ในยุคที่ชีวิตมนุษย์ซ้ำซากจำเจ ปราศจากความหวือหวาให้ชุ่มชื่นหัวใจ นักการตลาดยุคใหม่พบว่าแคมเปญที่จับใจผู้คนคือแคมเปญที่สามารถพาพวกเขาทลายกล่องแห่งความน่าเบื่อหน่ายและโบยบินไปกับการมองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากมาย จึงไม่น่าแปลกที่ interactivecampaign จะกลายเป็นแคมเปญที่ป็อบปูล่าไปทั่วทุกมุมโลกเพราะมันอนุญาตให้คุณๆ ล้วงลึกเข้าไปอยู่ในโลกจินตนาการ สร้างปรากฏการณ์ที่พาคนหลุดพ้นจากโลกปัจจุบัน
SNCF การรถไฟของฝรั่งเศสร่วมกับ TBWA/Paris สร้างปรากฏการณ์มอบความตื่นเต้นให้แก่ผู้คนในเมืองบรัสเซลด้วยการตั้งประตูขนาดใหญ่ราว 3 เมตรไว้ที่จตุรัสกลางเมือง คนเดินผ่านไปมาสามารถเปิดประตูนี้ออกเพื่อเล่นกับจอดิจิตอลขนาดใหญ๋ที่ฉายภาพนักแสดงตลกใบ้ที่มิลาน เต้นฮิบฮอบกับโจ๋วัยรุ่นที่บาร์เซโลน่า ร่วมร่องเรือรักสุดโรแมนติกที่ทะเลสาบเกเนว่า หรือจะปั่นจักรยานร่วมกับสิงห์นักปั่นจากเยอรมัน ภาพทั้งหมดเป็นวีดีโอที่อัดไว้และคนที่เดินผ่านไปมาสามารถกดเลือกเมืองที่ต้องการเพื่อเล่นสนุกได้
แคมเปญนี้จัดเป็นกิจกรรมในช่วงหนึ่งเพื่อโปรโมทแบรนด์และเผยแพร่บนออนไลน์และโฆษณาในโรงภาพยนตร์ รวมถึงแคมเปญ outdoor media ทั่วไป
httpv://youtu.be/GGW6Rm437tE
ความคิดเบื้องหลัง
อย่างที่กล่าวไป แม้ interactive campaign อาจดูไม่ใช่เรื่องใหม่แต่มันยังเป็นแคมเปญที่ผู้คนโปรดปรานอย่างยิ่งในปัจจุบัน ผู้คนสมัยใหม่ไม่ต้องการเป็นฝ่ายตั้งรับ (passive) ต่อเทคโนโลยี พวกเขาต้องการใช้ ลอง สัมผัสเทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างใกล้ชิดด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ ตื่นเต้น
ประเด็นคือเทคโนโลยีที่พวกเขาสัมผัสนั้นต้องช่วยตอบสนองความต้องการบางอย่าง เช่น ความอยากซื้อ ความรัก ความเห็นใจ การหลุดออกไปจากกิจวัตรประจำวันพร้อมสร้างจินตนาการแปลกใหม่ให้เป็นหนึ่งในสิ่งที่มนุษย์ปัจจุบันต้องการอย่างยิ่ง ลองคิดสภาพว่าคุณคือคนทำงาน 8 ถึง 5 ที่ต้องผจญกับรถติด ผจญกับการต่อแถวกินข้าวเที่ยงทุกวัน ผจญกับการเมืองในออฟฟิศ การหลบหนีออกไปจากห้วงเวลาที่น่าเบื่อเหล่านี้สักนาทีถือเป็นประสบการณ์ล้ำค่า
หลักฐานง่ายๆ ที่อาจพอหยิบยกขึ้นมาคือภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จในช่วงสองสามปีมานี้คือภาพยนตร์เหนือจินตนาการ อย่าง Harry Potter หรือภาพยนตร์ sci-fi ขณะที่ประเทศไทย ภาพยนตร์ที่น่าสนใจเป็นอนิเมชั่นเรื่อง Your name ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ตัวเอกหลบหนีออกจากชีวิตประจำวันในเมือง/ชนบทที่น่าเบื่อหน่ายเพื่อลองไปใช้ชีวิตของอีกคนหนึ่งในอีกร่างกายหนึ่ง
การที่แคมเปญ Europe. It’s just next door ป็อบปูล่าขึ้นมาได้หลักๆ คือการใช้เทคโนโลยี interactive เพื่อช่วยให้ผู้คนออกไปท่องโลกอันห่างไกลได้ไม่ผิดกับทีวี วิทยุ เว็บไซต์ผ่านสื่อแต่ที่แตกต่างคือตัวแคมเปญถูกพรีเซนต์ออกมาในรูปแบบประตูกลางลานจตุรัสที่ช่วยสร้างจินตนาการ เสมือนผู้ร่วมแคมเปญหลุดออกไปประเทศอื่น ในพื้นที่ที่แสนน่าเบื่ออย่างจตุรัสกลางเมืองที่ทุกคนต้องเดินทางผ่านไปมาเพื่อทำงานทุกวัน การปรากฏขึ้นของประตูแห่งยุโรปจึงทำลายกิจวัตรประจำวันที่ทุกคนคาดหวังว่าจะเจอ
อนาคตของแคมเปญในไทย
1.แคมเปญนี้ยังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ ด้วยเทคโนโลยี live ปัจจุบันที่ทำให้คุณสามารถพบกับคนจากทั่วทุกมุมโลกแบบเรียลไทม์ ประตูบานนี้สามารถพัฒนาจอ interactive แบบเรียลไทม์ถ่ายทอดสดภาพจากสถานที่ต่างๆ เชื่อมต่อคนจากเมืองหลวงของประเทศต่างๆ การเห็นบรรยากาศเมืองหลวงของประเทศอื่นมอบความรู้สึกเรียลและอาจสร้างแคมเปญต่อเนื่องได้
2. ต่อเนื่องจากข้อหนึ่ง หากปรับปรุงแคมเปญนี้ด้วยเทคโนโลยี live คุณสามารถส่งแคมเปญออกมาในช่วงเทศกาลที่ชาวอาเซียนฉลองกันเป็นสากล เช่น สงกรานต์ นอกจากจะน่าตื่นเต้นแล้วยังช่วยเปิดโลกให้คนไทยรู้จักวัฒนธรรมเพื่อนบ้านดีขึ้นด้วย
3. กระแส AEC ของไทยทำให้เกิดบรรยากาศการไหลข้ามวัฒนธรรมและธุรกิจข้ามชาติของประเทศ คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับชาวต่างชาติโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงซึ่งเสมือนเป็นการปูทางให้แคมเปญประตูสู่ประเทศอาเซียนน่าสนใจสำหรับหลายแบรนด์
4. ธุรกิจที่น่าจะเหมาะกับแคมเปญนี้หนีไม่พ้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางทั้งหมด โรงแรม สายการบิน การท่องเที่ยว รถไฟ กล่องถ่ายภาพ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่น่าสนใจคือโอกาสประสบความสำเร็จของแคมเปญนี้น่าจะไม่ยากนักก็ใครบ้างจะไม่ชอบเที่ยวล่ะ