ปัจจุบัน ชีวิตคนวัยทำงานยุคใหม่ที่อยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ความรับผิดชอบมากมาย และแรงกดดันมากมายที่ถูกถาโถมเข้ามา
ทั้งนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นผ่านโพลของ LINE TODAY ในหัวข้อ “คนวัยเดอะแบก วัยที่ต้องแบกรับภาระรอบตัว คุณกำลังกังวลและแบกอะไรเอาไว้หนักที่สุด?” พบว่า อันดับ 1 – 30.17% แบกการเป็นเสาหลักของบ้านที่ต้องดูแลครอบครัว, อันดับ 2 – 21.23% แบกความกลัวที่ใช้ชีวิตได้ไม่เต็มที่แถมเงินไม่พอ และ อันดับ 3- 15.64% แบกภาระหนี้สินอันหนักอึ้ง (อ่านบทความเพิ่มเติม) และข้อมูลนี้ยังสัมพันธ์กับ The American Institute of Stress ในปี 2565 ที่เปิดเผยว่าเป็น 76% ของกลุ่มคนวัยทำงานออกมายอมรับว่าความเครียดจากการทำงานส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว
จากสภาวะดังกล่าว ส่งผลต่อสภาพจิตใจของคนวัยทำงาน ให้มองหาสิ่งที่เข้ามาช่วยเยียวยาจิตใจ โดยหนึ่งในแฮชแท็ชในสื่อสังคมโซเชียลฯ ที่เห็นได้บ่อยๆเกี่ยวกับการดูแลใจคือ เ#ยำจะเยียวยาทุกสิ่ง สอดคล้องกับบทความจาก OOCA (ที่ปรึกษาสุขภาพจิตออนไลน์) หัวข้อ “การให้อาหารทางใจ : ผลกระทบของโภชนาการต่อสุขภาพจิต” ซึ่งระบุว่าการรับประทานอาหารดีๆ จะช่วยเยียวยาสภาพจิตใจที่บอบช้ำได้ (อ่านบทความเพิ่มเติม)
จากข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้เกิดเป็น Consumer Insight ที่น่าสนใจของผู้บริโภคในปัจจุบัน ว่าการรับประทานอาหารสามารถบำบัดและเยียวยาความรู้สึกได้จริง โดยเฉพาะรสชาติแซ่บ ของอาหารประเภท “ยำ” ที่มีทั้งความสดชื่นของมะนาวและพริก ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีสดชื่นขึ้น ผ่อนคลายจากความเครียดที่รุมเร้าได้ และจาก Consumer Insight ดังกล่าวนี้เอง เป็นที่มาที่ “แม่บุญล้ำ” นำมาพัฒนาเป็นโปรดักส์ใหม่ “น้ำยำปลาร้า แม่บุญล้ำ” ที่ต้องการช่วยเยียวยาใจของคนวัยทำงานปัจจุบัน ให้ได้รับความสุขจากการทานอาหารประเภทยำที่อร่อยล้ำ รสชาติแซ่บคัก ซึ่งเป็นพื้นฐานความตั้งใจจากแบรนด์แม่บุญล้ำ
นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการฟังเสียงผู้บริโภคแล้ว การเปิดตัวของของ “น้ำยำปลาร้า แม่บุญล้ำ” ก็น่าสนใจไม่แพ้กันเนื่องจากตลาดน้ำยำเต็มไปด้วยการแข่งขัน ดังนั้น สิ่งที่แม่บุญล้ำทำเลือกใช้ Endorser Marketing ผ่าน Celebrity chef ชื่อดัง “เชฟเป่าเป้” ที่มาช่วยในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ จากการใช้ “น้ำยำปลาร้า แม่บุญล้ำ”
มากไปกว่านี้ เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่ตึงเครียดจากวิถีชีวิตที่รุมเร้า ทางแบรนด์ก็นำเอาอีกกลยุทธ์มาใช้ได้แก่ Music Marketing เพื่อสร้างการรับรู้ให้จดจำง่ายฮิตติดหู ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ทำให้ผู้คนรับรู้ได้ว่า ไม่ว่าอารมณ์ไหน “น้ำยำปลาร้า แม่บุญล้ำ” ก็ช่วยเยียวยาได้ พร้อมกับที่จะกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องปรุงที่จะมีติดครัวคู่คนไทย เช่นเดียวกับ“น้ำปลาร้าต้มสุก แม่บุญล้ำ” เช่นกัน
น้ำยำปลาร้า แม่บุญล้ำ” เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดจาก Consumer Insight จนประสบความสำเร็จ และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค พร้อมกับการวางแผนการตลาดที่ตอบเทรนด์ยุคใหม่ได้อย่างดี จนนับได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีความครีเอทีฟ ทันสมัย สร้างความแตกต่างฉีกไปจากการทำการตลาดในกลุ่มธุรกิจเดียวกันได้อย่างน่าสนใจเรียกได้ว่า “แม่บุญล้ำ” ขยับตัวแต่ละครั้งทำตลาดเครื่องปรุงต้องเหลียวมองทุกทีเลย และเชื่อว่าแคมเปญต่อๆ ไปก็คงมีโปรเจ็คต์ใหม่ๆ ออกมาให้เราได้ฮือฮากันอีกแน่นอน รอติดตามเลยค่ะ.