรนด์ถ้าเกิดว่ายังลังเลว่าควรทำ Shoppertainment หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าถ้าคุณอยากจะคุยกับลูกค้าเก่าคุณสามารถทำ CRM ได้  แต่ถ้าคุณอยากได้ลูกค้าใหม่ บางทีคุณก็ต้องเริ่มให้ความสนใจกับ Shoppertainment ด้วย เพราะมันจะช่วยพาให้คุณไปเจอกับลูกค้าใหม่ มันป้ายยากับคนที่ไม่เคยคิดจะซื้อสินค้าคุณมาก่อนเลย”

อย่างไรก็ตาม การที่แบรนด์ยังไม่เข้าใจหรือใช้งาน Shoppertainment ไม่เป็นไม่ใช่เรื่องผิด ดังนั้น จุดนี้จึงต้องมีบทบาทของเอเจนซี่เข้ามามีส่วนช่วยด้วย โดยคุณแอมป์บอกว่า การที่เราเป็น TikTok Shop Partner จึงมีความรู้และเชี่ยวชาญในการใช้แพล็ตฟอร์มได้ดีกว่า สามารถให้คำแนะนำได้ในหลายอย่าง เพราะจะช่วยทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้ดีกว่าที่แบรนด์จะไปลองผิดลองถูกทำเอง และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เอเจนซี่ทำงานใกล้ชิดกับแพล็ตฟอร์ม TikTok Shop ตั้งแต่วันแรก ดังนั้น เขาจึงมีความรู้ที่มากกว่า และสามารถหา Solutions แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เร็วกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้มันช่วยทำให้ธุรกิจสเกลอัปเติบโตได้อย่างรวดเร็วและมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ดีกว่า ที่แบรนด์จะไปทำเองซึ่งนอกจากจะเสียเวลา เสียพลังคน แล้วอาจจะเสียโอกาสที่ดีได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งที่เขาจับมือกับเอเจนซี่ในการทำงาน

คุณแอมป์ยังได้ยกเคสของการดูแลลูกค้ารายหนึ่งให้ฟัง มันอาจจะมีบางสินค้าที่มันขายยาก แล้วเราเองก็ไม่เคยทำสินค้าตัวนี้มาก่อนเลย แต่เมื่อเราเป็น TikTok Shop Partner เราก็จะได้ความเอ็กซ์คลูซีฟของการดูแลจากทีม TikTok Shop ซึ่งมีความเชี่ยวชาญอย่างดี เขาเคยเจอมาหลายเคส ขายสินค้ามาหลายตัวแล้ว เขาเลยมาช่วยเราแก้ปัญหา เขาบอกเลยถ้าเป็นแบบนี้ มันมีสูตรการขายแบบนี้นะ จัดตะกร้าแบบนี้นะ ต้องทำ flash sale แบบนี้นะ ที่สำคัญที่สุด ที่ประทับใจเลยคือ ทีม TikTok Shop เขาดูแลเราแบบเชิงรุก เขาไม่รอให้เราเจอปัญหาก่อน แต่ถ้าเขาพบปัญหาตรงไหนเขาจี้ตรงจุดนั้นเลย แล้วรีบบอกก่อนที่เราจะรู้ด้วยซ้ำ แก้ตรงนี้ๆ นะที่ละจุดๆ อย่างละเอียด เราในฐานะเอเจนซี่ก็ได้ช่วยลูกค้า (แบรนด์) ในการทำให้เขาขายของได้ ทำให้ลูกค้ารักเรา เขาขอบคุณเราที่มาช่วยเขาเป็นสิบๆ รอบ จนทุกวันนี้ ก็เป็นเคสที่รู้สึกดีที่เราได้ช่วยลูกค้า จนวันนี้ก็ยังทำงานด้วยกันอยู่

“ต้องบอกว่า TikTok Shop เองก็ยังเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่ บางทีเอเจนซี่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner มันคือความพิเศษที่เราได้หลายๆ สิ่ง และเมื่อเราทำได้ ลูกค้าของเราก็ย่อมได้ด้วย นี่คือสิ่งที่แอมป์รู้สึกว่ามันดีมากๆ”

 

วินวินแบบ เติบโตไปพร้อมกัน ด้วยการเป็น TikTok Shop Partner

 

คุณยีนส์ – จิตรลดา เศรษฐโกมุท Co-founder บริษัท แอด เดอะ ท็อป จำกัด กล่าวตอกย้ำถึงสิ่งที่ทุกคนพูดมาเลยว่า เทรนด์สำคัญที่เข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลงในตลาดอีคอมเมิร์ซก็คือ Shoppertainment ในอดีต Journey ของผู้บริโภคคือเกิดจากความต้องการซื้อก่อนแล้วค่อยไปค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดคอนเทนต์ที่เรียกว่า tie-in สินค้า ซึ่งจะมาในรูปแบบเนียนๆ ไม่ต้องฮาร์ดเซลล์มากนัก แต่วันนี้เราพบการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเลยก็คือ การสามารถสร้างความรู้สึกของการอยากได้สินค้านั้นได้เลย ผ่านเนื้อหาที่สนุก น่าสนใจ และสามารถขายของตรงๆ ได้เลย ซึ่งจุดนี้เองที่เหมือนเปลี่ยนวงการการตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งแบรนด์และเอเจนซี่ต้องรีบพลิกและปรับตัวอย่างรวดเร็วให้ทันการ อย่างไรก็ตาม เราก็พบว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะปรับตัวได้ทัน ดังนั้น ก็เป็นหน้าที่เราในฐานะเอเจนซี่ที่จะมาเป็นพาร์ทเนอร์ช่วยให้คำแนะนำต่างๆ ให้

นอกจากนี้ อีกหนึ่งความท้าทายของการทำงานบนเทรนด์ Shoppertainment ก็คือการวัดผล ซึ่งในฐานะเอเจนซี่ที่ทำงานร่วมกับแบรนด์มามากมาย คุณยีนส์ ให้คำแนะนำว่า การจะวัดผลความสำเร็จได้ ควรจะต้องดูวัตถุประสงค์ของแคมเปญนั้นๆ ก่อน  แล้วกลับมาพิจารณาว่าแบรนด์ต้องการให้มันเกิดใน funnel ไหน เช่น ตอนนี้แบรนด์อยู่ในเสตจที่ต้องการจะเน้น Upper Funnel เน้นการเข้าถึงคนเยอะ หรือเป็น Middle Funnel เน้นการที่ลูกค้ามามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ หรือว่าอยู่ Lower Funnel ที่แบรนด์ต้องการยอดขาย ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละ funnel มันจะไปบอกเองว่า KPI ของมันคืออะไร นี่คือสิ่งที่เราสามารถนำมาใช้วัดผลได้ มากไปกว่าการวัดผลได้ Shoppertainment ยังสามารถกำหนดทาร์เก็ตติ้งได้อีกด้วย

อีกหนึ่งทริกที่ คุณยีนส์ แบ่งปันให้เราฟังก็คือ สามารถไปวัดผลที่หน้าร้านแบบออฟไลน์ได้ด้วยเช่นกัน คุณยีนส์อธิบายว่า ถ้าลูกค้าเห็นเราบนออนไลน์จากการที่ถูกใจคอนเทนต์ของเรา แต่เขาไปซื้อที่หน้าร้านก็สามารถใช้วิธีการ “ตั้งชื่อโค้ด” ก็ได้ เช่น ถ้าเขาไปที่สาขา แล้วพูดชื่อโค้ชนี้ขึ้นมา เราก็สามารถนำเอาโค้ดนี้เก็บเป็นข้อมูลในการวัดผลเรื่องของยอดขายได้เช่นกัน ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการทำเลยว่าต้องการอะไร

 

 

นอกจากนี้ คุณยีนส์ ยังกล่าวถึงความสำเร็จที่ทำให้บริษัทเอเจนซี่เติบโตมากขึ้นจากเดิมที่มีพนักงานแค่สิบกว่าคนตอนนี้มีพนักงานมากกว่า 30 คนแล้ว เพราะการมาเป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner ว่า ทางทีม TikTok Shop ได้นำเราเข้าไปอยู่ในลิสต์การพิทชิ่งของแบรนด์ด้วย โดยที่มีทีม TikTok Shop รีเฟอร์ให้ กระทั่งเราได้โอกาสจากแบรนด์รองเท้าเจ้าหนึ่งซึ่งค่อนข้างใหญ่ทีเดียว และเรามีเวลา 3 เดือนในการพิสูจน์ตัวเองว่าเราสามารถปั้นแบรนด์นี้ได้ไหม ซึ่งเราก็เต็มที่กับมันมากทั้ง การทำ LIVE ทำคอนเทนต์ ยิง Ads targeting ต่างๆ จนทำให้แบรนด์เจ้านั้นเติบโตอย่างชัดเจนเลย กระทั่งจบโปรเจ็คต์แบรนด์ตัดสินใจต่อคอนแท็คกับเราทันที เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งทีมภูมิใจกับมันมากๆ แต่ก็ต้องบอกว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดเลยถ้าเราไม่ได้รับโอกาสจาก TikTok Shop และเลือกเราเป็นเอเจนซี่พาร์ทเนอร์

“นอกเหนือจากความประทับใจที่ทีม TikTok Shop ให้โอกาสเราแล้ว ในมุมของการที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner ก็สร้างเครดิตให้กับเราด้วย ทำให้ลูกค้าเชื่อใจในตัวเรามั่นใจในการทำงานร่วมกันมากขึ้น แล้วระหว่างทางก็ยังมีทีม TikTok Shop ที่ร่วมจับมือไปด้วยกันคอยช่วยเหลือซัพพอร์ตในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่เดย์วันเลย ดังนั้น มันคือการเติบโตแบบวินวิน ที่เราก็โต ลูกค้าก็โตด้วย ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ TikTok Shop Partner ในวันนี้”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่เกิดจากการร่วมเป็น TikTok Shop Partner ซึ่งต้องบอกว่ากว่าจะถึงวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายทั้งการแข่งขันที่สูงและต้องเรียนรู้ลองผิดลองถูกกับสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อได้มาทำงานร่วมกับทีม TikTok Shop ก็ทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องง่าย ความสำเร็จแบบวินวินเกิดขึ้นทั้งกับเอเจนซี่เองและกับฝั่งลูกค้า (แบรนด์) เองด้วย เรียกว่าประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งในยุคการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดอีคอมเมิร์ซ


  • 2.3K
  •  
  •  
  •  
  •