การเป็นผู้นำที่มองโลกในแง่ดี เพื่อสร้างความสุขในการทำงานก็อาจเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีมสามารถเดินหน้าต่อ และทำงานอย่างมีความสุขได้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงที่จะตกอยู่ในกับดักของ “toxic positivity” หรือการแสดงออกในเชิงบวกมากเกินไปจนกลับส่งผลเสีย ทำให้ความรู้สึกแท้จริงของคนอื่นถูกมองข้าม และอาจทำให้เกิดความรู้สึกแปลกแยก และขาดความเข้าใจในที่ทำงาน
ในฐานะผู้นำ เรามักจะคิดว่าการให้กำลังใจ และส่งเสริมให้ทีมมีความหวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าในบางครั้งการแสดงออกแบบนี้กลับกลายเป็นการลดทอนปัญหา และความรู้สึกของผู้อื่น ตัวอย่างเช่น เมื่อเพื่อนร่วมงานเล่าเกี่ยวกับปัญหาหรือความเครียดที่เผชิญอยู่ และเราตอบกลับด้วยคำพูดง่ายๆ อย่าง “ทุกอย่างจะดีเอง” หรือ “อย่าไปคิดมาก” แม้คำพูดเหล่านี้จะออกจากความตั้งใจดี แต่กลับทำให้ผู้ที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากรู้สึกว่าความรู้สึกของตนไม่ได้รับการยอมรับหรือเข้าใจ
ผู้เชี่ยวชาญอย่าง Neal Lester และ Whitney Goodman ต่างเตือนว่าปัญหาจาก toxic positivity ไม่ใช่การที่เรามีมุมมองในแง่ดีอย่างเดียว แต่คือการที่เราไม่ยอมรับหรือมองข้ามความรู้สึกที่แท้จริงของผู้อื่น เรามักจะคิดว่าความเศร้าหรือความเครียดเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและแทนที่ด้วยคำแนะนำเชิงบวกโดยอัตโนมัติ แต่การให้คำแนะนำทันทีโดยไม่ฟังความรู้สึกจริงๆ อาจทำให้คนรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
สัญญาณ Toxic Positivity พร้อมวิธีแก้ไข
1. ลดทอนปัญหาของเพื่อนร่วมงาน
-
- สัญญาณ: เมื่อเพื่อนร่วมงานบอกว่ามีปัญหาหรือความกังวล คุณอาจตอบว่า “ทุกอย่างจะดีเอง” หรือ “อย่าไปคิดมาก” ซึ่งเป็นการปฏิเสธความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
- แนวทางแก้ไข: ให้ความสำคัญกับการฟังอย่างตั้งใจและยอมรับความรู้สึกของผู้อื่น แสดงความเข้าใจและสนับสนุนแทนการพยายามแก้ไขปัญหาทันที
2. มองคนที่มักมีข้อสงสัย หรือคำวิจารณ์ว่า ‘ต้องดูแลเป็นพิเศษ’
-
- สัญญาณ: การมองว่าคนที่แสดงความกังวล หรือมักมีคำวิจารณ์เป็นพลังงานด้านลบหรือ “Negative Nancy”
- แนวทางแก้ไข: รับรู้ว่าความคิดเห็นที่วิจารณ์สามารถช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงานได้ พยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นโดยไม่รู้สึกถูกตำหนิ
3. การให้กำลังใจที่ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร
-
- สัญญาณ: การใช้สำนวนหรือคำคมที่ดูใจดีแต่รู้สึกว่างเปล่า เช่น “อะไรที่ไม่ทำลายคุณ ย่อมทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น”
- แนวทางแก้ไข: หยุดใช้สำนวนสำเร็จรูปและฟังสิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูดอย่างตั้งใจ พยายามเข้าใจและแสดงความเห็นอกเห็นใจ เช่น “ผม/ฉันอยู่กับคุณ” หรือ “ผม/ฉันเข้าใจความรู้สึกของคุณ”
4. รีบเข้าสู่โหมดแก้ไขปัญหาทันทีเมื่อมีคนแสดงความเครียด
-
- สัญญาณ: เมื่อมีคนบอกเล่าความเครียด คุณรีบให้คำแนะนำหรือวิธีแก้ปัญหาทันทีโดยไม่ให้เวลาคนฟังแสดงออกถึงความรู้สึก
- แนวทางแก้ไข: ให้เวลาและพื้นที่ในการระบายความรู้สึกก่อนที่จะเข้าสู่การแก้ไขปัญหา การฟังอย่างแท้จริงช่วยให้ผู้ฟังรู้สึกว่าตนได้รับการเข้าใจ
ท้ายที่สุดแล้ว การพัฒนาทักษะการสื่อสารที่แท้จริงและการรับฟังความรู้สึกของคนอื่นอย่างเต็มที่ เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราหลีกเลี่ยงกับดักของ toxic positivity และกลายเป็นผู้นำที่ไม่เพียงแต่มีมุมมองในแง่ดี แต่ยังเข้าใจและยอมรับความหลากหลายของอารมณ์ในทีมงานอย่างแท้จริงอีกด้วย