กางแผนปี’67 NocNoc มุ่งสู่การเป็น Home and Living Destination พร้อมสยายปีกสู่อาเซียน

  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

 

‘เรื่องบ้าน เรื่องบานปลาย’ เป็นประโยคที่หลายคนคงเคยได้ยินกันมาอย่างแน่นอน ว่าการแต่งบ้านปรับปรุงบ้านไม่เคยจบในครั้งเดียว นั่นจึงทำให้ภาพรวมของตลาดสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ในปี 2567 นี้ คาดว่าน่าจะเติบโตได้อีกประมาณ 3% จากมูลค่าตลาดรวม 450,000 ล้านบาท เปิดเผยโดย คุณชลลักษณ์ มหาสุวีระชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc กล่าวในงานประกาศความสำเร็จในปี 2566 พร้อมเผยทิศทางกลยุทธ์ที่ พร้อมทรานฟอร์มสู่ Home and Living Destination อย่างแท้จริง

 

 

จบปี 2566 อย่างสวยงามด้วยยอดขายโต 100%

เป็นปีที่งดงามอีกเช่นเคยของมาร์เก็ตเพลสด้านสินค้าและบริการเรื่องบ้านอย่าง NocNoc กับการจบปี 2566 ด้วยยอดขายที่เติบโตถึง 100% ‘ชลลักษณ์’ ซีอีโอสาวคนเก่งของ NocNoc ระบุว่า ปัจจัยหลักมาจากการเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ได้กว้างและลึกมากขึ้น รวมทั้งการขยายตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและพาณิชย์ โดยเฉพาะออนไลน์ นอกจากนี้ ตัวแพลตฟอร์มยังได้รับความนิยมมากขึ้น ปี 2566 พบว่า มีผู้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มมากกว่า 6,000 ราย และมีสินค้าจำหน่ายราว 700,000 SKUs นอกจากนี้ ยังพบอินไซต์ที่น่าสนใจของลูกค้า คือไม่เฉพาะกรุงเทพฯ เท่านั้นที่ได้รับความนิยม โดยพบว่ามีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัดด้วย โดย 5 จังหวัดที่มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี ระยอง และนราธิวาส

“อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ NocNoc ไม่ใช่การดำเนินธุรกิจเพื่อทำกำไรในระยะสั้น หรือเอาชนะใคร แต่ NocNoc ต้องการดูแล และสนับสนุนทั้ง Ecosystem ตั้งแต่ลูกค้า ผู้ขาย ช่าง ผู้ออกแบบ ผู้จัดส่ง รวมถึงพันธมิตรในอุตสาหกรรมทั้งหมด” ซีอีโอ NocNoc กล่าว

 

 

3 ปัจจัยช่วยขับเคลื่อนการเติบโตแบบก้าวกระโดด 

ปัจจัยหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ NocNoc เติบโต และดูแล Ecosystem ได้ตามเป้าหมาย คือ

1) คนชาว NocNoc มีความฝันเดียวกันที่อยากให้ NocNoc เติบโตเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคนใน Ecosystem

2) ‘ความเชื่อใจ’ (Trust) เราเชื่อว่า การใช้ศักยภาพที่เขามีจะช่วยให้ NocNoc ได้รับความเชื่อใจจากทุกคนใน Ecosystem เช่นกัน

3) ‘เทคโนโลยี’ เราเชื่อว่าเทคโนโลยีจะสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าใน Home and Living  Sector ซึ่ง NocNoc ได้บุกเบิกการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างมีประสิทธิผลมาแล้ว และจะลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีชั้นนำอย่างต่อเนื่อง ในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและผู้ขาย ทั้งในด้านประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม และการใช้ AI เข้ามาช่วย

 

 

ก้าวสู่ปี 2567 ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีเฉพาะตัว

แต่ความสำเร็จของปีที่ผ่านมาไม่ทำให้ NocNoc นิ่งนอนใจ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตต่อไป โดยแผนและกลยุทธ์ในปี 2567 เปิดเผยโดย อนุพงศ์ ทะสดวก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการค้าและพาณิชย์ บริษัท เบ็ตเตอร์บี มาร์เก็ตเพลส จำกัด หรือ NocNoc ระบุถึงกลยุทธ์ที่จะใช้ในการพิชิตตลาดสินค้าและบริการเรื่องบ้านออนไลน์ว่า จะมุ่งสู่การทำตลาดแบบ ‘Personalized Experience หรือการสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบเฉพาะตัว’ โดยวางให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ในการทำธุรกิจ

 

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์จะเป็นกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 25-45 ปี มีความสนใจเฉพาะตัวค่อนข้างมาก โลเคชั่นส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ก็พบว่ามีการขยายการเติบโตได้อย่างน่าสนใจไปที่หัวเมืองต่างๆ ในทุกปี สร้างให้เกิดความต้องการของสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น NocNoc จึงมองว่าการขยับไปสู่หัวเมืองต่างๆ จังหวัดทั่วประเทศจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะสร้างการเติบโตในปีหน้าได้

อีกกลยุทธ์ที่มองว่าน่าสนใจมากของ NocNoc ในการรุกปี 2567 คือ การสร้างความโดดเด่นและแตกต่างให้กับสินค้าตกแต่งบ้าน ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Roomscene InspiREALtion เป็นการสร้างสิ่งที่อยู่ในจินตนาการความคิดของลูกค้า ออกมาเป็นภาพที่เห็นได้ด้วยตาอย่างชัดเจน โดย อนุพงศ์ เล่าว่าการสร้งประสบการณ์ผ่าน Inspiration and Idea โดยเฉพาะในเรื่องของการนำสินค้าเรื่องบ้านมาจัดแสดงในรูปแบบต่างๆ (Roomscene InspiREALtion) เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพว่าหากซื้อสินค้าเหล่านี้แล้วจะถูกจัดวางในบ้านของตัวเองอย่างไร เพราะ NocNoc อยากให้การซื้อสินค้าแต่ละครั้งของลูกค้ามาจากความต้องการอย่างแท้จริง หรือมองเห็นแล้วว่าไอเดียการจัดวางบ้านแบบไหนที่ตัวเองชอบ หรือเหมาะกับการตกแต่งบ้านของตัวเองมากที่สุด

 

 

พร้อมเดินหน้าขยายช่องทางให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าและบริการเรื่องบ้านได้หลากหลายมากขึ้นจากออนไลน์สู่ออฟไลน์ (Omni Channel) ผ่านงาน NocNoc Fair และ Pop-up Store เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการสัมผัสสินค้าจริง พร้อมเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งยังได้ไอเดียของการตกแต่งบ้านจากงานดังกล่าวทางหนึ่งด้วย

ที่สำคัญ เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็น Home and Living Destination ซึ่งช่วยให้ทุกเรื่องของการอยู่อาศัย กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกๆ คน และตอบโจทย์ในการใช้ชีวิตของลูกค้าตั้งแต่การหาไอเดีย ซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้าน รวมถึงรีโนเวทบ้านแบบครบจบที่เรา  NocNoc จึงมุ่งสู่การเป็น Home Solution ที่ช่วยให้ทุกเรื่องของการอยู่อาศัย กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกๆคน และตอบโจทย์ทุกสเตจพื้นที่การใช้ชีวิตของลูกค้าตั้งแต่การหาไอเดีย ซื้อบ้านใหม่ ตกแต่งบ้าน รวมถึงรีโนเวทบ้านแบบครบจบที่ NocNoc ที่เดียว โดยเรา ช่วยลูกค้าทั้งให้คำปรึกษา ดีไซน์ให้ตรงตามแบบที่ต้องการ เลือกสินค้าและบริการให้ตรงใจและตรงกับรูปแบบการใช้ชีวิต รวมถึงบริการขนส่ง งานช่าง ติดตั้ง ประกอบ พร้อมทั้ง Warranty จาก NocNoc โดยมั่นใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งขึ้นได้ในปีนี้

 

 

นอกเหนือจากการเสริมแกร่งกับลูกค้าในกลุ่ม B2C (Business-to-consumer) แล้ว NocNoc ยังวางกลยุทธ์เพิ่มเติมในส่วนการขยายฐานลูกค้าเข้าสู่ B2B (Business-to-business) อีกด้วย ทั้งนี้ อนุพงศ์ บอกว่า เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกกลุ่มธุรกิจทั้งรายย่อยและรายใหญ่ให้ได้สินค้าและบริการตามความต้องการ รวมไปถึงต้องการผนึกกำลังกับพันธมิตรทางการค้า ในปีนี้จึงผลักดัน NocNoc for Business เพื่อให้ทั้งความรู้และช่วยนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับธุรกิจ (Business Solution) ทั้งการออกแบบ การเลือกสินค้าและบริการให้เหมาะกับการเปิดร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และออฟฟิศ ต่างๆ รวมทั้งการดึงผู้ขายที่เป็นพาร์ทเนอร์เข้าร่วมทำโปรโมชั่นพิเศษในกิจกรรมต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นผลดีแก่ผู้ขายและกลุ่มลูกค้าทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งมีแผนที่จะไปทั้งหมด 8 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ชลบุรี ภูเก็ต โคราช ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และระยอง

“ปัจจุบัน NocNoc มีรายได้จากลูกค้ากลุ่ม B2C หรือบุคคลทั่วไปถึง 70% และแนวโน้มการเติบโตของลูกค้าทั่วไปนั้นมีมากกว่า B2B หรือกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ผ่านการปูพรมการตลาดผ่านช่องทางต่าง ๆ แต่ด้วยภาคธุรกิจเริ่มกลับมาลงทุนอย่างจริงจังอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ปี 2024 NocNoc จะเพิ่มความสำคัญให้กลุ่มนี้ด้วย” อนุพงศ์ กล่าว

 

จับตาการรุกตลาดระดับอาเซียน

นอกเหนือจากตลาดในประเทศแล้ว ในปีนี้ก็จะเป็นปีที่ NocNoc จะบุกตลาดอาเซียนเต็มรูปแบบ โดยหลังจากที่ไปลงทุนยังประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2563 เป็นประเทศแรก หลังจากนั้นมีการส่งสินค้าในรูปแบบ Cross Border ไปที่ลาว, กัมพูชา และมาเลเซีย ดังนั้น ในปีนี้ก็จะเห็นบทบาทการรุกตลาดต่างประเทศที่มากขึ้นกว่าเดิม

 

 

“ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้บริษัทเติบโต การมุ่งสู่องค์กรระดับอาเซียนคือหนึ่งในความตั้งใจของเรา เราเองก็อยากที่จะเป็นบริษัทที่มีอายุเกิน 100 ปี และจะดำเนินการตามแผนต่อไปอย่างแน่นอนอยากให้รอติดตามความคืบหน้าต่างๆ ต่อไปสำหรับการรุกตลาดต่างประเทศ” ชลลักษณ์ กล่าวเสริมเรื่องแผนในปี 2567

 

ตั้งเป้าความสำเร็จปี 2567 เติบโตขึ้น 40%

นอกจากกลยุทธ์ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ทาง NocNoc ยังพบว่า ลูกค้าไม่ได้ซื้อของแต่งบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความต้องการสินค้าเพื่อเติมเต็มทุกพื้นที่การใช้ชีวิตของพวกเขาอีกด้วย จึงตัดสินใจขยายสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์มากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ตลาดในแต่ละช่วง

 

 

“ถึงแม้ว่าสินค้าบนแพล็ตฟอร์ม NocNoc จะมีมากกว่า 700,000 รายการแล้ว แต่ก็ยังมีสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่านี้อีก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการรีโนเวทหรือปรับปรุงที่พักอาศัย รวมถึงกลุ่มอื่นๆ อาทิ สินค้าสำหรับแม่และเด็ก สินค้ากลุ่มกาแฟ สินค้ากลุ่มสัตว์เลี้ยงซึ่งตรงกับเทรนด์ Pet Parents ในปัจจุบัน ทำให้สินค้าไลฟ์สไตล์มียอดขายที่ดี เช่น เครื่องชงกาแฟ ตู้อบแมว เป็นต้น รวมไปถึงสินค้าสำหรับผู้สูงวัย ที่มารองรับสังคม Ageing Society หรือแม้แต่หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ IT Gadget ต่างๆ  ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ดังนั้น โจทย์ของ NocNoc คือการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เพราะการตกแต่งบ้านสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ และความต้องการ ซึ่งการมีสินค้าและบริการที่ครบจบในที่เดียว จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มของ NocNoc ซ้ำอย่างต่อเนื่อง”

 

 

และด้วยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้เอง ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดแบบ Personalized Experience ขยายฐานลูกค้าในต่างจังหวัดแถบหัวเมืองใหญ่มากขึ้น ขยายหมวดหมู่สินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งผ่าน Home Solution ทำให้ NocNoc มั่นใจว่า ปี 2567 จะสามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้นถึง 40% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่าภาพรวมตลาดมาร์เก็ตเพลสและช่องทางค้าปลีกดั้งเดิม และพร้อมที่จะทรานส์ฟอร์มสู่ Home and Living Destination ได้อย่างแท้จริง

น่าติดตามต่อไปว่า NocNoc จะสามารถเติบโตอย่างไรต่อไป ในวันที่การตกแต่งบ้านกลายมาเป็นไลฟ์สไตล์ปกติของทุกคน แล้วการช้อปปิ้งไม่ได้จำกัดแค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งอีกแล้ว เชื่อว่านับจากนี้ไปธุรกิจของตกแต่งบ้านจะคึกคักและมีความน่าสนใจมากขึ้อย่างแน่นอน.


  •  
  •  
  •  
  •  
  •