SOURI แบรนด์ขนมมาการองที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เจ้าของแบรนด์ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือศิลปินดาราวัยรุ่นชื่อดัง ได้แก่ “วิน เมธวิน” ที่ร่วมมือลงแรงใจและกายกับพี่สาว “หมิง-มินตรา” สร้างสรรค์แบรนด์นี้ขึ้นมา โดยจุดเด่นที่สำคัญของแบรนด์นี้คือ การผสมผสาน ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ เข้ากับความหลงใหลในขนมหวาน ทำให้มาการองของ Souri ไม่ได้เป็นเพียงขนม แต่เป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความเป็นเอกลักษณ์และคุณภาพ ที่สำคัญ SOURI ยังเน้นการควบคุมภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Identity) ให้มีความชัดเจนในทุกมิติ ตั้งแต่การออกแบบร้าน บรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงแคมเปญการตลาด เช่น การร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ (Collaboration) และการสร้างคอลเลกชันพิเศษในเทศกาลสำคัญ จนทำให้วันนี้ SOURI เป็นแบรนด์ขนมที่เข้าไปอยู่ในใจของ ฟู้ดดี้ทุกคนแล้ว
ดังนั้น Marketing Oops! จึงได้ขอโอกาส “คุณวิน” มานั่งพูดคุยถึงการสร้างแบรนด์ SOURI ที่วันนี้มีมากกว่าการใช้ชื่อเสียงความเป็นดาราของตัวเองสร้างให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ
แบรนด์ SOURI ก่อตั้งขึ้นด้วยความตั้งใจที่จะสะท้อนความเป็นตัวตนของครอบครัว ผ่านการสร้างขนมที่มีเอกลักษณ์ ทั้งในด้านรสชาติและการออกแบบ แบรนด์นี้ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจขนมทั่วไป แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างแบรนด์ที่ผสมผสานศิลปะ ความหลงใหล และกลยุทธ์การตลาดอย่างลงตัว บทความนี้จะเจาะลึกถึงกลยุทธ์สำคัญและแผนการขยายธุรกิจที่ SOURI ใช้ในการสร้างชื่อเสียงและความมั่นคงในตลาดขนมที่มีการแข่งขันสูง
สร้างแบรนด์ที่มีตัวตนชัดเจน
หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของ SOURI คือความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านแบรนด์ ทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่การออกแบบร้าน ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และการจัดวางผลิตภัณฑ์ ถูกควบคุมให้สอดคล้องกันอย่างพิถีพิถัน คุณวิน ย้ำว่า การทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถือเป็นหัวใจสำคัญ
“เราต้องการให้ SOURI เป็นแบรนด์ที่คนจำได้ในทันที จากภาพลักษณ์และความรู้สึกที่สื่อออกมา เช่น การใช้ศิลปะในทุกชิ้นงาน เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง”
สร้างสรรค์แคมเปญผ่านกลยุทธ์ Collaboration
SOURI เน้นการทำตลาดผ่านแคมเปญที่สร้างสรรค์และการร่วมมือกับแบรนด์อื่นด้วย ตัวอย่างที่โดดเด่นคือแคมเปญร่วมกับ Butter Bear ที่สร้างผลิตภัณฑ์พิเศษ รวมไปถึงการทำกลยุทธ์การตลาดในแง่มุมอื่นๆ เช่นใช้ทั้ง KOL และ KOC ด้วย เพิ่มความน่าสนใจให้กับแบรนด์
“การร่วมมือกับแบรนด์อื่นไม่เพียงช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้า แต่ยังช่วยให้เราขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ที่อาจยังไม่รู้จักแบรนด์ของเรา”
นอกเหนือจากกลยุทธ์การตลาดอื่นๆ SOURI ยังสร้างสรรค์แคมเปญตามเทศกาล เช่น คอลเลกชันคริสต์มาส ซึ่งประกอบด้วยขนมที่มีดีไซน์และรสชาติพิเศษเฉพาะเทศกาล วินเสริมว่า “คอลเลกชันเหล่านี้ช่วยสร้างกระแสในช่วงเวลาสำคัญ และเพิ่มความพิเศษให้กับแบรนด์ของเรา”
รุกแผนธุรกิจทั้ง Offline to online
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้บริโภคคุ้นเคยกับช่องทางออนไลน์ SOURI ก็เช่นกัน แบรนด์ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์ ทั้งในด้านการขายและการสร้างการรับรู้แบรนด์ ปัจจุบัน ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทาง LINE และแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่อื่นๆ เพื่อความสะดวกสบาย
ขณะที่การการวางแผนขยายธุรกิจ วินเผยว่า มีเป้าหมายหลักในปีหน้า คือการขยายธุรกิจไปยังต่างจังหวัด ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง วินอธิบายว่า ความท้าทายสำคัญของการขยายสาขาคือการจัดการด้านโลจิสติกส์ โดยทีมงานกำลังพัฒนาแผนการขนส่งที่สามารถรักษาคุณภาพของขนมในระหว่างการขนส่ง
“เราต้องการให้ลูกค้าในทุกพื้นที่ของประเทศได้สัมผัสกับขนมของเราในมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะซื้อจากสาขาไหนก็ตาม”
รวมไปถึงการมีแผนที่จะเพิ่มการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถมาซื้อสินค้าหน้าร้านได้ การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์จะช่วยให้แบรนด์สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
การสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน โดยไม่ยึดติดกับความเป็นคนดัง
วินเน้นย้ำว่า เป้าหมายสำคัญของแบรนด์ไม่ใช่แค่ความสำเร็จระยะสั้น แต่คือการสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ “เราต้องการให้ลูกค้ามาที่ SOURI เพราะคุณภาพของสินค้า ไม่ใช่เพราะชื่อเสียงของเราเพียงอย่างเดียว”
การแยกแบรนด์ออกจากชื่อเสียงส่วนตัวของผู้ก่อตั้งเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับแบรนด์
SOURI เป็นตัวอย่างของธุรกิจที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์กับการวางกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด ผ่านการสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ การใช้เทคนิคการตลาดที่ตอบโจทย์ยุคใหม่ และการวางแผนขยายธุรกิจที่มั่นคง ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นในการพัฒนา SOURI กำลังพิสูจน์ว่าแบรนด์ขนมสัญชาติไทยสามารถสร้างความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างยั่งยืน
