การ Collaboration ของแบรนด์ ไม่ใช่เรื่องใหม่แล้วสำหรับยุคนี้ หัวใจสำคัญของการจับมือร่วมกันต่างหากที่สำคัญกว่า มิใช่การจับมือเพื่อประโยชน์ทางการตลาด แต่หากการจับมือที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนได้คือ ต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าหรือผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์ เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมได้อย่างแท้จริง นั่นจึงจะทำให้เกิดความ Win-Win ทั้งสองฝ่ายและมากไปกว่านั้นคือยังสามารถช่วยยกระดับ Ecosystem ในอุตสาหกรรมนั้นให้พัฒนาขึ้นได้อีกด้วย
ล่าสุด กับการ Collaboration ที่เรียกว่าช่วยพัฒนา Ecosystem ในอุตสาหกรรม และทำให้วงการก่อสร้างไทยต้องจับตามอง นั่นก็คือ การจับมือระหว่าง 24 FIX และ จระเข้ สองผู้นำในวงการก่อสร้าง ที่วันนี้ลุกขึ้นมานำเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสนองความต้องการผู้บริโภค ทำให้สิ่งที่เคยอยู่แต่ในจินตนาการความคิดของการสร้างบ้านในฝันให้กลายเป็นจริงได้ เป็นการผสานความร่วมมือบนแนวความคิดที่ว่า “ช่างถูกงาน วัสดุถูกใจ” ความร่วมมือในครั้งนี้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างไร และทำให้วงการก่อสร้างแข็งแกร่งขึ้นได้มากแค่ไหน วันนี้ MarketingOops! ได้รับโอกาสพูดคุยถึงเบื้องลึกเบื้องหลังการในการทำงานครั้งนี้จากผู้บริหารทั้งสองท่าน ได้แก่ คุณคณิศร มีพงษ์ CEO & Co founder จาก 24 FIX และ คุณนรวีร์ เศรษฐิน Marketing and Corporate Communication Director จาก จระเข้ เราลองมาฟังแนวคิดของทั้งสองท่านกัน
24 FIX บริการช่างแบบ end to end Service Platform

คุณคณิศร แนะนำให้เราได้รู้จักกับ 24 FIX ว่าคือบริษัทที่ให้บริการซ่อมแซมแบบครบวงจร โดยให้บริการในรูปแบบ End to end Service Platform การดูแลตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กที่มีความซับซ้อนน้อยจนถึงงานขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนมาก โดยให้บริการประมาณ 14 งานซ่อมหลัก และอีก 1,000 งานซ่อมย่อย การทำงานของ 24 FIX เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาช่างที่ผู้บริโภคเคยพบ เช่น หาช่างยาก ช่างทิ้งงาน ซ่อมไม่จบ งบบานปลาย หรือแม้กระทั่งช่างเบิกเงินแล้วหนี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเปลี่ยนแนวคิดใหม่และแก้ทุกปัญหาให้กับลูกค้า โดย 24 FIX เราจะจัดหาช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาให้กับลูกค้า ที่สำคัญคือ ช่างของ 24 FIX ได้รับอบรมมาตรฐานจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ ของเมืองไทยมาทำให้ทีมงานช่างมีคุณภาพในการบริการมากขึ้น รวมไปถึงการช่วยให้ช่างทุกคนเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้นเพื่อทำให้การงานมีประสิทธิภาพ
“วันนี้ 24 FIX จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว และตัวผมเองก็อยู่ในวงการก่อสร้างมาเกือบ 8 ปี ผมมองเห็นปัญหาต่าง ๆ ในเรื่องการซ่อมแซมเยอะแยะมากมาย ทำให้เราเข้าใจดีว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร”
“จระเข้” กับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล

ด้าน คุณนรวีร์ เล่าถึงบริษัท จระเข้ ว่า เป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างของคนไทยที่ก่อตั้งมากว่า 30 ปี โดยมี Motto ที่สำคัญได้แก่ “Innovation for Your Family’s Happiness” หรือ “สร้างสรรค์ความสุข เพื่อคุณและทุกคนในครอบครัว” ผลิตภัณฑ์ของจระเข้ แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เน้นการบุกเบิกและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ให้กับสินค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มกาวซีเมนต์และกาวยาแนว จนสร้างมาตรฐานใหม่ให้ตลาดและสร้างยอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง และสามารถจำหน่ายสินค้าจระเข้ผ่านเครือข่ายร้านค้าวัสดุก่อสร้างกว่า 4,000 แห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศได้
สำหรับมาตรฐานสินค้าของ จระเข้ เราเริ่มต้นจากมาตรฐาน ANSI ของสหรัฐฯ ในช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งบริษัท แต่เมื่อเราได้มีการขยายพอร์ตสินค้าออกไปมากขึ้น หลัง ๆ เราก็เริ่มมีมาตรฐานจากหลายภูมิภาคเข้ามาเสริมด้วย ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีน นอกจากนี้ เมื่อเทรนด์รักษ์โลกมากขึ้นเรื่องของ Sustainability ก็มาแรง จระเข้ ก็นำสินค้าไปเซอร์ติฟายด์กับมาตรฐาน LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินอาคารเขียว แล้วยังเป็นฐานที่นำไปสร้างมาตราฐานที่ชื่อWELL อีกด้วย โดยให้ความสำคัญการสร้างที่อยู่อาศัยที่ประหยัดพลังงานและทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น มีอากาศที่ดีในตึก เป็นต้น ซึ่งเรื่องแบบนี้จะทำให้ที่อยู่อาศัยนำมาซึ่งความสุข
ที่สำคัญ จระเข้ ยังมีผลิตภัณฑ์ซ่อมและสร้างที่จำเป็นต้องใช้ แยกตามพื้นที่ใช้สอยของบ้านเพื่อปกป้องบ้านแสนรักของคุณทั้งหลังให้อยู่แล้วสุขกาย สบายใจ ปลอดภัย และไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ปกป้องดูแลตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา หรือที่เรียกว่า “ใช้จระเข้ร่วมกันปกป้องทั้งบ้าน” ได้แก่ 1.ร่วมกันปกป้องฐานรากและโครงสร้าง 2.ร่วมกันปกป้องพื้น 3.ร่วมกันปกป้องผนัง 4.ร่วมกันปกป้องสีจระเข้ 5.ร่วมกันปกป้องดาดฟ้าหลังคา 6.ร่วมกันปกป้องกระเบื้อง 7.ร่วมกันปกป้องประตูและหน้าต่าง และ 8.ร่วมกันปกป้องสระว่ายน้ำ
ความท้าทายที่ต้องการยกระดับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง
คุณคณิศร กล่าวถึงการยกระดับ Ecosystem ในอุตสาหกรรมก่อสร้างว่า Ecosystem ของอุตสาหกรรมก่อสร้างจะมีอยู่ 3 มุมหลัก ๆ ด้วยกัน หนึ่งคือ “ลูกค้า” สองคือ “ช่าง” หรือ Fixer และสามคือ “ร้านวัสดุก่อสร้าง” หรือ Vender โดยที่ 24 FIX มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับให้ Ecosystem มีมาตรฐานที่สูงขึ้น โดยพยายามที่จะตอบโจทย์ความต้องการให้ได้กับทุกฝ่าย เช่น เมื่อลูกค้ามีความต้องการที่หลากหลาย เราก็สามารถที่จะ Customized งานให้ได้ตรงตามความต้องการ หรือหากช่างต้องการพัฒนาฝีมือสกิลในการทำงานหรือเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีและการใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ทันสมัยเราก็พร้อมที่จะสนับสนุน รวมไปถึงหางานที่ดีขึ้นมากกว่าในอดีตให้ได้ด้วย สุดท้ายกลุ่ม ร้านวัสดุก่อสร้าง เราก็ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับร้านต่าง ๆ กว่า 500 แห่งทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละร้านก็มีเสน่ห์ของตัวเอง รองรับทุกการทำงานช่างและความต้องการของลูกค้าได้เลย
“แต่วันนี้เมื่อความต้องการของลูกค้าหลากหลายขึ้นกว่าในอดีต มันทำให้เราต้องมีพาร์ทเนอร์ที่มาตรฐานยิ่งกว่านี้อีก เราต้องหาเพิ่มขึ้น เฟ้นหาให้ดีเลยว่าใครคือคนนั้นที่จะช่วยเรายกระดับมาตรฐาน และตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความต้องการมาก ๆ ด้วย นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าจะมาช่วยยกระดับ Ecosystem ของอุตสาหกรรมนี้ให้มีมาตรฐานที่ดีกว่าเดิม”
24 FIX x จระเข้ การจับมือเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้า
ความต้องการในการยกระดับอุตสาหกรรมก่อสร้างให้ตอบโจทย์กับทุกฝ่าย จึงเป็นที่มาของการที่ 24 FIX จับมือกับ จระเข้ เกิดเป็นการ Collaboration ครั้งสำคัญ คุณคณิศร กล่าวถึงเบื้องหลังการร่วมมือเป็นพาร์ทเนอร์ในครั้งนี้ว่า จริง ๆ ต้องบอกว่า 24 FIX และ จระเข้ เราเคยร่วมงานกันมาหลายรอบแล้ว แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ อย่างที่เคยเรียนไปแล้วว่า 24 FIX กำลังเฟ้นหาพาร์ทเนอร์ที่ได้มาตรฐานและที่ได้รับการยอมรับด้วย เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญวันนี้เราเลยจับมือกับ จระเข้ เพื่อพัฒนาเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทเราและบริษัทจระเข้
“24 FIX เรามีความเชี่ยวชาญในเรื่องของช่างในการให้บริการการซ่อมแซมอยู่แล้ว วันนี้เราได้พาร์ทเนอร์ดีอย่าง จระเข้ ที่มาจับมือร่วมกัน ผมว่าตรงนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่เราจะเอาวัสดุคุณภาพกับช่างคุณภาพมาจับมือกัน เพื่อ Deliver Experience ให้กับลูกค้าได้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างมาตรฐานร่วมกัน มาตรฐานที่ดี กับมาตรฐานที่ดีมารวมกัน เป็นมาตรฐานที่ดีกว่า นี่คือสิ่งหนึ่งที่เราทำให้ความแข็งแกร่งของธุรกิจ แล้วก็ Ecosystem ของกันและกัน เติบโตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น”
“ช่างถูกงาน วัสดุถูกใจ” คอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ทั้งระบบ
กล่าวถึงตรงนี้ คุณนรวีร์ เสริมว่า ความร่วมมือกับ 24 FIX เกิดจาก Pain Point ที่พบบ่อย ๆ ของลูกค้าทางจระเข้เอง ที่เจ้าของบ้านมักมีปัญหาเรื่องการซ่อมบ้าน “ช่างถูกงาน วัสดุถูกใจ” คือการเอาวัสดุคุณภาพ กับช่างคุณภาพมาจับมือกันในที่เดียวเเละสามารถDeliver คุณภาพเเละประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า ด้วยไอเดียนี้นอกจากจะมีประโยชน์ต่อลูกค้าเรื่องความสะดวกสบายเเล้ว ยังสามารถช่วยเหลือช่างให้เข้าถึงลูกค้าเเละเทคโนโลยีได้มากขึ้นอีกด้วย
Room ID แคมเปญจากจินตนาการสู่ความจริง พร้อม 3 โซลูชั่นตอบโจทย์เพื่อลูกค้า
นอกจากความร่วมมือในการตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างครบวงจรแล้ว 24 FIX และ จระเข้ ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี Real-time Rendering คุณคณิศร อธิบายตรงนี้ว่า มันคือ แคมเปญ Room ID ที่เนรมิตให้ห้องในจินตนาการของทุกคนเป็นจริงได้ ในการเลือกกระเบื้องกับยาแนวให้ออกมาเป็นภาพที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น เพราะในอดีตเวลาจะไปเลือกกระเบื้องหรือยาแนว ต้องเอาทั้งสองอย่างมาเทียบกันว่ามันจะเข้ากันไหม แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เราพัฒนาขึ้นมาเพียงแค่เข้าไปในไมโครไซท์ https://jrk-24.web.app/ ของแคมเปญ Room ID คุณก็สามารถเทียบสียาแนวกับกระเบื้องได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ทำให้เห็นภาพจริงเลยไม่ใช่เพียงแค่การจินตนาการ
“ด้วยแคมเปญ Room ID ที่เราเรียกว่า Real-time Rendering ทำให้ทุกคนได้รังสรรค์ผลงานด้วยตัวเองได้ ในรูปแบบที่ว่า “กระเบื้องที่ชอบ ยาแนวที่ใช่” นี่คือสิ่งที่เราจับมือกันเพื่อสร้าง experience ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า ได้สัมผัสประสบการณ์จริงเร็วขึ้น โดยไม่ต้องออกไปหายาแนวเทียบเอง วันนี้คุณสามารถดูจากRoom ID ได้เลยแบบ Real-time”
คุณคณิศร กล่าวเพิ่มว่า จากแคมเปญ Room ID เรามีความตั้งใจจะส่งมอบบริการที่มีคุณภาพผ่านโปรโมชั่นสุดพิเศษทั้งหมด 3 โซลูชั่น ตลอดทั้งปี 2564 นี้ ไม่ว่าจะเป็น “งานปูกระเบื้อง”, “งานซ่อมแซมหลังคา/ดาดฟ้า รั่ว ซึม” และสุดท้าย “งานซ่อมผนังร้าวและบริการทาสี” ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกสรรกระเบื้องและยาแนวหลากหลายสีสีนจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของ จระเข้ และกระเบื้องดีไซน์ต่าง ๆ จาก DURAGRES และ GRANDHOME ทำได้เองไม่ต้องง้อ Interior ซึ่งจะช่วยเนรมิตให้คุณเห็นภาพตัวอย่างกระเบื้องภายในห้องของคุณได้ทันที
“ต้องบอกว่าการจับมือร่วมกันครั้งนี้ผลประโยชน์สูงสุดตกอยู่ที่ลูกค้าแน่นอน ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้กับลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ลูกค้าสามารถมี Journey ที่ดีกับการให้บริการงานช่างได้ สนุกมากขึ้น ได้ประสบการณ์ที่ดีขึ้น และยังสามารถ Customized ได้ด้วยตัวเอง วันนี้ทุกคนมีสิทธิเลือกเองได้ ผมว่านี่คือสิ่งที่สำคัญทำให้ลูกค้ามี Experience ที่ดีขึ้น ง่าย สะดวก รวดเร็ว บนบริการที่มีมาตรฐานที่สุด”
การ Collaboration ที่ลงตัวของวงการก่อสร้างไทย สู่ ‘บ้านที่สมบูรณ์แบบ’
คุณนรวีร์ ให้ความเห็นกับความร่วมมือนี้ว่า นอกจากจะตอบโจทย์การแก้ Pain Point ให้กับทุกฝ่ายแล้ว มันจะช่วยทำให้ระบบนิเวศน์ของวงการก่อสร้างมันสมบูรณ์มากขึ้น จระเข้เรามีวัสดุที่ดี 24 FIX มีช่างที่มีฝีมือ ดังนั้น เมื่อสองสิ่งนี้มารวมตัวกันมันจึงเกิดความครบถ้วนครบวงจร เปรียบได้กับเมื่อคุณไม่สบาย คุณไปหาหมอเก่ง ๆ และหมอก็จ่ายยาที่ตรงถูกกับโรคให้ นั่นก็คือจระเข้ กับ 24 FIX ทั้งหมดนี้จะทำให้บ้านของคุณสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
“ผมคิดว่าความสมบูรณ์แบบ มันตามหากันได้ มันมีกันได้ เพียงแต่ว่ามันต้องมีคนที่รู้จริงและทำเป็น นั่นคือสิ่งที่ 24 FIX มี แล้วมันก็ต้องมีโปรดักส์ที่ตอบโจทย์ เพื่อที่จะทำให้ช่างเขาได้ใช้ฝีมือเต็มที่ นั่นคือสิ่งที่จระเข้มีครับ”
คุณคณิศร เสริมทับอีกทีว่า บ้านที่สมบูรณ์แบบเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราทำอย่างไรที่ทำให้คำว่า “บ้าน” เป็นคำว่า “บ้านที่มีความสุขร่วมกัน” ไปในทิศทางเดียวกันได้ ดังนั้น การจับมือครั้งนี้ทำให้ ลูกค้าง่ายขึ้น สะดวกขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่เสียเวลากับการต้องมาเลือกเอง แต่เราสามารถทำให้สิ่งที่เขาคิดอยู่เพียงแค่ในจินตนาการกลายเป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตา
ผมเลยมองว่าการจับมือครั้งนี้ ระหว่าง 24 FIX และ จระเข้ มันคือการยกระดับวงการอุตสาหกรรมการก่อสร้างครั้งสำคัญ ช่วยทำให้ Ecosystem ในวงการพัฒนามากยิ่งขึ้น แต่สำคัญที่สุดเลยคือ การสร้างบ้านที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า ดังนั้น สำหรับผมแล้วนิยามคำว่าบ้านที่สมบูรณ์ คือบ้านที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างมีความสุข นั่นแหละครับคือคำว่าบ้านที่สมบูรณ์แบบในแบบของผม”
Copyright © Marketing Oops