หนึ่งในตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมา คือ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯ แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงแล้ว แต่ตลาดคอนโดฯ ก็ยังต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และนั่นทำให้ตลาดคอนโดฯ แข่งขันกันอย่างมาก
เมื่อพูดถึงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ชื่อของ SC Asset อาจจะนึกขึ้นมาเป็นลำดับต้น ๆ แต่ถ้าหากพูดถึงคอนโดฯ น้อยคนนักที่จะนึกถึง SC Condo ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เมื่อพูดถึง SC Asset หลายคนมักจะนึกถึงบ้านหรู ทาวน์โฮมเป็นหลัก ซึ่งตลาดบ้านแนวราบไม่ต้องพูดถึงว่า SC Asset คือหนึ่งในผู้นำของตลาด แต่กลายเป็นว่าเมื่อพูดถึงตลาดคอนโดฯ SC Asset มักถูกมองข้ามไป
และนั่นทำให้ SC Asset ประกาศเดินหน้ารุกตลาดคอนโดฯ เต็มรูปแบบภายใต้แนวคิด EVERYBODY’S HIGH-RISE แต่คนที่จะอธิบายให้เห็นภาพได้ชัดเจนคงต้องยกหน้าที่นี้ให้กับ คุณกนกอร หลิมกำเนิด หรือ คุณนก ในฐานะ Chief Operating Officer – Property Development – High Rise บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ คุณโฉมชฎา กุลดิลก หรือ คุณจูนในฐานะ Head of Corporate Brand and Communications
สถานการณ์คลี่คลาย…ความสำคัญของพื้นที่ในคอนโดฯ
หลังสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลายลง ตลาดอสังหาฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่กลุ่มคอนโดฯ มีแนวโน้มเติบโตกว่าอสังหาฯ ในกลุ่มอื่น ซึ่งคอนโดฯ ในรูปแบบ High-Rise ที่มีความสูงระดับ 7 ชั้นขึ้นไปกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในตลาด ไม่เพียงเท่านี้ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในช่วงสถานการณ์โรคระบาด ทำให้หลายคนกังวลในการอยู่อาศัยร่วมกันภายในคอนโดฯ ว่าจะมีความปลอดภัยจากโรคระบาดหรือไม่
ด้วยอินไซต์จากผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากวิกฤตการณ์ COVID-19 แนวคิดในเรื่องของ Social Distancing ก็เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ ในขณะเดียวกัน การสร้างพื้นที่ที่ลูกค้าสามารถทำกิจกรรมในรูปแบบ Private ได้ ก็ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญของแนวคิดแต่ละคอนโดฯ เช่นกันจากข้อมูลที่ SC Asset ให้มา ยังอ้างอิงได้ว่า การตัดสินใจซื้อของลูกค้ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะให้ความสำคัญกับโครงการที่ลูกค้าคิดว่ามีกำลังซื้อได้แบบสบาย ๆ และในส่วนของทำเลก็ยังคงเป็นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าที่ช่วยให้เดินทางไปทำงานหรือเดินทางไปไหนสะดวกสบาย
แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค คือ การรับสื่อ ซึ่งเปลี่ยนไปตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โรคระบาด ที่หลายคนไม่ค่อยออกจากบ้าน และมักจะหาข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ต นั่นจึงทำให้ SC Condo สร้างแคมเปญการสื่อสารบนโลกออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้กลุ่มลูกค้าสามารถรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับโครงการใหม่ๆ และสารที่แบรนด์ต้องการสื่อสารได้อย่างตรงจุดนั่นเอง
สร้างความต่างกลยุทธ์ของผู้มาใหม่
นอกจากเรื่องของตลาดคอนโดฯ ที่มีแนวโน้มเติบโตกว่ากลุ่มอื่น ยังมีปัจจัยอื่นสนับสนุนให้สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง คุณนกกล่าวถึงแผนการรุกการตลาดคอนโดฯ อย่างเต็มที่ของ SC Asset ว่า“ต่อจากนี้จะมีการเปิดโครงการคอนโดฯ ทุกปี ๆ ละประมาณ 2-3 โครงการ และมีการวาง Road Map ในการเปิดโครงการคอนโดฯ ไว้ถึง 5 ปี รวมมูลค่าทุกโครงการอยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท”
การสร้างความแตกต่างในตลาดเป็นสิ่งที่ SC Asset ให้ความสำคัญ คุณนกเสริมในเรื่องจุดเด่นของ SC Condo ว่า “สำหรับโครงการ SC Condo จะเน้นสร้างความแตกต่างถึง 2 จุดด้วยกัน โดยในจุดแรกจะเป็นในเรื่องของคุณภาพและดีไซน์ (Quality and Design) ที่เน้นเรื่องคุณภาพในด้านการออกแบบลูกค้าจะต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากเรา สามารถพักอาศัยได้ในระยะยาวโดยไม่มีปัญหา ขณะที่อีกจุดจะเป็นเรื่องของการให้บริการ (Service) ซึ่งเวลาที่ลูกค้าเข้ามาพักอาศัยอยู่กัน การให้บริการถือเป็นเรื่องสำคัญ และเรื่องบริการหลังการขายก็เป็นสิ่งที่เป็นจุดแข็งของ SC Asset ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว เราจึงอยากให้ SC Condo ของเรามีภาพจำและผู้ที่มาอยู่อาศัยได้รับประสบการณ์ดี ๆ กลับไปเช่นกัน”
การพบปัญหาเมื่อเข้าอยู่อาศัย การแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วและตรงจุด คือสิ่งที่คุณนกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก “เมื่อมีข้อเรียกร้องหรือความต้องการของลูกค้าเกิดขึ้น SC Condo จะพยายามเข้าไปแก้ปัญหาให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุด ภายใต้เป้าหมายที่ต้องการให้ลูกค้ามีความสุขที่สุดในการเข้าพักอยู่อาศัย ซึ่งโดยรวมแล้วความแตกต่างของ SC Condo คือความตั้งใจและการส่งมอบบริการหลังการขายที่ดีที่สุดกับลูกค้า ซึ่งเสน่ห์อีกอย่างที่น่าสนใจของคอนโดฯ คือการสร้าง Community ใหม่ ๆ และสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวได้เช่นเดียวกัน”
แกะ DNA เห็นตัวตนที่ชัดขึ้น
เมื่อพูดถึง Brand Value ของ SC Asset แล้วต้องบอกว่าจะประกอบไปด้วย Caring, Sincere และ Fresh คุณจูนอธิบายให้เราเห็นภาพเพิ่มเติมว่า “ในส่วนของ Caring สำหรับ SC Condo แล้วเรายังคงเน้นที่ความใส่ใจในการมอบบริการหลังการขายแก่ผู้อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ Sincere คือการส่งมอบผลิตภัณฑ์และการบริการบนพื้นฐานของความจริงจัง จริงใจ และรับผิดชอบอย่างดีที่สุดส่วน Fresh เราจะเน้นไปที่การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า ซึ่งตลอดระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้น่าจะได้เห็นความคิดสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบที่จะเกิดขึ้น Brand Value ทั้งหมดนี้ประกอบกันและฉายภาพความเป็น SC Condo ที่เปี่ยมไปด้วย ความคิดสร้างสรรค์ตลอดเวลา ในขณะเดียวก็ยังคอยใส่ใจดูแลด้วยความจริงใจอยู่ตลอดเวลา”
และเพื่อให้คนอื่นๆ เห็นคุณค่าที่ชัดเจนมากขึ้น เรามีการสำรวจเพื่อดูว่าช่องทางไหนที่กลุ่มเป้าหมายหลักอยู่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางอย่าง TikTok YouTube เป็นต้น แต่หากกลุ่มเป้าหมายหลักชอบไปงานอิเวนต์ก็อาจจะต้องหางานหรือจัดงานอิเวนต์ขึ้นมา ซึ่งปีนี้ก็มีแผนจัดงานอิเวนต์เอาไว้แล้ว และในปีนี้คาดว่าทุกคนจะได้เห็นชื่อของ SC Condo มากขึ้น
เข้าใจ Insights ผู้บริโภคยุคใหม่
เมื่อพูดถึงกลุ่มเป้าหมายของ SC Condo แล้ว หลักๆ จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y ที่มีการทำงานแล้วระยะหนึ่ง รวมไปถึงกลุ่ม Gen Z ที่สามารถสร้างรายได้หรือประกอบธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก โดยคุณนกกล่าวว่า “จากการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทำให้ทราบว่า คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้เกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยีและส่วนใหญ่มักจะใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ ส่งผลให้โลกในชีวิตจริงคนกลุ่มนี้จึงมีความรู้สึก “เหงา” และต้องการสังคมที่เป็นของเขาจริงๆ (Community)”
“กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้พร้อมสำหรับการซื้อคอนโดที่มีราคาตั้งแต่ 100,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร นอกจากนี้การทำงานและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ยังประสานกันอย่างไร้รอยต่อ นั่นจึงทำให้SC Condo ให้ความสำคัญกับ Living Solution และ Community และได้ออกแบบภายใต้แนวคิด “ส่วนตัว – ส่วนกลาง” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ในทุกมิติ ทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและการอยู่ใน Community ส่วนกลาง”
โดยคุณจูนเสริมเรื่องนี้ว่า “ผู้พักอาศัยในคอนโดฯ มีความต้องการที่หลากหลาย บางคนชอบทำกิจกรรมคนเดียว บางคนชอบสังสรรค์หาเพื่อนใหม่ SC Condo จึงเปิดพื้นที่ส่วนกลางที่ให้ทุกคนสามารถร่วมกันใช้อย่างไม่จำกัดเวลา และยังสามารถจองช่วงเวลาที่ต้องการในการใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางแบบส่วนตัว ตอบโจทย์กับหลักปรัชญาการทำงานของ SC Condo ในเรื่องของ EVERYBODY’S HIGH-RISE”
เจาะความหมาย EVERYBODY’S HIGH-RISE
คุณจูนอธิบายเพิ่มเติมถึงหลักปรัชญา EVERYBODY’S HIGH-RISE ว่า “ความหมายของคำว่า EVERYBODY ไม่ได้หมายความถึงแค่ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดเท่านั้น แต่หมายถึงทุกคนจริงๆ รวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่รอบๆ คอนโดฯ ของเราด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่ผู้พักอาศัยคอนโดในรูปแบบ HIGH-RISE จะได้รับคือวิวทิวทัศน์ในมุมสูง ขณะที่คนอื่นที่ไม่ใช่ผู้พักอาศัยเมื่อมองมาที่คอนโดฯ ควรจะต้องใส่ใจคนกลุ่มเหล่านี้ด้วยเช่นกัน นั่นจึงทำให้คอนโดของ SC Condo ได้รับการออกแบบอาคารให้เหมาะกับ Skyline ของพื้นที่”
“นั่นจึงทำให้ SC Condo ใส่ใจในการออกแบบเพื่อทุกคนตามหลักปรัชญา ทั้งภายในอาคารที่จะเน้นการออกแบบพื้นที่ให้มีความเหมาะสม และภายนอกอาคารก็ยังได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับ Skyline นอกจากนี้ SC Condo ยังมีหลากหลายราคาให้เลือกตามความเหมาะสม โดยตั้งเป้าว่า 5 ปีข้างหน้านี้ ชื่อของ SC Condo ต้องเป็นที่รู้จัก เป็นแบรนด์ใน Top of Mind หรืออย่างน้อยชื่อของ SC Condo ต้องอยู่ Top 5 ในความคิดของทุกคน”
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่าคนรุ่นใหม่มีชีวิตที่ค่อนข้างเหงา SC Condo จึงพยายามหากิจกรรมที่อยู่ในความสนใจ เช่น กลุ่มโยคะ ซึ่งจะเปลี่ยนไปแบบ Customize ผู้อยู่อาศัยเพื่อสร้าง Community ใหม่ ๆให้เกิดขึ้นภายในคอนโดฯ ขณะที่คนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสามารถจองพื้นที่ส่วนกลางสำหรับกิจกรรมส่วนตัวได้ โดยทั้งหมด SC Condo จะใช้ Tech Solution ในการตอบโจทย์ Pain Point ความแตกต่างของผู้พักอาศัยภายใต้แอปฯ Ruejai Club Platform
Tech Solution ผสานสิ่งแวดล้อม
ในรายละเอียดของแอป Ruejai Club คุณจูนเล่าว่า “ก่อนอื่นต้องบอกว่าแอปฯ Ruejai Club เป็นแอปฯ ที่ SC Asset เป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเอง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของผู้ใช้งานจะไม่มีทางรั่วไหลนอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้พักอาศัย อย่างแนวคิดการพัฒนา Token ซึ่งช่วยให้สามารถบริการ Digital Service ไร้รอยต่อมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างพื้นที่บนโลกดิจิทัล ช่วยให้ผู้พักอาศัยมีพื้นที่จริงที่ใช้อยู่อาศัยและพื้นที่บนดิจิทัล”
“และหากมีการใช้งานมากขึ้น SC Condo ก็จะเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ถึง Persona ได้ และสามารถหากิจกรรมที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของแต่ละคนได้ โดยปัจจุบันมียอดการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 2 หมื่นครั้งและยังคงมีการใช้งานต่อเนื่องสูงถึง 60% ขณะที่ตั้งเป้าปีนี้มียอดดาวน์โหลดแตะ 8 หมื่นครั้ง รวมไปถึงยังมีเตรียมแผนสำหรับการ Earn&Burn Token เพื่อสร้าง Engage กับผู้อยู่อาศัยเพิ่มเติมอีกต่างหาก”
ขณะที่ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม คุณนกอธิบายว่า “คิดว่าเป็นสิ่งที่ SC Condo ต้องทำและเราเองได้มีการทำไปก่อนหน้านี้โดยที่ผู้พักอาศัยไม่ทราบมาก่อนอยู่แล้ว ทั้งในเรื่องของการแยกขยะ, การติดตั้ง Solar Rooftop, ระบบชาร์จรถ EV และการให้ความสำคัญกับเรื่องของ Zero Waste รวมไปถึงการนำขยะกลับไปสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ในรูปแบบ Upcycling ซึ่งเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ผู้พักอาศัยและกลุ่มเป้าหมายของ SC Condo ให้ความสำคัญ”
ในปีนี้ SC Condo ยังเตรียมเปิดตัวคอนโดคุณภาพถึง 3 โครงการโดยแบ่งเป็นแบรนด์ใหม่ นั่นคือCOBE 2 ทำเล ซึ่งนอกจากดีไซน์การออกแบบที่ทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแล้ว ยังมีจุดเด่นเรื่องบริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมและใส่ใจในทุกรายละเอียด และอีก 1 โครงการระดับ Ultra Luxury ที่บริหารโดย SCOPE รวมมูลค่า 3 โครงการ 10,000 ล้านบาท
สำหรับการรุกตลาดครั้งนี้ คุณจูนย้ำว่า SC Asset จริงจังมาก เพราะที่ผ่านมา SC Condo มีการทำตลาดคอนโด แต่เพราะ Brand Perception ทำให้หลายคนนึกถึงแต่บ้านเดี่ยวแนวราบเป็นหลัก ซึ่งเป้าหมายหลักที่วางไว้คือ ภายในปี 2567 เมื่อนึกถึงคอนโดต้องมีแบรนด์ SC Condo ติดหนึ่งในห้าของแบรนด์ที่ผู้บริโภคต้องนึกถึง
สำหรับผู้ที่สนใจปรัชญา EVERYBODY’S HIGH RISE จาก SC Asset สามารถติดตามชมเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ https://m.scasset.com/EI_W พร้อมดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการคอนโดมิเนียมของ SC Asset ได้ที่ https://m.scasset.com/EVu- หรือทุกช่องทางโซเชียลมีเดียของ SC Asset หรือโทร.1749