จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับงานประกาศรางวัลสุดยอดผู้สร้างคอนเทนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปีอย่าง TikTok Awards Thailand กลับมาอีกครั้งในปี 2024 เป็นปีที่ 3 ที่ TRUE ICON Hall, ICONSIAM ภายใต้คอนเซปต์ ‘The Inspirations of Tomorrow, Today!’ ตอกย้ำถึงอิทธพลของครีเอเตอร์ที่สร้างปรากฏการณ์ไวรัลในวันนี้และเป็นแรงบันดาลใจแห่งวันพรุ่งนี้ พร้อมกับการประกาศรางวัลครีเอเตอร์ผู้มีความคิดสร้างสรรค์ ทั้งหมด 14 สาขาด้วยกัน
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอีเวนต์ที่น่าจดจำแห่งปีของเหล่าครีเอเตอร์ทั่วฟ้าเมืองไทย รวมไปถึงเหล่าคนดังเซเลบริตี้ที่เดินทางมาร่วมงานมากกว่า 600 คน ยังไม่นับบรรดาแฟนคลับทั้งหลายที่อยากมาเห็นหน้าตาของครีเอเตอร์ที่พวกเขาติดตามแบบตัวเป็นๆ มากกว่ามองผ่านหน้าจอโทรศัพท์ รวมตัวกันมากกว่า 2,000 คน พร้อมกับส่งเสียงเชียร์สนั่นอีเวนต์กันอย่างคึกคัก สร้างกระแสงาน TikTok Awards กระหึ่มในโลกโซเชียลฯ ไปแล้ว
สำหรับในส่วนของการประกาศรางวัล สุดยอดผู้สร้างคอนเทนต์ที่ฮอตที่สุดแห่งปี! ซึ่งทำการประกาศไปแล้วนั้น (สามารถติดตามผลประกาศรางวัลได้ ที่นี่) เราได้โอกาสในการสัมภาษณ์ 3 ผู้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ซึ่งถือเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ชั้นดีให้กับสังคมอีกด้วย ได้แก่ “คุณสยาโม” (sayamo_ss) สุดยอดครีเอเตอร์แห่งปีผู้มากความสามารถที่ทำเอาชาว TikTok กดปุ่มโหวตหมดทั้งใจ คว้ารางวัล Creator of the Year , “ดร.ไอซ์” (dricesira) ครีเอเตอร์สาระดีมีประโยชน์ สอนสนุกทุกประเด็น ไม่มีคำว่าน่าเบื่อ คว้ารางวัล Education Creator of the Year และ “คุณจีโน่” (geno_thesnack) หนุ่มกล้ามใหญ่ สร้างสีสัน มันส์ทุกคอนเทนต์การกีฬาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรีวิวแมตช์ฟุตบอล คอนเทนต์เกาะขอบสนาม และกิจกรรมสนุกๆ ต่างๆ คว้ารางวัล Sports Creator of the Year ซึ่งแต่ละท่านที่ได้รางวัลต่างก็มีมุมมองความคิดที่น่าสนใจอย่างมาก
“สยาโม” จากเด็กสาวในห้องแถวสู่เจ้าของบริษัท Young Entrepreneur
“สยาโม” สาวน้อยร่างเล็กผู้ชนะรางวัลใหญ่ Creator of the Year เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเป็นครีเอเตอร์บน TikTok ซึ่งตอนนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 2,000,000 คนแล้วว่า ด้วยนิสัยเป็นคนที่ชอบเรื่องการแสดงออก ใฝ่ฝันอยากเข้าวงการบันเทิงมานานมาแล้ว แต่ยังไม่ได้โอกาสเสียที จนกระทั่งลองเปิดแอคเคาท์ใน TikTok ดู ซึ่งเปิดในครั้งแรกนั้นก็เปิดในลักษณะของผู้ใช้งานทั่วไป เอาไว้ดูคอนเทนต์ต่างๆ จนกระทั่งมีวันหนึ่ง เรานึกสนุกอยากดัดผมด้วยวิธีโบราณ เราก็ถ่ายคลิปปกติเลยไม่ได้คิดอะไร พร้อมกับตัดเสียงเพลงของคุณแม่ผ่องศรีวรนุชเพลงเก่าลงไป ซึ่งเครื่องมือใน TikTok ทำได้แบบง่ายๆ เลยลงไป ปรากฏว่าไม่น่าเชื่อ คลิปนั้นไวรัลอย่างรวดเร็ว มีคนเข้ามาดูถึง 3,000,000 วิวในหนึ่งวัน เราก็ตกใจและดีใจมาก แล้วก็คิดว่า นี่อาจจะจุดประกายให้เราเป็นคนที่มีชื่อเสียงมีคนรู้จักอย่างที่เราฝันได้
“จากคลิปนั้นทำให้เรามีความหวัง เรารู้สึกว่ามันอาจเป็นลู่ทางให้เราได้ทำตามความฝันในการเข้าสู่วงการได้แล้ว เรารู้สึกมีไฟในการลุกขึ้นมาตั้งกล้องทำคอนเทนต์ ถ่ายคลิปทุกวัน ตัดสินใจลุยไปข้างหน้าเลย”
TikTok แพลตฟอร์มแห่งโอกาสสำหรับทุกคน
จากคลิปไวรัลคลิปแรก ปัจจุบันเธอไม่ได้เป็นแค่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ธรรมดา แต่ยังได้รับโอกาสในการเป็น KOL ให้กับแบรนด์ดังมากมาย มากไปกว่านั้นยังก้าวสู่วงการบันเทิงในการเป็นนางเอก MV แล้วด้วย สยาโม เล่าว่า ตั้งแต่คลิปนั้นก็ทำให้เราได้โอกาสจากแบรนด์ต่างๆ มากมายให้เราเป็น Influencer หรือ KOL ช่วยผลักดันแบรนด์ให้ ตั้งแต่ยังเรียนชั้น ปี 3 ก็มีรายได้แล้ว จนกระทั่งเรียน ปี 4 ก็เริ่มทำงานเต็มตัว และสามารถเปิดบริษัทของตัวเองได้แล้ว นอกจากนี้ การที่เราทำคอนเทนต์ต่างๆ บน TikTok ก็ทำให้มีคนเห็นว่าเราทำโน่นทำนี่ได้มากมาย เช่น ร้องเพลงได้ แสดงได้ มากกว่าไลฟ์สไตล์การแต่งตัว ทำให้ตอนนี้ได้มีโอกาสเป็นนางเอก MV แสดง 4-5 เพลงแล้วดีใจมากๆ เหมือนเราได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง
“TikTok เหมือนเป็นเพจที่มาช่วยให้คนรู้จักเรามากขึ้น มาช่วยทำให้คนเห็นวาลูในตัวเรา อย่างเมื่อก่อนก็ต้องมีค่ายหนังค่ายเพลงมาติดต่อถึงจะได้เป็นคนดัง ซึ่งมันยากมาก แต่ตอนนี้ เหมือนเรามีสื่อในมือเอง ไม่ต้องไปพึ่งค่ายหรือต้องพึ่งบริษัทอะไร สร้างข้อได้เปรียบในเปิดโอกาสด้านอาชีพให้กับเรามากมาย บอกได้เลยว่า TikTok มีผลมากสำหรับเรา จากเด็กตัวเล็กๆ ในห้องแถวคนหนึ่ง ตอนนี้เรามีบริษัทสยาโม ที่แข็งแกร่งมากแล้ว มีคนมาจ้างงานติดต่อให้ทำนั่นทำนี่คิดว่าชีวิตเรามันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”
ท้ายที่สุดอยากจะบอกกับคนที่อยากจะมาเป็นครีเอเตอร์ว่า อย่าคิดเยอะเกินไป แม้กระทั่งตัวเองตอนทำคลิปแรกก็เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่มันเกิดจากความเป็นตัวของเราเองนี่แหละที่อาจจะไปถูกใจใครอีกหลายคนที่ชอบเหมือนกับเรา แล้ว TikTok ก็ชอบความเรียล ทำคลิปง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต้องคิดเยอะเรื่องคุณภาพ แค่เป็นตัวเองที่ดีที่สุด แต่ถ้ามัวแต่คิดเยอะก็ยังไม่ได้เริ่มสักที เพราะฉะนั้นขอให้เริ่มเลย ทำเลยตั้งแต่วันนี้
มากกว่าความรู้ในห้องเรียน TikTok คือพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจในการหาความรู้
มาถึงอีกหนึ่งหมวดคอนเทนต์ ที่ต้องบอกว่าเป็นคอนเทนต์ที่ทำค่อนข้างยากทีเดียว ได้แก่ Education ซึ่งผู้ชนะในปีนี้ได้แก่ “ดร.ไอซ์” หรือครูไอซ์ที่ทำเรื่องยากให้สนุกได้ เปิดเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า ยอมรับว่าการทำคอนเทนต์ในเชิง Education ค่อนข้างยาก เพราะเราต้องศึกษามาให้ดีก่อนทั้งข้อเท็จจริง ทั้งข้อมูล หลายอย่างถ้าเราพูดผิด หรือได้ข้อมูลผิดแล้วเผยแพร่ออกไปก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น คอนเทนต์เชิง Education ค่อนข้างยาก และต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมสูงด้วย แต่เราก็มีความมุ่งมั่นที่อยากจะนำเสนอสิ่งดีๆ ให้กับสังคม หรือให้กับผู้ติดตามของเรา อยากให้เขาได้รับความรู้ที่มีเนื้อหาสาระแบบที่ไม่น่าเบื่อ ที่เรียกว่า Edutainment คือการนำเสนอที่สนุกได้ทั้งความรู้และความบันเทิงไปพร้อมกัน รางวัลวันนี้ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจเป็นการบอกว่าเรามาถูกทางแล้ว
“แพลตฟอร์ม TikTok เป็นอะไรที่มากกว่าคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอยากเรียนรู้มากขึ้น มากกว่าในห้องเรียน เวลาที่เรานำเสนอสาระความรู้ผ่านรูปแบบที่เขาติดใจ พอเขาชอบเขาก็อาจจะไปศึกษาเพิ่มเติมประกอบด้วยตัวเองได้ด้วย แน่นอนว่า TikTok อาจจะไม่สามารถแทนห้องเรียนได้ แต่มันจุดประกายเป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นขยายองค์ความรู้เพิ่มเติมได้”
ขณะที่ตัวเองก็ได้ประโยชน์ในแง่ของการเติบโตทางอาชีพด้วย จากวันที่เราทำคลิปสองคลิปแล้วยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก จนตอนนี้มีคนติดตามมากว่า 3,000,000 คน ก็ต้องบอกว่า TikTok เป็นพื้นที่แห่งโอกาส ที่ทำให้เราได้นำเสนอสิ่งที่เรารู้ แสดงสิ่งที่เราเข้าใจนำเสนอสู่สังคม ทำให้คนเห็นศักยภาพในตัวเรา และเรายังได้รับโอกาสใหม่ๆ เข้ามาด้วย ตอนนี้ก็มีงานบรรยายเพิ่มขึ้นจากหลายที่ หรือการเป็นพิธีกรภาษาอังกฤษในงานต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย
สุดท้ายมุมมของตัวเองในฐานะอาจารย์ มองว่า TikTok คือแพลตฟอร์มที่ทำให้คนได้ค้นหาอะไรใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ให้กับทุกคนได้ รวมไปถึงเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาหาความรู้ด้วย มันคือจุดประกายหรือจุดเริ่มต้นในการสนใจสิ่งใหม่ๆ ความรู้รอบตัวของเรามากขึ้น ซึ่งสามารถสอดแทรกได้ด้วยความบันเทิง นี่คือสิ่งที่โซเชียลมีเดียอื่นแทนที่ไม่ได้เลย
คอนเทนต์เกมกีฬา ที่ต้องสร้างสิ่งดีๆ ทิ้งไว้ให้สังคม
อีกหนึ่งคอนเทนต์ยอดนิยมบน TikTok ได้แก่ Sports (กีฬา) ซึ่งผู้ชนะในสาขานี้ได้แก่ “คุณจีโน่” (geno_thesnack) หนุ่มกล้ามโตผู้สร้างสีสันคอนเทนต์ด้านเกมส์และกีฬาต่างๆ ว่า เริ่มต้นทำคอนเทนต์ด้านเกมกีฬามา 7-8 ปีจนมาได้เปิดบนช่องทาง TikTok ในช่วง 3 ปีหลังก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพราะเหมือนคอนเทนต์เราถูกใจคนรุ่นใหม่มากกว่า คนดูชอบดูคลิปสนุกๆ สั้นๆ ไม่ยาวมากเกินไป แล้วปัจจุบันคนรุ่นใหม่อยู่ใน TikTok กันเยอะมาก เราเคยใช้แพลตฟอร์มอื่นมาก่อน พอเปลี่ยนมาใช้ช่องทางนี้เหมือนเข้าทางเราแล้วก็ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากกว่า ดังนั้น คอนเทนต์ครีเอเตอร์แบบเราเลยต้องปรับตัวให้ไวด้วย คนดูอยู่ไหนเราก็ไปที่นั่น
ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้ช่องเราประสบความสำเร็จ ส่วนตัวมองว่า ช่องของเรา ให้อะไรกับคนดูหรือผู้ติดตามเรา เรามีความหลากหลาย มีทั้งเรื่องกีฬา เกม หรือคอนเทนต์แพลงก์แกล้งกันเล่น สนุกขำๆ ซึ่งเรามีการปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตลอดเวลา ทำให้คนติดตามเราไม่เบื่อและรู้สึกว่าอยู่กับเราแล้วเป็นคนกลุ่มก้อนเดียวกัน
“เคล็ดลับที่สำคัญของคนทำคอนเทนต์ คือเราต้องปรับตัวให้ไวใช้ไอเดียสร้างสรรค์ แล้วก็พอมาได้มาอยู่บน TikTok ซึ่งเป็นช่องที่รวมความหลากหลาย ใครชอบแบบไหนก็ไปติดตามคนๆ นั้นได้ มีให้เลือกมาก เพราะคนยุคนี้เขาอยากได้ในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง บางคนอาจจะชอบความรู้ บางคนอาจจะชอบบันเทิงก็ตามไปตามช่องทางนั้น ผมว่า TikTok มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่สุด แต่ที่สำคัญคือ การทำคอนเทนต์ให้ประสบความสำเร็จได้ ผมว่ามันอยู่ที่ทำอะไรให้มันกระชับสั้นง่าย ตรงกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการ ง่ายๆ เฉพาะตัว มันคือใช่”
ส่วนถ้าในมุมต่อยอดด้านอาชีพ คิดว่าช่องทาง TikTok เป็นพื้นที่ออนไลน์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย และของอันดับโลกเลยที่ช่วยต่อยอดด้านอาชีพได้ หรือสร้างรายได้ให้กับคนทำคอนเทนต์นะ แต่ส่วนตัวเองก็ไม่ได้มองไปที่ว่าการผลิตคอนเทนต์ของเราจะมุ่งแต่ทำเนื้อหาเพื่อธุรกิจ เราทำคอนเทนต์เพื่อที่จะสร้างให้คอมมูนิตี้หรือคนติดตามเรามีความสุขมากกว่า เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าทุกคลิปของเราจะไม่มีคำหยาบเลย ไม่มีการพนันหรือเรื่องความรุนแรงเลย ตรงนี้เราให้ความสำคัญมาก เพราะเราอยากสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาและอยากสร้างสังคมที่ดีขึ้นด้วย
ในตอนท้าย Key Succes ของการทำคอนเทนต์ที่ประสบความสำเร็จ “จีโน่” ฝากให้เรามี 3 ข้อคิดด้วยกันได้แก่ 1) ไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน 2) ไม่ทำให้สังคมเดือดร้อน และ 3) ต้องทิ้งอะไรไว้ให้กับโลกนี้ด้วย ซึ่งแม้แต่ตัวเองก็อาจจะยังไม่ครบทั้ง 3 ข้อ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา แต่ก็คิดว่า ถ้าเรายึดหลักในการทำงานแบบนี้ และเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน ก็จะทำให้งานของเราประสบความสำเร็จและทำให้เราทำงานอย่างยั่งยืนได้ แล้วสังคมเราก็จะน่าอยู่ขึ้นด้วย
ทั้งหมดนี้คือ 3 ตัวตึงแห่งวงการ Content Creators ไทย ที่ไม่ใช่แค่มีผู้ติดตามเยอะ แต่ทุกคอนเทนต์ที่พวกเขาทำล้วนแล้วแต่เป็นคอนเทนต์น้ำดีมีคุณภาพ ที่ช่วยยกระดับวงการคอนเทนต์ไทยให้ดีขึ้น แล้วยังเป็นต้นแบบที่ดีให้กับเยาวชนไทยในอนาคตอีกด้วย และที่สำคัญคือมันคือบทพิสูจน์ว่า แพลตฟอร์ม TikTok เป็นพื้นที่แห่งโอกาส เป็นสังคมคุณภาพที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่หลากหลาย รวมถึงเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างให้กับทุกคน ได้มาเป็นตัวของตัวเองที่ประสบความสำเร็จ พร้อมกับยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทย (Creative Economy) ให้มีคุณภาพและสร้างสรรค์สังคมที่ดีไปพร้อมกัน.
