คุยกับคุณหลาน เจ้าของ Iconic Studio ผู้มีความเชื่อว่างาน Design และ Music สามารถไปด้วยกันได้

  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •  

iconic jpeg

“กระเบื้องตารางเมตรละหมื่น”“เครื่องเสียงชุดละเป็นล้าน” นอกจากราคาที่ชวนอึ้งของสินค้าทั้ง 2 ชนิดที่กล่าวมา เชื่อหรือไม่ว่า มีคนทำธุรกิจที่รวมสินค้าทั้งสองอย่างไว้ในธุรกิจเดียวกัน วันนี้ทาง Marketing Oops! ได้เดินทางเข้าไปย่านทองหล่อ เพื่อพูดคุยกับคุณ หลาน หรือ ม.ล. กอกฤษต กฤดากร เจ้าของ Iconic Studio ธุรกิจที่ขายกระเบื้องหรูและเครื่องเสียง High-End ไปด้วยกัน ซึ่งเราจะมาพูดคุยถึงที่มาที่ไปของธุรกิจที่ผสมผสานในเรื่องของงาน Design และ ดนตรี ได้อย่างลงตัวนี้กัน

จุดเริ่มต้นของสตูดิโอ ที่รวบรวมงาน Design และงานดนตรีเข้าด้วยกัน

IMG_3971

คุณหลานได้เล่าว่า ตนได้เริ่มต้นการทำ Iconic Studio แห่งนี้ในปี พ.ศ.2558 จากความชอบส่วนตัวในเรื่องของงาน Design งานศิลปะ และดนตรี ซึ่งแน่นอนว่าการเริ่มต้นจากความชอบส่วนตัว และไม่ได้เป็นธุรกิจที่เอายอดขายเป็นหลัก ดังนั้น การทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์จึงต้องทำให้แตกต่างจากการทำธุรกิจร้านขายกระเบื้องทั่ว ๆ ไป ในจุดเริ่มต้นจึงต้องใช้เวลาในการสื่อสารพอสมควร เพื่อให้ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายเข้าใจในสิ่งที่ตนพยายามทำอยู่

 แตกต่างตั้งแต่ Concept ของตัวสินค้า เมื่อกระเบื้องที่ขายคืองานศิลปะ ไม่ใช่กระเบื้องทั่วไป (แตกต่างยังไง)

IMG_3900

“ปกติเวลาคนเลือกกระเบื้องเขาก็จะเลือกกันแต่ลายหินลายไม้ทั่วไป แต่สินค้าของผม ผมจะเลือกของที่มี Concept มี Story และมีเรื่องของ Design”

คุณหลานได้อธิบายถึงจุดยืนที่แตกต่างของธุรกิจ ‘สตูดิโอขายกระเบื้อง’ ของตนว่ามีความแตกต่างจาก ธุรกิจร้านวัสดุก่อสร้างอย่างไร ซึ่งความแตกต่างที่ว่านี้ เริ่มต้นตั้งแต่ตัว ‘สินค้า’ ที่คุณหลานไม่ได้มองว่าเป็นแค่กระเบื้องทั่ว ๆ ไป แต่เขาตั้งใจในการขายกระเบื้องให้เป็น ‘งานศิลปะ’ ดังนั้นการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์จึงไม่เหมือนกับร้านกระเบื้องทั่วไป เริ่มตั้งแต่การตกแต่งร้านของ Iconic Studio ที่ดูคล้าย Gallery โชว์งานศิลปะ เป็น Lifestyle Studio มากกว่าร้านขายกระเบื้อง และกระเบื้องที่ขาย ส่วนใหญ่แล้ว ถูกออกแบบโดยศิลปิน, Celebrity หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง

เหตุผลในการเลือกขายกระเบื้อง

IMG_3909

สำหรับเหตุผลในการเลือก ‘กระเบื้อง’ เป็น Products ของ Iconic Studio นั้น คุณหลานให้เหตุผลว่า เพราะครอบครัวของตนนั้นมีธุรกิจทำกระเบื้อง โรงงานผลิต ยี่ห้อ RCI (Royal Ceramic Industry) ดังนั้นตนจึงมีประสบการณ์และความคุ้นเคยกับสินค้าประเภทนี้ จึงมีความสนใจในการทำธุรกิจด้านนี้ต่อ

เพราะสินค้าเป็นเหมือน Art Piece กลุ่มเป้าหมายของ Iconic จึงต้องเจาะกลุ่มพิเศษ

IMG_3928

“กลุ่มลูกค้าของผมจะเป็นค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่กลุ่ม Mass”

อย่างที่กล่าวไว้ว่ากระเบื้องของ Iconic Studio นั้นเปรียบเสมือน Art Piece ที่ออกแบบโดยศิลปิน มีการนำเข้าจากยุโรป มีเรื่องราวและที่มาที่ไป ดังนั้น ราคาของกระเบื้องแต่ละ Collection ต้องมีความแตกต่างจากกระเบื้องทั่วไป ดังนั้นกลุ่มลูกค้าของ Iconic Studio จึงเป็นกลุ่มคนที่มีความชื่นชอบในงาน Design กลุ่มสถาปนิก และกลุ่มคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง

ลำโพง High-End อีก Product ที่ Iconic ขายคู่กับกระเบื้อง

IMG_3963

“คือถ้ามองในมุม Business ผมควรจะต่อยอดร้านของผมด้วยสินค้าพวกสุขภัณฑ์ แต่ผมไม่ได้ชอบอย่างนั้น มันไม่ใช่ความชอบของผม”

อย่างที่เล่าไว้ในข้างต้นว่า Iconic Studio เกิดจากการความชอบในศิลปะงาน Design และดนตรี ดังนั้นนอกจากกระเบื้องแล้ว สินค้าอีกอย่างของ Iconic คือลำโพง High-End ยี่ห้อ “Funktion-One” ซึ่งเหตุผลในการเลือกขายลำโพงของคุณหลานนั้นมาจากความชอบ ความหลงไหลในดนตรีและเครื่องเสียง เพราะตัวคุณหลานเองนั้นนอกจากเป็น MD ของสตูดิโอแห่งนี้ เขายังเป็น DJ อีกด้วย (AKA: DJKK) ซึ่งเขาเห็นความเป็นไปได้ในการเจาะตลาดกลุ่มคนที่รักในงาน Design เพราะลำโพงที่เขาเลือกมาขาย ไม่ใช่ลำโพงแบรนด์ทั่ว ๆ ไป แต่เป็นลำโพงที่มีเรื่องของงาน Design เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นกัน ดังนั้นสินค้าทั้งสองอย่างจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า กลุ่มเดียวกันได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

“เพราะโดยส่วนตัวผมดูเรื่อง Design และ เพลง ทุกวันอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงรู้วิธีว่าจะโปรโมทมันยังไง เพราะเราใส่ใจมันทุกวัน”

 Lifestyle Studio ที่ครอบคลุมทั้งในการเป็นสถานที่สังสรรค์และเปิดตัวสินค้า

IMG_3962

“เพราะร้านเราเป็นร้าน Stand Alone มันไม่ได้อยู่ตามห้างสรรพสินค้า ดังนั้นเราเลยต้องจัด Event เพื่อเชิญคนเข้ามาดูสินค้า”

ที่ชั้นล่างของ Iconic Studio นั้น หากเราปาดสายตามองดู เราจะพบว่านี่มันคือสถานที่สำหรับจัดปาร์ตี้สังสรรค์ชั้นดีเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งโซนที่เป็นบูธดีเจ มีชุดเครื่องเสียง และมีแม้กระทั่งบาร์ ซึ่งคุณหลานให้เหตุผลว่า เวลาเปิดตัวสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ของ Iconic Studio นั้นไม่ได้โปรโมทขายแบบกว้างขวางมาก แต่จะใช้วิธีการขายแบบ Soft Sell คือเชิญลูกค้าแต่ละบริษัทเข้ามา ให้พวกเขาได้ลองดื่มไวน์ ได้ฟังเพลงจากเครื่องเสียง รวมถึงรับจัด Event เพื่อเป็นการโปรโมทร้านอีกต่อนึง

 การสร้าง ‘Design&Music Culture’ คือความตั้งใจและแก่นแท้เบื้องหลังของ Iconic Studio

 IMG_3958

“ในความเชื่อของผม ‘งานดนตรี’ และ ‘งาน Design’ มันผสมผสานกันได้”

นอกจากการขายกระเบื้องและเครื่องเสียง ที่ชั้น 3 ของ Iconic Studio แห่งนี้ ยังเป็นโรงเรียนสอน DJ ที่ขายทั้งอุปกรณ์และคอร์สเรียน DJ ไว้อีกด้วย ดังนั้น หากจะมองว่าที่นี่คือสถานที่สำหรับกลุ่มคนที่หลงไหลในงาน Design และ ดนตรี ก็คงจะไม่เกินไปนัก เพราะคุณหลานได้ให้เหตุผลส่วนตัวในการทำธุรกิจนี้ว่า เพราะเขาเชื่อว่างาน Design และ ดนตรีมันมีส่วนที่คล้ายกัน มันสามารถผสมผสานกันได้ และเขาพึงพอใจกับสิ่งที่ทำอยู่มากด้วย

ถึงแม้ร้านผมจะไม่ได้หวือหวา ไม่ได้มีคนมาต่อคิวเข้าร้านเหมือนธุรกิจอื่น แต่ผมก็พอใจในสิ่งที่ผมทำอยู่ ลูกค้าของผมคือตัวพ่อตัวแม่ของวงการ เป็น Trend Setter ซึ่งในจุดนี้แหละ ทำให้ผมคิดว่า ผมมาถูกทางแล้วล่ะ”

อนาคตของ Iconic Studio ที่จะมีมากกว่า กระเบื้องและเครื่องเสียง

IMG_3916

คุณหลานได้เผยกับเราถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่กำลังจะมีใน Iconic Studio ในอนาคตนี้ ซึ่งได้แบ่งออกตามชนิดของ Products โดยในส่วนของงาน Design นั้น คงจะมีอะไรที่มากขึ้นมากกว่ากระเบื้อง เพราะในปัจจุบันนอกจากการขายแล้ว คุณหลานก็สามารถที่จะแนะนำลูกค้าได้ว่า เมื่อใช้กระเบื้องลายนี้ ควรจะใช้เฟอร์นิเจอร์ชนิดไหนต่อ เพื่อให้เข้าคู่กันอย่างสวยงาม ซึ่งคุณหลานมองไว้ว่าอยากจะขยาย Product ในทางนี้ต่อ ส่วนในเรื่องของดนตรีนั้น คุณหลานได้มีแพลนในการเปิดโรงเรียนสอนดนตรี ห้องอัด รวมไปถึงการเปิดค่ายเพลงอิเล็คทรอนิคส์ เป็นของตัวเอง

ก่อนจากกัน คุณหลานได้ให้คำแนะนำแก่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำธุรกิจเป็นของตัวเองว่า

“อย่างแรก คุณต้องแน่ใจก่อนว่าคุณชอบในสิ่งนั้นจริง ๆ อย่างที่สองคือใจเย็น ๆ คิดระยะยาว ลงมือทำมันอย่างจริงจัง ช่วงแรกคุณอาจจะเจอปัญหาที่ติดขัด แต่ถ้าคุณตั้งใจทำมันอย่างจริงจัง คุณก็จะทำมันสำเร็จได้ครับ”

 

 

 


  • 3.2K
  •  
  •  
  •  
  •  
คุณคมสัน
ชาวร็อคหัวรุนแรง นิยมฟังเพลงจากแผ่นเสียง เคยร่ำเรียนการคิดโฆษณา ปัจจุบันมาเขียนเรื่องเกี่ยวกับโฆษณาแทนแล้วนะ