หากใครที่ได้ลิ้มรสความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มธุรกิจนั่นสิแปลก เพราะโดยปกติล้วนต้องเคยล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าในแต่ละสเต็บการทำธุรกิจ ก็คือ เลือดนักสู้ ใจสู้ ท้อแต่ไม่ยอมถอยง่ายๆ ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติแรกๆ ของผู้ที่ประสบความสำเร็จมานักต่อนักแล้ว
มีนักธุรกิจหลายคนที่พูดถึง Rovio บริษัทผู้สร้าง Angry Birds สัญชาติฟินแลนด์ แม้แต่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ก็เคยพูดถึงเส้นทางความสำเร็จของบริษัทนี้ว่า น่าเอาเป็นแบบอย่างให้กับนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ ที่ต้องการเอาดีทางด้านการลงทุน การเป็นผู้ประกอบการ
โดยความสำเร็จของเกม Angry Birds กว่าจะขึ้นมาเป็นเกมยอดนิยมอันดับต้นๆ ของโลก มียอดดาวน์โหลดกว่า 3,000 ล้านครั้ง เส้นทางของเลือดนักสู้ 3 คนที่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา ก็ทุลักทุเลเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่โดดเด่นและเป็นที่พูดถึงของกลุ่มนักลงทุนระดับโลก ก็คือ พวกเขาไม่เคยคิดยอมแพ้แม้แต่ครั้งเดียว
ลองมาดูเส้นทางการเติบโตของบริษัท ก่อนจะมาเป็น #Angry Birds Series ที่มีทั้งเกมมือถือ, ภาพยนตร์, โฆษณาผลิตภัณฑ์, ของสะสมต่างๆ หรือแม้แต่ในกีฬาแข่งรถ Formula 1 ที่นักขับ Heikki Kovalinen เคยสวมหมวกกันน๊อค Angry Birds มาแล้ว
รู้หรือไม่ว่า Rovio เคยพัฒนาเกมมาแล้วทั้งหมดถึง 51 เกมด้วยกัน และแน่นอนว่าทั้ง 51 เกมที่เปิดตัวล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่ติดตลาด เป็นที่รู้จัก และไม่เติบโต
ทรัพยากรเงินที่ค่อยๆ ลดหายไปทำให้บริษัทเข้าสู่วิกฤตเกือบล้มละลาย (ตลอดที่พัฒนาและเปิดตัวเกมมา 6 ปีเต็มๆ) ซึ่งช่วงวิกฤตผู้ก่อตั้งบริษัทหารือกัน โดยตัดสินใจทุ่มงบเกือบทั้งหมดพัฒนาเกมขึ้นมาใหม่ set goal ขึ้นมาเพื่อลองอีกสักครั้ง ซึ่งตลอดเวลาที่คิดค้นเกมและพัฒนา พวกเขาช่วยกันระดมไอเดียในทุกวันกว่า 10 ไอเดียวันแล้ววันเล่า
จนสรุปไอเดียกลายเป็น Angry Birds นกตัวแดงหน้าโกรธตลอดเวลา โดย Rovio เลือกที่จะพัฒนาเกมออกแบบให้เรียบง่าย เล่นได้ทุกวัน (Simple Yet Engaging Concept) ดีไซน์เกมและคาแรคเตอร์ Angry Birds ให้ปลดล็อกความรู้สึกโกรธในแต่ละวันได้ โดยระบายความโกรธด้วยการยิงหนังสติ๊ก จนกว่าผู้เล่นจะคลายความเครียดลง
ปัจจุบันดูเหมือนว่าเกม Angry Birds อาจจะเงียบๆ ไป แต่รู้หรือไม่ว่าในปี 2020 แถลงผลประกอบการของ Rovio บอกว่า ช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 และในหลายประเทศล็อกดาวน์ เกิดเป็นอานิสงส์ทำให้ยอดดาวน์โหลดเกม Angry Birds เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้น 160% ในไตรมาส 2/2020 ประมาณ 66.9 ล้านยูโร (ราว 2,400 ล้านบาท)
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากมาแชร์ไม่ใช่ผลประกอบการของ Angry Birds หรือความยิ่งใหญ่ของเกมมือถือนี้ แต่เป็นวิธีคิดที่หลายคนอาจรู้แต่ไม่ทำก็ได้ การเดินหน้าตลอดไม่ถอยหลัง เหนื่อยได้ ท้อได้ แต่ต้องสู้ต่อ ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ความคิดและหัวใจที่อยากจะสู้ต่อจำเป็นมาก
