ปี 2566 ถือเป็นปีที่ ธุรกิจโรงแรมและที่พัก (Hospitality Industry) ทยอยฟื้นตัว แต่ภายใต้มุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในปี ปีนี้รายได้ของธุรกิจโรงแรมและที่พักน่าจะเติบโตต่อเนื่อง จากภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น ทั้งตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ และโดยเฉพาะชาวต่างชาติที่คาดว่าในปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย จะฟื้นตัวได้เกือบเท่าตัวจากปี 2565 ซึ่งจะเป็นแรงบวกสำคัญของธุรกิจ เช่นเดียวกับกิจกรรมการจัดงานอีเว้นท์ การจัดประชุมสัมมนาน่าจะทยอยเพิ่มมากขึ้นจากปี 2565 (อ้างอิง https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/Hotel-z3351.aspx)
ด้วยการเติบโตดังกล่าวทำให้เราเห็นการขยับของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากมาย หนึ่งในนั้นคือธุรกิจการเรียนการสอนทำอาหาร ซึ่งตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงต้นปีมีโรงเรียนสอนอาหารในระดับสากลมาเปิดถึง 3 แห่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือ เลอโนท ประเทศไทย ภายใต้การบริหารของ บมจ.บางกอกแลนด์
“ครั้งแรกผมรู้จัก เลอโนท จากการที่ผมชอบไปทานครัวซองต์ ที่คาเฟ่ เลอโนท (CAFE LENOTRE) ในซอยหลังสวน”
พอลล์ กาญจนพาสน์ ซีอีโอ บางกอกแลนด์ บอกกับเรา ถึงความประทับใจที่เขามีกับ เลอโนท ซึ่งเบื้องแรกเขาเองก็ยังไม่ทราบว่า เลอโนทฯ มีโรงเรียนสอนทำอาหารด้วย
คาเฟ่ เลอโนท (CAFE LENOTRE) เปิดสาขาแรก ที่ซอยหลังสวน 2 แต่ไม่นานก็ปิดตัวไป เพราะเปลี่ยนมือผู้บริหาร อาจจะทำให้ “คุณพอลล์” เสียใจหรือเสียดายที่ไม่ได้ทานครัวซองต์จากที่นี่อีกต่อไป จุดนี้ก็ไม่อาจทราบได้ แต่ก็ทำให้ตัดสินใจยื่นนามบัตรพร้อเปิดโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารคนใหม่ของเลอโนท
“ผมก็ยื่นนามบัตรไปบอกว่า ถ้ามีโอกาสอยากกลับมา ก็ลองติดต่อมา เผื่อเราได้มีโอกาสทำอะไรร่วมกัน แล้วเขาก็บอกว่าอยากจะกลับมาเมืองไทย และก็ถามว่าสนใจจะทำโรงเรียนไหม เราบอกเออก็ดีนะ” คุณพอลล์ เล่าให้ฟังถึงที่มา จุดต้นของการเปิด โรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย (Lenôtre Culinary Arts School Thailand)
แม้จะดูเหมือนว่า ความชอบและบวกกับความบังเอิญทำให้ ได้มาเปิดโรงเรียนสอนทำอาหารเลอโนท แต่คุณพอลล์ ก็ยืนยันว่าอันที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นอะไรที่อยู่ในใจมานาน เพราะว่าเราเองก็ทำร้านอาหาร เรามีธุรกิจ Catering ด้วย รวมไปถึงสถานที่เองเราก็มี ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องไม่ได้ตั้งใจ 100% ขนาดนั้น แต่เป็นสิ่งที่ประจวบเหมาะกับความตั้งใจดั้งเดิมที่มีอยู่แล้ว ที่สำคัญยังมีวิชั่นไปไกลถึงว่า การที่มีโรงเรียนสอนทำอาหารจะมาช่วยเสริมธุรกิจ Catering ของตัวเองได้ด้วย โดยสามารถนำมายกระดับพัฒนาสกิลของเชฟที่เรามีอยู่ในมือได้เช่นกัน
ส่วนในด้านโอกาสทางธุรกิจ คุณพอลล์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยเราอาจจะคุ้นเคยกับชื่อของดุสิตธานี หรือเลอ กอร์ดอง เบลอ เราก็แอบคิดว่า เอ๋ถ้าแค่นี้สำหรับประเทศไทยอาจจะเหงาไปไหม (หัวเราะ) อยากได้เพื่อนร่วมธุรกิจเพิ่มขึ้นหรือเปล่านะ ซึ่งเราก็เห็นว่าอุตสาหกรรมนี้สถาบันในระดับนานาชาติยังมีไม่มาก แต่ไทยเรามีศักยภาพที่ดีเป็นที่สนใจของสถาบันสอนทำอาหารระดับโลกมากมายก็ไม่ควรที่จะพลาดโอกาสไป
“ผมเลยมองว่ามันก็ล้ายกับการที่เราไปทานอาหารตามร้านต่างๆ วันนี้เรากินมื้อนี้ที่ร้านนี้ วันต่อไปเราก็เปลี่ยนไปทานร้านอื่นบ้าง การเรียนทำอาหารก็เหมือนกัน วันนี้เราอาจจะมาเรียนที่นี่ได้ความรู้เรื่องนี้จากที่นี่ไป ครั้งหน้าเราก็ลงเรียนที่อื่นบ้างเพื่อให้ได้ความรู้จากอีกที่หนึ่งก็สามารถทำได้เช่นกัน คือไม่จำเป็นต้องหยุดแค่นี้ เราก็มีนักเรียนจากเลอ กอร์ดอง เบลอ มาเรียนที่นี่ แล้วก็มีนักเรียนของเราไปเรียนที่เลอ กอร์ดอง เบลอ เช่นกัน การเรียนทำอาหารไม่ได้ฟิตซ์เหมือนเรียนหนังสือ มันต้องอัปเดทความรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะมีเทคโนโลยีหรือเทคนิคใหม่ๆ ให้ได้เรียนอยู่เรื่อยๆ ดังนั้น การเรียนทำอาหารไม่ควรจำกัดอยู่แค่ที่ใดที่หนึ่ง”
สำหรับจุดแข็งของน้องใหม่อย่าง เลอโนทฯ คุณพอลล์ กล่าวว่า แม้จะเป็นน้องใหม่ที่ประเทศไทย แต่ต้องบอกว่า เลอโนทฯ เป็นโรงเรียนสอนทำอาหารที่เก่าแก่ เปิดมานานตั้งแต่ปี 1973 และเป็นที่โด่งดังมีชื่อเสียงในระดับโลก โดยที่หาเรียนจบจากที่นี่ (ไทย) จะทำให้สามารถไปเรียนต่อที่ฝรังเศสได้ด้วย ซึ่งปกติจะทำไม่ได้ ที่สำคัญปกติแล้วการจะเรียนที่ฝรั่งเศสจะต้องเข้าไปอยู่ในลิสต์รายชื่อที่จะมีสิทธิ์เรียน และรอกันเป็นปีๆ เลย ที่สำคัญยังเป็นแหล่งรวมอาจารย์ระดับ “มอฟ” (MOF – Meilleur Ouvrier de France) เอาไว้มากที่สุดในโลกแล้ว เชฟของเราส่งตรงมาจากฝรั่งเศสมาถ่ายทอดความรู้ให้ หลักคือก็ถือเป็นจุดแข็งและจุดแตกต่างสำคัญที่เรามีมากแต่ะเรามั่นใจว่าเราสตรองกว่าคู่แข่งอื่นๆ
สำหรับการลงทุนให้กับ เลอโนทฯ คุณพอลล์ ระบุว่า ได้ทุ่มงบประมาณในการสร้างสูงถึง 700 ล้านบาทเลยทีเดียว เฉพาะในส่วนของอาคาร เราลงทุนไปถึง 400 ล้านบาท รวมถึงอุปกรณ์ทันสมัยเพื่อใช้ในการเรียนการสอนทั้งหมดด้วย ซึ่งราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก แม้แต่เชฟที่มาสอนเองก็ยังทึ่งในอุปกรณ์ครัวของเรา ซึ่งเขาบอกว่าแม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือแบบนี้เลย ที่เรากล้าลงทุนอย่างนี้ได้เพราะเรามีความตั้งใจที่จะทำให้เป็นระดับเวิล์ลคลาส แม้แต่ล่ามแปลภาษา ซึ่งมีเชฟบางท่านที่ภาษาอังกฤษยังอยู่ในระดับการสื่อสารทั่วไปแต่อาจจะไม่ถนัดที่จะนำมาใช้สอนได้ เราก็ตัดสินใจที่จะจ้างล่าม ที่สามารถแปลจากฝรั่งเศสเป็นไทยได้เลยมาช่วยในการเรียน ซึ่งเรียนตามตรงว่าค่าตัวค่อนข้างแพงทีเดียว ดังนั้น แม้แต่เรื่องแบบนี้เราก็กล้าที่จะลงทุนให้กับโรงเรียนของเรา
เมื่อถามว่า วางแผนในอนาคตให้กับเลอโนทไว้อย่างไรบ้าง คุณพอลล์ เผยว่า สิ่งที่ได้คุยกับ CEO ของเลอโนท คือเราจะไม่อยากให้จบแค่การที่เราเป็นแฟรนไชส์อย่างเดียว แต่อยากให้เราเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคเซาท์อีสต์เอเชีย เราขอวางตัวเป็นฮับให้กับเขา และไม่เฉพาะแค่ธุรกิจโรงเรียน แต่รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ด้วย ทั้ง Catering หรือแม้แต่คาเฟ่เองก็ตาม หรือถ้าเกิดว่าเขาอยากจะไปบุกตลาดที่จีนเราก็พร้อมจะไปลุยให้เพราะเรามีความพร้อมมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าถาม ณ วันนี้ เราขอผลักดันโรงเรียนที่นี่ให้ดีที่สุดก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจร่วมกันให้เกิดขึ้นว่าเราจะก้าวไปเป็นพาร์ทเนอร์กันต่อได้จริงๆ
“แม้ว่าเลอโนท ของเราจะเป็นช่วงเริ่มทดลอง อาจจะอยู่ในช่วงลองผิดลองถูกในด้านการทำงานอยู่ แต่สิ่งที่เราบอกว่าเราลองผิดไม่ได้เลยคือ การที่เราให้คำมั่นสัญญากับนักเรียน หรือก็คือลูกค้าของเรา เพราะเราเติบโตมาจากอุตสาหกรรมด้านการบริการเป็นหลัก ดังนั้น สิ่งที่เราทำ เราก็อยากให้นักเรียนได้รับในสิ่งที่มากกว่าที่เราให้คำสัญญาไป ให้ได้รับในสิ่งที่เกินความคาดหวังไปนั่นเอง”
สำหรับหลักสูตรของโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอโนท ประเทศไทย แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่
1.ระดับหลักสูตรประกาศนียบัตร ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกฝนหรือต้องการเปลี่ยนสายอาชีพที่ครอบคลุมถึง กลุ่มนักเรียนที่เรียนจบแล้วอยากทำเป็นงานอดิเรก หรืออยากเปลี่ยนสายอาชีพ กลุ่มเชฟรุ่นใหม่ และกลุ่มผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารมาก่อน โดยหลักสูตรดังกล่าวได้เปิดรับสมัครรุ่นที่ 2 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา
2.ระดับหลักสูตรระยะสั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานในด้านการประกอบอาหารหรือขนมมาก่อน ไปจนถึงผู้เรียนระดับมืออาชีพที่ต้องการเสริมทักษะเพื่อนำไปใช้ต่อยอดธุรกิจ ทั้งยังมีการฝึกอบรมในหัวข้อพิเศษตามฤดูกาลและเทศกาลต่างๆ ที่ใช้ระยะเวลาในการเรียนจำนวน 4 ชั่วโมงขึ้นไป เช่น การทำเมนูพาสต้า Multicolor Tagliatelle Fresh Pasta ,Langoustine Ravioli with Bisque เมนูจากเนื้อสัตว์และสัตว์ปีก(On the ground) เมนูจากเนื้อปลา หอย กุ้งและปู (Under the sea) เมนูตับห่าน (Foie gras) เค้กขอนไม้สำหรับวันคริสมาสต์ (Bûche de Noël) การทำมาการอง ศิลปะการทำช็อกโกแลตและขนมเค้ก เค้กและเค้กเนื้อนิ่ม (Soft Cake and Moelleux) การทำทาร์ตช็อกโกแลตและทาร์ตเลมอน ศิลปะการทำอ็องเทรอแม(Entremet) เป็นต้น
หลักสูตรต่างๆ จะได้รับเกียรติจากเชฟชื่อดังและเหล่าเซเลบริตี้เชฟ หมุนเวียนมาเปิดห้องเรียนถ่ายทอดเทคนิคขั้นสูงแก่ผู้สนใจให้ได้รับความรู้อัดแน่นกลับไปอย่างแน่นอน สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะสมัครเรียนกับ เลอโนท สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02 853 9595 หรือติดตามข่าวสารได้ทาง https://www.facebook.com/LenotreThailand และลงทะเบียนได้ที่ https://lenotre.co.th/th หรือ LINE: @lenotrethailand