ปัจจุบันการทำธุรกิจเริ่มมองเห็นความสำคัญของการบริหารจัดการ Data เพื่อนำมาผลักดันให้เกิดประโยชน์ และสร้างการเติบโตแบบ New S-Curve โดยเป้าหมายสำคัญนั่นคือการ Transformation องค์กร ผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AI, Clouds, Robotics ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แม้โลกจะต้องก้าวให้เร็วและล้ำสมัยอยู่เสมอ แต่สิ่งที่คนทั้งโลกให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันนั่นคือปัญหาสิ่งแวดล้อม ที่หลายองค์กรยินดีที่จะลงทุนหรือแม้แต่เพิ่มการลงทุน เพื่อเป้าหมายสร้างโลกที่น่าอยู่สำหรับเราทุกคนในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคเองก็คาดหวังที่จะเห็นองค์กรต่างๆ ร่วมผลักดันในการดูแลสิ่งแวดล้อมของเราให้ดีขึ้น
ทั้งหมดนี้น่าสนใจตรงที่ว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีกับการรักษ์โลกนั้นสามารถเดินไปพร้อมๆ กันได้ โดยบริษัทคนไทย หนึ่งในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% มีชื่อแสนเก๋ว่า Mekha V (อ่านว่า เมฆา วี) ประกาศตัวพร้อมที่จะผลักดันและเป็นส่วนหนึ่งของการนำเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AI, Robotics และ Digitalization มาใช้เพื่อยกระดับให้ธุรกิจไทย เศรษฐกิจไทย และประเทศไทย ก้าวเดินไปบนเส้นทางแห่งเทคโนโลยีที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทยดีขึ้นด้วย ซึ่งเราได้โอกาสคุยกับ คุณชาญ กุลภัทรนิรันดร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่แผนและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมฆา วี จำกัด (Mekha V) จะมาเล่าให้เราฟังทุกๆ อย่างว่า Mekha V คือใคร?
ความสำคัญของเทคโนโลยีในการผลักดันการเติบโตธุรกิจ
คุณชาญ เริ่มต้นเล่าให้ฟังถึงความสำคัญของเทคโนโลยีที่มีต่อการดำเนินธุรกิจว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการทำ Digitalization ตอนนี้ที่ฮิตกันอยู่และถูกพูดถึงกันมากเลยก็คงหนีไม่พ้น AI (Artificial Intelligence) ปัจจุบันได้มีการนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจมากมาย ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องใหม่แต่ด้วยความพร้อมหลายด้านก็ทำให้ AI เป็นที่สนใจมากขึ้นในตอนนี้ โดยมีปัจจัยหลักๆ อยู่ 3 ข้อที่ทำให้เกิดขึ้น 1) Machine Learning การทำให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้หรือตอบสนองได้เหมือนกับมนุษย์ 2) การที่เรามี Data ขนาดใหญ่และทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปในรูปของข้อมูลหมด ทำให้เรามีชุดของ Data ที่มหาศาลไหลเวียนอยู่ในโลกปัจจุบัน และ 3) เรามีเทคโนโลยีที่มีความสามารถในเรื่องการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้นมาก ทั้ง 3 ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การพัฒนา AI ในปัจจุบัน สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและนำมาใช้ในเชิงธุรกิจได้ด้วย
อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีความสำคัญมากในการทำธุรกิจก็คือ Cloud เป็นเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูล Infrastructure ขนาดใหญ่ และมีความ Flexibility สูง สามารถนำมาใช้ตามความต้องการ และตามความจำเป็นได้ แล้วก็ยังมีเครื่องมือจำนวนมากที่สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่เราส่งไปเก็บได้ นอกจากนี้ เดิมทีการเก็บข้อมูลต้องลงทุนในเรื่องเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ ลงทุนเรื่องของตึกจำนวนมหาศาล แต่วันนี้เราไม่จำเป็นต้องลงทุนมหาศาลขนาดนั้นแล้ว เพราะเราสามารถใช้บริการ Cloud ที่สามารถเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ได้ แล้วก็ยังจ่ายค่าบริการตามความจำเป็นที่เราใช้ข้อมูลตรงนั้นได้ด้วย ก็จะเห็นว่ามีความสะดวกสบายกว่ากันเยอะ ซึ่งปัจจุบันองค์กรขนาดใหญ่อย่างในกลุ่ม ปตท. เอง เริ่มมีการทำ Migration คือการนำ Data หรือ Application ที่เดิมอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ที่เป็น Physical Server ย้ายไปอยู่บน Cloud หรือย้ายไปที่ PTT Digital พัฒนาขึ้นมาเองด้วย ตรงนี้คือสิ่งที่เป็นเทรนด์ธุรกิจสมัยใหม่อย่างชัดเจน
ทำความรู้จัก Mekha V ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
มาถึงคำถามสำคัญว่า Mekha V คือใครและมีส่วนในการผลักดันเทคโนโลยีไทยอย่างไรบ้าง คุณชาญ อธิบายว่า Mekha V เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ภายในกลุ่ม ปตท. โดย ปตท. ถือหุ้น 100% หน้าที่ของ Mekha V คือการนำธุรกิจ ที่เรียกว่า AI, Robotics และ Digitalization เข้ามาประยุกต์ใช้ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของ ปตท. และมีเป้าหมายว่าจะนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในธุรกิจที่ ปตท. กำลังดำเนินธุรกิจอยู่ หรือกำลังจะก้าวขึ้นไปสู่ธุรกิจนั้นในอนาคต ซึ่งจากโจทย์ดังกล่าวเราจึงนิยามตัวเองมาอยู่ในธุรกิจที่มีความสำคัญกับ ปตท. ใน 5 สาขาหรือเราเรียก 5 Tech ดังนี้
- Power Tech เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานไฟฟ้า นำไปสู่เรื่องของ Net Zero และ Carbon Neutrality ที่ ปตท. ตั้งเป้าไว้ ในปี 2050
- Mobility Tech ตั้งขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ตบริษัท Arun Plus ซึ่งเป็น Flagship ด้าน EV ของ ปตท. โดยที่ Mekha V จะนำเทคโนโลยีด้าน Connectivity และ Autonomous Vehicle เข้ามาซัพพอร์ต
- Health Tech ตั้งขึ้นมาเพื่อซัพพอร์ตบริษัทด้านเฮลท์แคร์ ด้านไลฟ์สไตล์ของกลุ่ม ปตท. ที่ชื่อว่า Innobic ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพ โดยในช่วงแรกจะดูแลเรื่อง Telemedicine เพื่อสร้างอีโคซิสเท็มเกี่ยวกับเฮลท์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับนำเสนอบริการด้านสุขภาพที่ครบวงจรให้กับผู้บริโภค
- Industrial Tech ด้วยที่ ปตท.เราอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรม เติบโตมาในฝั่งของ Industrial และ Manufacturing โดยทาง ปตท. มีเป้าหมายจะยกระดับอุตสาหกรรมประเทศไทย ไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า Industry 0
- Soft Power Tech เป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อตอบสนองนโยบายภาครัฐ ที่จะส่งเสริม Soft Power และ Creative Content ของประเทศไทย แต่คงไม่ใช่การที่ ปตท.ไปสร้างหนัง สร้างคอนเทนต์ หรือสร้างเกมส์เอง แต่เราตั้งใจจะสร้างสิ่งที่เรียกว่าอินฟราสตรักเจอร์ต่างๆ เช่น Creative Studio หรือ Outsource Studio ทั้งหลาย แล้วก็นำเทคโนโลยีเช่น AR, VR มาเป็นเครื่องมือในการสร้างคอนเทนต์
ทั้งหมดนี้คือ 5 แอเรียหลักที่ Mekha V ดำเนินการอยู่ แต่ว่าทั้ง 5 ตัวนี้จะต้องประกอบไปด้วยรากฐานที่สำคัญก็คือ Cloud Business ที่เราจะให้บริการลูกค้าของเราในเรื่องของ Cloud Service ทั้งหลาย โดยตั้งใจให้ธุรกิจของเราเป็นสิ่งที่เรียกว่า Multi Cloud จากผู้ให้บริการรายใหญ่ๆ ที่เราเป็นพาร์ทเนอร์อยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Microsoft Azure หรือว่า Cloud ของ Google เป็นต้น อันนี้เป็นสิ่งที่เราตั้งจจะมาเป็น Backboneให้กับ Mekha V และให้กับลูกค้าภายในกลุ่มและภายนอกกลุ่ม ปตท. ด้วย มากไปกว่านั้นเรายังหาทางสร้างโอกาสทางธุรกิจ ให้กับทั้ง 5 ธุรกิจหลักที่เรามองอยู่รวมทั้งบางส่วนก็จะนำกลับมาใช้ใน ปตท. เองด้วย
Mekha V กับเทคโนโลยี AI นำมาใช้จริงทั้งในปัจจุบันและอนาคต
คุณชาญ เล่าว่า ได้มีการนำ AI มาเป็นองค์ประกอบสำหรับ 5 ธุรกิจหลักของ Mekha V ด้วย ยกตัวอย่างเรื่อง Power Tech มีการนำ AI มาทำเรื่อง Energy Optimization การสร้างระบบมาตรฐานการจัดการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน อย่างเช่นเรานำ AI มาพยากรณ์การใช้พลังงานให้เกิดความเหมาะสมในแต่ละอาคาร เพื่อทำให้เกิดการใช้พลังงานที่คุ้มค่าเหมาะสมมากที่สุด เช่น ประเมินได้ว่าเวลานี้คนใช้ห้องนี้เยอะก็ควรจะเปิดแอร์ให้เย็นขึ้น หรือช่วงนี้คนไม่ได้มาใช้ห้องก็อาจจะมีการปรับอุณหภูมิปรับให้อุ่นขึ้นตามความเหมาะสมของการใช้งาน โดยเราจะสามารถตรวจจับ (Detect) ได้ว่า อุปกรณ์ชิ้นไหนหรือว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวไหนที่ใช้พลังงานเยอะในแต่ละช่วงเวลา สามารถบริหารเรื่องของคนที่เข้ามาในตึกได้เลย หรือในมุมของ Health Tech จะนำ AI มาช่วยแพทย์ในเรื่องการสกรีนอาการของผู้ป่วยเป็น AI Chatbot หรือ AI Diagnostic Tools เช่น เมื่อมีการอัปโหลดไฟล์ภาพเอ็กซ์เรย์ฟันของคนไข้มา ก็จะบอกได้ว่าปัญหาทางทันตกรรมของเขาเป็นโรคอะไรได้บ้าง สามารถวินิจฉัยได้ก่อนที่จะถึงมือแพทย์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลายๆ เรื่องที่ Mekha V ทำคงไม่ได้พูดเรื่อง Data อย่างเดียว เพราะการที่ทำในดิจิทัลอย่างเดียวมันอาจจะตอบสนองความต้องการหรือตอบสนองโจทย์ที่ผู้บริโภคต้องการอย่างเดียวไม่ได้ สิ่งที่ Mekha V ทำคือนำในเรื่องของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ มาประสานกันเพื่อให้ได้โซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ นั่นเอง
Mekha V กับการสนับสนุน Sustainability
อย่างที่เกริ่นว่าไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีที่ Mekha V มีความสามารถ แต่ในเรื่องของ Sustainability ก็สนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งคุณชาญบอกว่า ทั้ง 5 Tech ที่ Mekha V เกี่ยวข้องอาจจะมีส่วนซัพพอร์ตทางอ้อม แต่ที่บอกได้เลยว่าเป็นการสนับสนุน Sustainabilityโดยตรงเลยก็คือ Power Tech ซึ่งเรานิยามตัวเองว่าเป็น Carbon Neutrality Partner ให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของอุตสาหกรรมหรือส่วนของเรสซิเดนเชียลพวกตึกและอาคารสำนักงาน โดยสิ่งที่เราเข้าไปทำคือการเข้าไปช่วยบริหารจัดการพลังงานให้เหมาะสมและคุ้มค่ากับการใช้งาน
นอกเหนือจากการบริหารจัดการพลังงานแล้ว เรากำลังจะพูดถึงเรื่องการจัดเก็บข้อมูล เกี่ยวกับคาร์บอน E-Vision ทั้งหลาย คือกิจการทั้งหลายที่มีการปล่อยคาร์บอนออกมา อาจจะมีการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดคาร์บอนเหล่านี้ โดยเราจะมีฐานข้อมูลที่เรียกว่า Carbon Note เพื่อช่วยให้องค์กรแต่ละองค์กรมีข้อมูล และทำความเข้าใจว่าตัวเองผลิตเรื่องของ Carbon ออกมามากน้อยขนาดไหน เพื่อใช้ในการบริหารจัดการต่อไปได้ในอนาคต
คุณชาญยังกล่าวถึงการขานรับกับนโยบาย Net Zero ของ ปตท. ว่า การที่เราจะบรรลุเป้าหมายได้เรามีความพยายามเปลี่ยนเรื่องของแหล่งพลังงานให้ไปสู่พลังงานสะอาดขึ้น เรามีความชัดเจนในการลงทุนเรื่อง Renewablenable Energy เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) พลังงานลม (Wind) รวมทั้งเทคโนโลยีอื่นๆ อีกที่อาจจะตามมา เช่น ไฮโดรเจน
นอกจากนี้ เรายังดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพของการใช้พลังงานภายในหน่วยงานต่างๆ ของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็น โอเปอเรชั่น ที่โรงงาน ออฟฟิศ หรือยานพาหนะของเราเอง ก็จะเป็นส่วนที่ทางแพล็ตฟอร์มของ Power Tech ของเราเข้ามาช่วยบริหารจัดการ สุดท้าย หากถ้าทั้งสองอย่างยังไม่เพียงพอ ก็จะมีอีกส่วนก็คือ การซื้อขายพลังงานมาจากแหล่งพลังงานที่อื่น ผ่าน RENEX แพล็ตฟอร์มของเราเอง แล้วถ้าซื้อขายพลังงานยังไม่พออีก ก็ยังมี ReAcc ที่ช่วยรับรอง Renewable Energy Certificates ที่ทำให้ภาพของ Net Zero เกิดความสมบูรณ์และบรรลุเป้าหมายตามที่องค์กรวางไว้ได้ ทั้งหมดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันในเรื่องของนโยบาย Net Zero ตามเป้าหมายของ ปตท.
เทคโนโลยี Mekha V กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค
นอกเหนือจากเรื่องของธุรกิจและสิ่งแวดล้อมแล้ว เทคโนโลยีของ Mekha V ก็ยังมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคด้วย คุณชาญ นำเสนอว่า ในมุมของ Health Tech เราตั้งใจทำในเรื่องของ Telemedicine โดยเราจะใช้เน็ตเวิร์คของ ปตท. และพาร์ทเนอร์ของเรามาสร้างประสบการณ์สำหรับผู้เข้ามาใช้บริการ เป็นประสบการณ์ที่ครบวงจร จากรูปแบบออนไลน์ไปออฟไลน์ เพราะว่าสุดท้ายแล้วแม้จะมีแพล็ตฟอร์มออนไลน์รองรับก็จริงอยู่แต่เรื่องของสุขภาพสุดท้ายก็คงต้องกลับไปที่รูปแบบของฟิสิคัลในการให้บริการกับผู้ใช้งานอยู่ดี ซึ่งเทคโนโลยีที่ดูแลด้านสุขภาพต่างๆ ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม
นอกจากนี้ เรายังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดหวังว่าจะมีส่วนในการทำให้ภาคธุรกิจของประเทศเจริญเติบโต และผลสุดท้ายแล้วหากเศรษฐกิจเกิดการเติบโต ประเทศและประชาชนก็จะพัฒนาไปพร้อมๆกัน
แผนในอนาคตและก้าวต่อไปของ Mekha V
ท้ายที่สุด นับจากนี้สิ่งที่ Mekha V จะก้าวต่อไปข้างหน้าพร้อมแผนในอนาคตคืออะไรบ้าง คุณชาญย้ำว่า เป้าหมายเราคือการนำเทคโนโลยี เรื่องของ AI Robotics Digitalization เข้ามาใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะสร้าง และใช้เน็ตเวิร์คต่างๆ ที่มีอยู่ของ ปตท. เข้ามาช่วยผลักดันให้ได้มากที่สุด รวมถึงดึงพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมกันนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาในประเทศไทยหรือเข้ามาลงทุนในไทย เพื่อสร้างธุรกิจร่วมกับเรา
“หลังจากที่สามารถนำเอาพาร์ทเนอร์ต่างๆ มาผนึกกำลังความสามารถร่วมกันได้แล้ว ขั้นต่อไปก็คือการขยายธุรกิจให้เติบโต เรื่องของธุรกิจต่างๆ ที่เรากำลังทำหรือกำลังตั้งไข่อยู่ ณ วันนี้และเริ่มก้าวไปได้บ้างแล้ว วันนี้ต้องขยายสเกลให้มากขึ้นในอนาคต หลายๆ ตัวเรากำลังจะทำสิ่งที่เรียกว่า Business Prototype เราจะพยายามทำสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไปสู่เชิงพาณิชย์ให้ได้ เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนคนไทยทุกคน นี่คือเป้าหมายสำคัญของ Mekha V”