ในช่วงกลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค แนะนำบริการใหม่ ‘ดีแทค ดีชัวรันส์’ (dtac dSurance) ศูนย์รวมประกันภัยออนไลน์ บนดีแทคแอป เพื่อตอกย้ำกลยุทธ์ Fast Forward Digital ที่มุ่งสู่บริการที่เป็น “มากกว่า”โทรคมนาคม
ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนไทยเพราะบริการ ดีแทค ดีชัวรันส์ จะเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้ ทั้งความง่าย ความสะดวก ขณะเดียวกันก็น่าจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่ยังรู้สึกลังเลเกี่ยวกับการซื้อประกันออนไลน์
ทั้งนี้ มีข้อมูลการวิจัยทางการตลาดของดีแทคถึงเหตุผลการเข้าถึงประกันได้น้อยของคนไทย และส่วนหนึ่งยังไม่คิดที่จะทำประกันภัยโดยเฉพาะในต่างจังหวัด อย่างเช่น มีตัวเลือกมากเกินไป เข้าใจยาก ไม่มีความรู้เกี่ยวกับประกันภัย หรือยังมีภาพจำแบบเดิมๆ ว่าประกันภัยมีราคาแพง นอกจากนี้คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีบัตรเครดิต ดังนั้นจึงขาดการเข้าถึงตัวเลือกการชำระเงินที่สะดวกสบาย
ที่จริงก็คล้ายกับข้อมูลอินไซต์ที่คุณ บ๊อบ เวาเทอร์ส ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศ ,โบลท์เทค ประเทศไทยที่แชร์กับเราในฐานะที่ ‘โบลท์เทค’ (bolttech) หนึ่งในบริษัท Insurtech ซึ่งได้รับสถานะยูนิคอร์นเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และให้บริการใน 26 ประเทศทั่วโลก และการร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้รับโอกาสเป็นพันธมิตรกับดีแทค บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ที่ร่วมกันพัฒนาแพลตฟอร์ม รวบรวมผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เข้าใจง่าย เข้าถึงได้สะดวกบนดีแทคแอปด้วย
“การเข้าถึงประกันสำหรับคนไทยในช่วงที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย อย่างฮ่องกง, ญี่ปุ่น, สิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่โดดเด่นในเรื่องนี้ (การเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยของไทยมีเพียง 5% ของอัตราส่วนเบี้ยประกันภัยต่อ GDP เทียบกับฮ่องกงที่ 20%) แต่ช่วงการแพร่ระบาด COVID-19 มองว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของคนไทย ทั้งในแง่การซื้อประกันและการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ ประกันภัยกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่แค่การซื้อประกันเท่าที่จำเป็นเหมือนเมื่อก่อน”
มุมมองจากโบลท์เทค ‘ดีแทค ดีชัวรันส์’ แก้ pain point ลูกค้าได้อย่างไร
เราได้มีโอกาสพูดคุยเพิ่มเติมกับคุณอชิรญา ภวะคงบุญ หัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท โบลท์เทค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ (ประเทศไทย) เกี่ยวกับ pain point ของคนไทยกับเทรนด์ดิจิทัลว่า “จริงๆ แล้วคนไทยเพิ่งเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นบนออนไลน์ได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น การหาผู้ให้บริการประกันออนไลน์ที่น่าเชื่อถือจะค่อนข้างยาก และยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังกลัวการซื้อประกันออนไลน์ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าจะได้กรมธรรม์จริงหรือไม่ รวมไปถึงบริการหลังการขาย เช่น การเคลมประกันที่ดูเป็นเรื่องวุ่นวายเข้าใจยาก”
“ขั้นตอนการจ่ายเงินก็เป็นอีกหนึ่ง pain point ของคนไทยเพราะส่วนใหญ่จะเลือกจ่ายเป็นเงินสดกับตัวแทนประกัน เพราะยังไม่มีบัตรเครดิต ดังนั้นช่องทางการจ่ายเงินจึงเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ผ่านมา ทำให้การทำประกันออนไลน์ในไทยยังน้อยกว่า 1%”
อย่างไรก็ตาม คุณอชิรญา ได้แชร์ว่าอัตราการเติบโตของการทำประกันออนไลน์ในไทยเติบโตต่อเนื่องเกือบ 100% ดังนั้นความร่วมมือระหว่างดีแทคกับโบลท์เทค ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการประกันออนไลน์เลยก็ว่าได้ โดยสิ่งที่ผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็นลูกค้าดีแทคหรือกลุ่มลูกค้าใหม่ก็ตาม จะได้ประโยชน์และประสบการณ์ใหม่ที่เหมือนกัน โดยคุณอชิรญาได้สรุปถึงจุดเด่นของบริการดีแทค ดีชัวรันส์ไว้ว่า
- คนไทยจะสามารถเข้าถึงประกันได้ง่ายขึ้น และสามารถเปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทชั้นนำได้อย่างง่ายดาย
- คนไทยสามารถซื้อประกันออนไลน์ผ่านแบรนด์ดีแทคที่น่าเชื่อถือ
- มีความสะดวกสบายในการชำระเงิน
- การทำประกันออนไลน์จะกลายเป็นเรื่องง่าย ทำได้เอง เพราะรวบรวมประกันที่น่าสนใจและดีสำหรับลูกค้าเอาไว้ให้แล้ว
นอกจากนี้ คุณอชิรญา ได้เล่าเกี่ยวกับส่วนต่างๆ ที่ได้ทำงานกับดีแทคซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็ง และน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ ‘ดีแทค ดีชัวรันส์’ outstanding ออกมาจากคู่แข่งในตลาด เช่น
- การเลือกซื้อประกันออนไลน์อย่างสบายใจ – ด้วยความที่ดีแทคขึ้นชื่อในด้านการให้บริการลูกค้า และประสบการณ์ใช้งาน ดังนั้นการทำงานร่วมกันจะช่วยให้ลูกค้าของดีแทคมีตัวเลือกมากขึ้น เลือกซื้อบริษัทประกันที่เชื่อถือได้ ซึ่งโบลท์เทคเองก็มีระบบด้านความปลอดภัย และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ที่น่าเชื่อถือในระดับ world-class
- ดีแทคเป็นจุดให้บริการครบจบในที่เดียว ให้ลูกค้า – ทั้งการซื้อประกัน, , บริการหลังการขาย หรือเบอร์ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมของประกันก็จะได้รับการดูแลโดยฝ่ายบริการลูกค้าดีแทคทั้งหมด
- ดีแทค ดีชัวรันส์ รายแรกในไทยที่ชำระค่าประกันผ่านระบบ billing – พูดง่ายๆ ก็คือ ลูกค้าที่ซื้อประกันผ่านดีแทคแอปสามารถเลือกชำระเงินค่าเบี้ยประกันรวมกับใบเรียกเก็บเงินกับโอเปอเรเตอร์ได้เลย
ทั้งนี้ในมุมของโบลท์เทค ยังมองว่า ดีแทคถือว่าเป็นม้ามืดในเวลานี้ หลังจากที่กระโดดเข้ามาเล่นในตลาดประกันภัยออนไลน์ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตคนไทยน่าจะเข้าถึงการคุ้มครองทั้งชีวิตและทรัพย์สินในด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมมากขึ้น
เข้าใจโมเดล ‘ดีแทค ดีชัวรันส์’ กับรูปแบบการทำงาน Super-agile
สิ่งหนึ่งที่ดีแทคย้ำมาตลอดก็คือ การพัฒนาประสบการณ์ลูกค้าให้ดีขึ้น ซึ่งการบริการ ดีแทค ดีชัวรันส์ คือโมเดลล่าสุดที่น่าสนใจมากจากดีแทค โดยคุณฮาว ริเร็น รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มการตลาด ดีแทค ได้พูดว่า “กลยุทธ์ Fast Forward Digital ออกแบบมาเพื่อคนไทยให้ได้ใช้ชีวิตที่ใช่ในแบบที่ชอบ ซึ่งการทำงานแบบ Super-agile ในมุมมองของดีแทคก็คือ การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ทั้งข้อเสนอที่ดีที่สุด และความน่าเชื่อถือ พร้อมกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดจากดีแทค”
ความน่าสนใจของดีแทค ดีชัวรันส์ นอกจากความสะดวกและเข้าถึงง่ายอย่างที่เล่าไปแล้วข้างต้น ดีแทคและโบลท์เทคได้ทำงานร่วมกันดีไซน์การใช้งานแพลตฟอร์มที่ง่ายมากขึ้น ที่สำคัญราคาต้องไม่แพง โดยลูกค้าสามารถชำระค่าเบี้ยประกันรวมในบิลค่าใช้บริการมือถือ หรือจะผ่อนชำระรายเดือนเริ่มต้นที่ 31 บาทเท่านั้น ซึ่งตัว โฆษณาดีแทค ดีชัวรันส์ สามารถอธิบายความง่ายได้ทั้งหมดเกี่ยวกับบริการนี้
ทั้งนี้ บนดีแทคแอป ลูกค้าจะสามารถเปรียบเทียบรายละเอียดและราคาของประกันภัยที่สนใจได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ซึ่งดีแทค ดีชัวรันส์ ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์บริษัทประกันชั้นนำของไทยและต่างประเทศกว่า 11 ราย ได้แก่ กรุงเทพประกันภัย, แอกซ่าประกันภัย, ทิพยประกันภัย, เอฟดับบลิวดีประกันภัย,ไทยศรีประกันภัย, ธนชาตประกันภัย, ทูนประกันภัย, เอ็มเอสไอจี ประกันภัย ผ่านพันธมิตรโบรคเกอร์ประกันภัยชั้นนำ เช่น โบลท์เทค อินชัวรันส์ โบรคเกอร์, ซันเดย์ อินส์, ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรคเกอร์
คุณฮาว ริเร็น พูดเสริมด้วยว่า “ดีแทค ดีชัวรันส์ ถือว่าเป็น Cross Industry Collaboration ระหว่างอุตสาหกรรมประกันภัยและโทรคมนาคม โดยเราต้องการลดอุปสรรคให้กับคนไทย และต้องการให้สามารถเข้าถึงบริการประกันภัยที่เข้าใจง่าย คุ้มค่า ในราคาที่เข้าถึงได้ และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นการนำจุดแข็งของดีแทคและพาร์ทเนอร์ มาสร้างจุดเปลี่ยนให้กับลูกค้าได้ใช้ชีวิตในแบบที่ใช่ในแบบที่ชอบ ไม่ใช่แค่ตัวพวกเขาเองแต่รวมไปถึงคนที่รักด้วย”
โดยสรุปง่ายๆ เกี่ยวกับบริการดีแทค ดีชัวรันส์ ที่เรามองว่าเหมาะกับคนในยุคนี้มากที่สุดและอยากบอกต่อ เพราะนอกจากจะหลากหลายประเภทมีตั้งแต่ ประกัน COVID-19, ประกันรถยนต์, ประกันมอเตอร์ไซค์, ประกันสุขภาพ, ประกันอุบัติเหตุ, ประกันการเดินทาง, ประกันโรคร้ายแรง, ประกันสัตว์เลี้ยง ไปจนถึง พ.ร.บ. รถยนต์ และรถมอเตอร์ไซค์ด้วย ปัจจัยอื่นที่ง่ายสำหรับลูกค้าคนไทย อย่างเช่น
- ลูกค้าจะไม่สับสนอีกต่อไปว่าประกันภัยบริษัทไหนดีและน่าเชื่อถือได้
- ราคาค่าเบี้ยประกันยืดหยุ่นสูง ลูกค้าสามารถเลือกแผนตามที่ชอบได้สบายๆ
- ไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเปรียบเทียบเพราะสามารถเช็คได้เองที่เว็บไซต์, ดีแทคแอป, dtac call center
- ลูกค้าสามารถซื้อประกันภัยออนไลน์ได้เอง ไม่ต้องพึ่งตัวช่วย
- ใช้เวลาเพียง 3 นาทีสำหรับ e-Policy หลังจากที่ลูกค้ากรอกข้อมูลเสร็จสิ้น พร้อมกรมธรรม์คุ้มครองทันที
โดยลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าเข้าทางดีแทคแอป หรือผ่านหน้าเว็บไซต์ https://dsurance.dtac.co.th และสามารถติดต่อไปที่ dtac call center 1678 ได้เหมือนกัน
หากดูจากความพร้อมและการตั้งรับหลายๆ อย่างของดีแทคในตลาดการแข่งขัน ถือว่าดีแทคเล่นเกมได้น่าสนใจ อย่างที่คุณฮาว ริเร็น ได้พูดว่า “ดีแทคจะมีความคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลง เติบโต และก้าวสู่เป้าหมายของผู้ใช้บริการดิจิทัลแอคทีฟ 10 ล้านรายต่อเดือน และลูกค้าดิจิทัลรายใหม่เพิ่มขึ้น 5 เท่าในปี 2566” อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นส่งท้ายปี เช่น ส่วนลดพิเศษ 15%เพียงแค่ใส่โค้ด “dsurance” ภายในวันที่ 31 ธ.ค.นี้เท่านั้น
จากที่เห็นมุมมองจากทั้งดีแทค และโบลท์เทคมองว่าเป้าหมายการสร้างให้ลูกค้าแอคทีฟใช้บริการดิจิทัล ของดีแทคที่ 10 ล้านคนต่อเดือน มีโอกาสสูงมากเพราะบริการที่เข้าใจลูกค้าคนไทย จากความมุ่งมั่นพัฒนาบริการดิจิทัล ที่เพิ่มคุณค่า ตอบสนองความต้องการลูกค้าในช่วงเวลาที่ใช่ในแบบที่ต้องการ จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้