การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ยั่งยืน ไม่ใช่แค่เพียงการออกแบบและสร้างอาคารบนทำเลที่ดีที่สุด มีภูมิทัศน์สวยงาม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเท่านั้น หากแต่ต้องมองไกลถึงอนาคตที่จะสามารถรองรับพลวัตการเปลี่ยนแปลงของเมืองได้ในทุกยุคสมัย ไม่ว่าในวันนี้ วันพรุ่งนี้ หรืออีกกี่สิบปี กี่ร้อยปีก็ตาม
ในปี 2567 หรือหนึ่งปีกว่านับจากนี้ ใจกลางกรุงเทพมหานคร กำลังจะเกิดโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่บนถนนพระราม 4 ตัดกับถนนวิทยุ ในนาม “One Bangkok” (วัน แบงค็อก) โครงการฯ ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมือง ขับเคลื่อนไปพร้อมกับการพัฒนาของกรุงเทพฯ และเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ – คุณค่าที่เป็นอัตลักษณ์ของเมือง ผสานเทคโนโลยีทันสมัย และความยั่งยืนเข้าด้วยกัน
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา “กรุงเทพฯ” สู่การเป็น “Global Destination” ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า-การลงทุน การอยู่อาศัย รวมไปถึงการท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วโลกเดินทางมายังมหานครใหญ่แห่งนี้
เศรษฐกิจไทยโต แรงหนุนจากการท่องเที่ยว – กรุงเทพฯ จุดหมายปลายทางสำคัญด้านเศรษฐกิจ
ไม่ว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาทั่วโลกเผชิญ COVID-19 อย่างไร แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ประเทศต่างๆ เปิดเมือง กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นกลับมา และผู้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ สปอร์ตไลท์ยังคงส่องมาที่ “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” และหนึ่งในประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของภูมิภาคนี้ คือ “ประเทศไทย” ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน การผลิต การค้าขาย รวมถึงด้านการท่องเที่ยว
ย้อนไทม์ไลน์ “พระราม 4” ย่านการค้าสำคัญของกรุงเทพฯ ยาวนานกว่า 160 ปี
ในมหานครใหญ่ของโลก จะมีย่านการค้า หรือย่านธุรกิจต่างๆ ที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมือง “กรุงเทพมหานคร” เองก็เช่นกัน เมื่อพูดถึงย่าน CBD (Central Business District) หนึ่งในพื้นที่สำคัญของมหานครแห่งนี้คือ “ถนนพระราม 4” ถือว่าเป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์และการพัฒนาเมืองกรุงเทพฯ มายาวนานกว่า 166 ปี ถึงปัจจุบันถนนเส้นนี้ ยังเป็นถนนเส้นสำคัญ และมีศักยภาพสูง
นอกจากคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของถนนพระราม 4 แล้ว ปัจจุบันถนนสายนี้ ถือเป็นย่านธุรกิจที่มีความสมบูรณ์ครบวงจร ทั้งเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง ระบบคมนาคมที่ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้าที่มีสายสีน้ำเงินเชื่อมต่อทุกสายไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯ – รอบนอกเมือง และทางถนน ถือว่าเป็นถนนกว้างที่สุดใจกลางเมือง และสามารถเข้า-ออกไปสู่ทางด่วน ทั้งทางเหนือ และใต้ของถนนพระราม 4 ได้สะดวก

นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนถนนพระราม 4 ตั้งแต่สามย่านมิตรทาวน์ (Samyan Mitrtown), สีลมเอจ (Silom Edge), เดอะ ปาร์ค (The PARQ), ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) และ เอฟวายไอ เซ็นเตอร์ (FYI Center)
“เรามองการพัฒนาเมือง และคุณภาพชีวิตของคน ไม่ใช่แค่การวางผัง พัฒนาตึก หรืออาคาร แต่เรามองไปถึงการใช้ประโยชน์ และความสะดวกสบายของคนเป็นหลัก พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต เพราะทุกๆ เมืองมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ เราจึงมีเป้าหมายที่ต้องการยกระดับกรุงเทพฯ ให้ไม่ด้อยกว่า มหานคร ไหนในโลก”
คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด เล่าถึงจุดประสงค์ของการพัฒนาโครงการบนถนนพระราม 4

เปิดวิสัยทัศน์ “One Bangkok” ร่วมขับเคลื่อนไปพร้อมกับกรุงเทพฯ
โครงการที่เป็น Mega Project ของ Frasers Property ที่เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการยกระดับย่านพระราม 4 ให้เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจครบวงจร คือ “One Bangkok” เป็น โครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ พร้อมมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ที่ครบครันใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบด้วยอาคารสำนักงานแบบพรีเมียมเกรดเอ พื้นที่รีเทล โรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่และไลฟ์สไตล์ และอาคารที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ บนที่ดิน 108 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 1.93 ล้านตารางเมตร เมื่อโครงการแล้วเสร็จ คาดมีคนเข้ามาใช้บริการหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าวันละ 200,000 คน โดย 60,000 คนจะเป็น captive population ที่เป็น พนักงานในอาคารสำนักงาน ผู้อาศัยในโครงการที่พักอาศัย และ ผู้มาใช้บริการในโรงแรม
โครงการ One Bangkok พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Evolving Bangkok” ร่วมเติบโตและเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกรุงเทพฯ ด้วยการนำคุณค่า และเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ในอดีตมาพัฒนาพื้นที่พระราม 4 ให้เป็นย่านธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ เพื่อผลักดันกรุงเทพฯ สู่การเป็นมหานครระดับโลก
“ทุกโครงการของ Fraser Property ที่พัฒนาขึ้น ต้องสามารถพัฒนาเมือง และเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนได้ ซึ่งไม่ใช่แค่การเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ต้องยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในเมือง
โครงการ วัน แบงค็อก จะเป็นโครงการฯที่ขับเคลื่อนไปพร้อมกับกรุงเทพฯ และมีส่วนช่วยผลักดันให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าระดับนานาชาติ ดึงดูดนักธุรกิจ นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก” คุณปณต ฉายภาพเจตจำนงค์ของการพัฒนา โครงการ วัน แบงค็อก
แนวคิดการพัฒนา One Bangkok ประกอบด้วย 4 แกนหลักคือ
- Being the Movement: ขับเคลื่อนเมืองและนำความก้าวหน้ามาพัฒนาไปพร้อมกับกรุงเทพฯ เพื่อคุณภาพชีวิตของคนเมือง
การสร้างโครงการ One Bangkok ได้ทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำด้านการออกแบบ – ก่อสร้าง และบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกมากมาย เช่น
– การออกแบบ Masterplan ได้ร่วมมือกับบริษัทออกแบบที่มีชื่อเสียงและผลงานระดับโลกอย่าง SOM
– การก่อสร้าง และวางโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านเทคโนโลยี และระบบของโครงการ ได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจผู้มีความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของประเทศ เช่น SCG, Tokyo Gas, Mitsui, Huawei, Gulf, Accenture, Hitachi และ Veolia
– ผสานกับภาครัฐ “กรุงเทพมหานคร” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองสวนลุมพินี ครบ 100 ปีในปี 2568
– ร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรนวัตกรรมในการพัฒนาถนนพระราม 4 ให้เป็น Smart Corridor
- Amplify Bangkok’s Values: ความเป็นที่สุดแห่งคุณค่าและเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ที่สั่งสมมานับศตวรรษ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำให้ผู้คนรู้จักถนนพระราม 4 และกรุงเทพฯ มากขึ้น
– เป็นโครงการแรกที่มี Art Loop ระยะทาง 2 กิโลเมตร เพื่อให้คนได้ดื่มด่ำบรรยากาศงานศิลปะ ช่วยผ่อนคลาย และสร้างพลังความคิดสร้างสรรค์
– รวบรวมอาหารจากแหล่งต่างๆ ของกรุงเทพฯ มาไว้ในที่เดียว สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี
– มีการสร้าง ‘สถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง’ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อถนนวิทยุ กลับขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบเดิม และยังจะทำนิทรรศการเพื่อบอกเล่าประวัติศาสตร์ของสถานที่ให้กับผู้มาเยือน
- Redefine the Cityspace: เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะพลิกโฉมเมือง ด้วยการพัฒนาย่านพระราม 4 ให้เป็นแกนกลางใหม่ของเมืองที่มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ
– โครงการ One Bangkok จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเติมเต็มย่านพระราม 4 ให้เป็น New CBD
– ออกแบบ Landscape แนวคิดใหม่ ด้วยการกำหนดให้มีระยะร่นจากทางเท้าเข้าไปยังตัวอาคาร 30– 45 เมตร เพื่อสร้างเป็น Linear Park เป็นพื้นที่สีเขียวและทางเดิน เชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินี ทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
“โดยปกติการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป จะร่นระยะอาคารจากทางเท้าเข้าไปไม่เกิน 6 – 12 เมตร แต่สำหรับ One Bangkok ร่นอาคารเข้าไป 30 – 45 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวมากขึ้น และเป็นความตั้งใจของเราในการสร้างโครงการที่เคารพเมือง ดังนั้น เราเชื่อว่า One Bangkok จะทำให้การพัฒนาถนนพระราม 4 สมศักดิ์ศรีการเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของกรุงเทพฯ และทุกคนสามารถใช้ประโยชน์จากโครงการนี้ได้อย่างเต็มที่” คุณปณต ขยายความเพิ่มเติม
- Empower Life in Smart and Sustainable Ecosystem: ให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐาน การจัดการระบบข้อมูล และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย ตอบโจทย์การใช้ชีวิต พร้อมดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อเติบโตไปพร้อมกับกรุงเทพฯ อย่างยั่งยืน
– มากกว่า 50 ไร่บนที่ดินทั้งหมดของ One Bangkok เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง (Open Space)
– มีทางเดินเชื่อมถึงกันในโครงการภายใน 15 นาที
– คำนึงถึงความยั่งยืน โครงการ One Bangkok มุ่งสู่การรับรองโดยมาตรฐานระดับโลก ทั้ง LEED for Neighborhood Development ระดับ Platinum แห่งแรกในประเทศไทย และมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย และผู้ใช้อาคาร
นอกจากนี้ได้ตั้งเป้าสู่การรับรองมาตรฐาน WiredScore และ SmartScore สำหรับกลุ่มอาคารสำนักงานแห่งแรกที่มีระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะแห่งอนาคตที่ดีที่สุด เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและความคุ้มค่าในอนาคต
รวมทั้งล่าสุดได้คว้า 2 รางวัลจากเวทีระดับเอเชียคือ Best Landmark Mixed-use Development (Asia) ถือเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ และรางวัล Best Office Development (Thailand) สำหรับสำนักงาน Tower A จากเวทีประกาศรางวัล PropertyGuru Asia Property Awards Grand Fair 2022
“Fraser Property มีหลักการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ว่า “วัฏจักรของอสังหาริมทรัพย์” หรือ “Real Estate of Lifecycle” หมายความว่า ถ้าเราลงทุนดี และบริหารจัดการได้ดี โครงการนั้นจะดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน
ดังนั้น ในการพัฒนาเรามองภาพใหญ่ในวงกว้าง โดยให้ความสำคัญทั้ง Human Centric การนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาใช้ และด้านความยั่งยืน องค์ประกอบเหล่านี้จะต้องเชื่อมโยงกัน เพื่อให้คนที่เข้ามาอยู่ในโครงการเรา ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด” คุณปณต ขยายความเพิ่มเติม
เจาะลึก “Urbanverse จักรวาลของชีวิตเมือง”
จากแนวคิด 4 แกนของการพัฒนา One Bangkok คราวนี้มาเจาะลึกยิ่งขึ้นกับภายในโครงการ ที่พัฒนาขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ “Urbanverse – จักรวาลของชีวิตเมือง” คือ การเชื่อมโยงความหลากหลาย เข้ากับย่านพระราม 4 และยังสร้างความร่วมมือ พร้อมทั้งเติมเต็มศักยภาพให้กับย่านอื่นๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อให้เกิดพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของเมือง และสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนอย่างแท้จริง
จักรวาลชีวิตเมืองใน วัน แบงค็อก มอบประสบการณ์ใหม่ 8 ส่วน ประกอบด้วย
- ประสบการณ์แห่งโลกธุรกิจ (Workplace) อาคารสำนักงาน 5 อาคารที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนทำงาน และความสะดวกสบายช่วยให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า
โดยแต่ละอาคารจุดเด่นแตกต่างกัน ทั้งวิวที่มองออกไปข้างนอก มีทั้งวิวบางกระเจ้า, วิวเมือง, วิวสวนลุมพินี นอกจากนี้ยังมี Co-working Space ขนาดกว่า 20,000 ตารางเมตร เพื่อตอบโจทย์อนาคตการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป
- ประสบการณ์แห่งโลกไลฟ์สไตล์ (Retail) ประสบการณ์ใหม่แห่งการช้อปปิ้งที่สร้างสรรค์ขึ้นจากเสน่ห์ที่หลากหลายของกรุงเทพฯ บนแนวคิดและการออกแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ประสบการณ์แห่งนิทรรศการและการแสดงระดับโลก (Live Entertainment Arena) พื้นที่จัดการประชุม นิทรรศการ และงานแสดงระดับโลกที่ได้มาตรฐานระดับสากล ซึ่งจักรวาลชีวิตเมืองในส่วนนี้ ทำให้เกิดกิจกรรมที่หลากหลายใน One Bangkok
- ประสบการณ์แห่งการบริการที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนและธุรกิจ (Hotel) รวมโรงแรมระดับโลกอันเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่มองหาบริการระดับสากล แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ประกอบด้วย The Ritz-Carlton Bangkok และ Andaz One Bangkok แห่งแรกในกรุงเทพมหานคร


- ประสบการณ์เหนือระดับของการอยู่อาศัย (Residences) ที่พักอาศัยระดับ Luxury บนทำเลดีที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ และครบครันด้วยคุณค่าการใช้ชีวิตเหนือระดับ
- ประสบการณ์แห่งศิลปะและวัฒนธรรม (Art & Culture) แหล่งรวมศิลปะและวัฒนธรรมที่สร้างสีสันให้กับชีวิตในทุกวันของคนที่ผ่านพื้นที่ที่เชื่อมโยงผลงาน ศิลปะสาธารณะ และพื้นที่แห่งการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ (Art Loop)
- ประสบการณ์บนพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่ง (Public Realm) มีพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวมากกว่า 50 ไร่ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เพื่อเป็นจุดพักผ่อนใจกลางเมืองและเป็นพื้นที่กิจกรรมและสันทนาการของเมือง เชื่อมระหว่างสวนลุมพินี และสวนเบญจกิติ
- ประสบการณ์เมืองอัจฉริยะแบบยั่งยืน (Smart City with Sustainable Infrastructure)โครงการพื้นฐานแห่งเมืองอัจฉริยะที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและส่งเสริมเมืองอย่างยั่งยืนด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
Traffic Design ป้องกันการจราจรติดขัดภายใน-ภายนอกโครงการ
ด้วยความที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีความหนาแน่นสูง ทั้งจำนวนรถ และประชากร ดังนั้นในฐานะที่ One Bangkok เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใจกลางเมือง
เราจึงให้ความสำคัญกับ Masterplan และการออกแบบการจราจร (Traffic Design) เป็นลำดับแรกๆ ทั้งการเข้าถึง และการเดินทาง โดยตัวโครงการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน สถานีลุมพินี และมีทางเข้า-ออกรอบโครงการ 6 จุด ทั้งฝั่งถนนวิทยุ ถนนพระราม 4 และเชื่อมตรงกับทางด่วน
ขณะเดียวกันทางเข้า-ออก 6 จุดเชื่อมต่อโดยตรงกับอาคารจอดรถ ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินของโครงการ สามารถจอดรถได้ถึง 8,000 คัน โดยใช้ระบบบริหารจัดการจราจรอัจฉริยะ เพื่อช่วยการหมุนเวียนการจราจรภายในสะดวก และคล่องตัว
“การออกแบบ Traffic Design เราศึกษาและคิดตลอดทั้ง Customer Journey ตั้งแต่ Speed ของรถ ทั้งระยะเวลาลงไปจอด และขึ้นมาเร็วแค่ไหน เมื่อผู้ที่เข้ามาใน One Bangkok ขับรถมา ต้องไปยังที่จอดรถได้เร็วที่สุด และสามารถจอดรถในที่ๆ ใกล้ที่สุดของที่ๆ เขาจะไปต่อด้วย รวมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการการจราจร” คุณปณต ขยายความเพิ่มเติมถึงการออกแบบการจราจร
จัดเต็มการตลาดเชิงรุกตลอดปี 2566
เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิดตัวโครงการ One Bangkok ได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกตลอดทั้งปี 2566 โดยเปิดตัวแบรนด์ แคมเปญใหม่ โดยชูภาพลักษณ์ที่มีสีสัน ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เข้าถึงง่าย เพื่อตอกย้ำแนวคิดโครงการ “One Bangkok Evolving Bangkok” ตลอดจนการผนึกกำลังกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชนในภาคส่วนต่างๆ เพื่อนำกรุงเทพฯ ไปสู่ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
โครงการ One Bangkok มีกำหนดการเปิดให้บริการเฟสหนึ่ง ในไตรมาสแรก ของปี 2567
ความสำเร็จของโครงการ One Bangkok ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ขนาดนี้ ไม่ได้มาจากคนใดคนหนึ่ง แต่มาจากประสบการณ์ของทีมงานมืออาชีพทุกคน และพาร์ทเนอร์ต่างๆ ที่ร่วมมือกันทำให้เรามาถึงจุดนี้ได้ บวกกับความตั้งใจในการพัฒนาโครงการ One Bangkok ให้เป็นมาตรฐานใหม่ที่ตอบโจทย์เมือง และเชื่อว่าโครงการนี้จะอยู่คู่กับกรุงเทพฯ จากรุ่นสู่รุ่น” คุณปณต สรุปทิ้งท้ายถึงหัวใจแห่งความสำเร็จของ One Bangkok