เรียนรู้การตลาดแบบ Apple ที่ทำออกมาก็ชนะคู่แข่งอยู่ทุกครั้ง

Apple นับว่าเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในทศวรรษนี้ด้วยการที่เป็นบริษัทที่ถูกกล่าวขวัญมากที่สุดมูลค่าสูงที่สุดและสร้างกระแสต่างๆได้อย่างต่อเนื่องการที่ Apple มาถึงจุดนี้ได้นั้นไม่ใช่เพียงแต่การทำสินค้าและบริการที่ดีออกมาแต่เป็นเพราะวิธีการคิดในการสื่อสารทางการตลาดที่สามารถจับใจกลุ่มเป้าหมายและแย่งความสนใจมาจากคู่แข่งได้

ถ้ามองดูจริงๆแล้วสินค้า Apple นั้นไม่ได้มีความใหม่มากหรือทำมาเป็นผู้ผลิตแรกในตลาดแต่หลายๆครั้งจะเห็นว่าเวลาที่ Apple ผลิตออกมาแม้จะมาทีหลังแต่กลับกลายเป็นว่ากลายเป็นผู้นำในการผลิต feature หรือรูปแบบดังกล่าวไปเองยังไม่รวมถึงการที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงวิธีคิดในการส่งมอบสินค้าต่างๆให้ไม่ว่าจะเป็นรอยบากกล้องหน้าที่เมื่อตอนออกมาใหม่ๆแบรนด์อื่นเอามาล้อเลียนแต่สุดท้ายในทุกวันนี้หลายๆแบรนด์ก็มีรอยบากกล้องหน้าหรือล่าสุดอย่างการไม่แถมสายชาร์จก็มีหลายแบรนด์เอามาล้อแต่สุดท้ายก็เอามาทำตามสิ่งที่น่าสนใจของ Apple ในการสร้างแบรนด์ให้มีความน่าสนใจนี้คือ Apple ทำอย่างไรให้การสื่อสารตัวเองดูเป็นจุดเด่นและฉีกออกมาจากตลาดของคนอื่นได้ขึ้นมา

คำตอบนั้นคือกระบวนการวางแผนทางการตลาดที่คิดมาอย่างละเอียดอย่างดีด้วยการใช้เคล็ดลับทางการสื่อสารทางการตลาดแบบ 8 ข้อนี้

1. การสร้างความลึกลับ : สิ่งแรกๆที่ทุกคนจะนึกถึง Apple เวลาใกล้งาน event ของ Apple นั้นคือข่าวลือต่างๆในการออกผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆออกมาข่าวลือพวกนี้เกิดขึ้นจากการที่ Apple ปกปิดความลับของสินค้าและบริการที่จะเปิดตัวทำให้ทุกคนต้องไปจินตนาการเองและสร้างความลือต่างๆเพื่อตอบสนองความอยากรู้การหาคำตอบของความลับขึ้นมาแน่นอนด้วยจิตวิทยาคนยิ่งปกปิดยิ่งอยากรู้และทำให้ยิ่งเกิดการบอกต่อข่าวลือและสร้างความน่าสนใจให้แบรนด์อย่างมากขึ้นไปอีก

2. การสร้างความน่าหลงใหล : สิ่งที่ Apple เก่งอย่างมากคือการสร้างสินค้าที่ดูน่าหลงใหลและตรงใจลูกค้าในความเป็นจริงแล้ว Apple นั้นทำงานวิจัยอย่างมากมายในการที่จะเข้าใจว่าลูกค้าตัวเองนั้นต้องการอะไรจะออกแบบอย่างไรให้ลูกค้าชอบด้วยพลังที่ทุ่มเทไปกับลูกค้านี้ทำให้ Apple เรียนรู้ว่าจะต้องพูดแบบไหนและอย่างไรถึงจะโดนในลูกค้าอีกด้วย

3. สร้างช่องทางซื้อเฉพาะ : ในตอนนี้ใครๆก็สามารถไปซื้อสินค้าที่ Apple Store ได้โดยมีร้านที่ดูสบายสวยงามและมีการจัดเรียงสินค้าอย่างดีซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งที่ไม่ได้มีร้านเฉพาะหรือถ้ามีร้านก็จะเน้นแต่การขายโดยเฉพาะเลยไม่ได้มีการปฏิสัมพันธ์เหมือน Apple ขึ้นมาลองนึกถึงจะเห็นคนไปถ่ายรูปกับ apple store แต่ไม่มีใครไปถ่ายรูปกับ shop คู่แข่งอื่นๆเลยด้วยการมีช่องทางซื้อเฉพาะรูปแบบนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ที่คู่แข่งเลียบแบบได้ยากทำให้ Apple เอาชนะคู่แข่งได้อย่างง่ายได้

4. เอาสินค้าไปโชว์ให้ถูกที่ : คงได้เคยได้ยินข่าวว่า Apple นั้นจะไม่ยอมให้ตัวร้ายในภาพยนต์และซีรีย์ใช้อุปกรณ์ของ Apple เด็ดขาด เพราะจะสร้างภาพติดที่ไม่ดีกับกลุ่มเป้าหมายตัวเองขึ้นมา ด้วยวิธีคิดของ Apple ทำให้สินค้าตัวเองนั้นจะไปโดดเด่นกับทีมพระเอก แถมการที่จะไปอยู่ในภาพยนต์และซีรีย์ ทำให้คนเห็นมากขึ้นจนเกิด Mere Exposure Effect อีก

5. ไม่เล่นสงครามราคา : วิธีการตั้งราคาของ Apple นั้นจะไม่ได้ตั้งราคามาชนคู่แข่งสิ่งที่ Apple ทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงสงครามราคาโดยไม่ตั้งราคาสินค้าที่ใกล้คู่แข่งหรือมีการลดราคาเทกระจาดแต่จะเป็นการตั้งราคาให้สูงไปเลยทำให้เกิดความรู้สึกทางจิตวิทยาของผู้ที่สนใจทันทีว่าการที่ Apple ราคาสูงกว่าแบรนด์อื่นนั้นเป็นเพราะมีความหรูหรามากกว่าคุณภาพดีกว่าและดีกว่าอย่างแน่นอน

6. เข้าใจ Social Proof : การที่ Apple เข้าใจกลุ่มผู้ใช้อุปกรณ์ Apple อย่างมากทำให้ Apple สามารถใช้กลุ่มคนที่ชอบ Apple นี้มาสร้างการตลาดของ Apple ผ่านหลักการทางจิตวิทยาแบบ Social Proof ได้ต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการเข้าคิวที่น่าร้านการแห่จองสินค้าในวันเปิดตัวจะหมดและการที่ดาราคคนดังใช้งานจนทำให้เกิดชุมชนผู้ใช้ Apple ที่รักสินค้าและพร้อมเอาไปบอกต่อสินค้าได้ทันทีด้วยภาพแบบนี้ทำให้เกิดผู้ใช้หน้าใหม่และผู้ใช้น่าเก่าที่ติดใจในสินค้าอย่างต่อเนื่อง

7. สิทธิพิเศษในการใช้งานก่อน : Apple นั้นไม่ได้คิดการขายสินค้าเพียงอย่างเดียวแต่เป็นการขาย Ecosystem ของสินค้าออกไปดังนั้นเมื่อคุณใช้ Apple ก็จะได้สิทธิในการเข้าถึง Ecosystem ของ Apple อีกด้วยไม่ว่าจะเป็น App หรือความบันเทิงต่างๆทำให้ผู้ใช้จะรู้สึกถึงสิทธิพิเศษในการใช้งานและนอกจากนี้ ecosystem ของ App ใน Apple ยังแข็งแรงมากทำให้ผู้ผลิต App จะทำ App บน Apple ก่อนทำให้ผู้ใช้ apple ได้ใช้ก่อนอีกดังเช่นกรณี Clubhouse

8. ทำให้ดูขาดแคลน : สิ่งที่ Apple เก่งมากคือการเล่นกับกระแส Apple เข้าใจหลักการจิตวิทยาหลายๆอย่างเป็นอย่างดีไม่ว่าจะเป็นการที่กลุ่มเป้าหมายนั้นกลัวการตกกระแสหรือการเป็น fear of missing out และทำให้สินค้าตัวเองมี Scarity Effect ด้วยการมีจำนวนจำกัดในการเปิดตัวไม่พอต่อความต้องการไม่ใช่ใครจะเดินมาซื้อก็ได้แต่ต้องมาจองล่วงหน้าหรือต่อคิวซื้อหมดแล้วหมดเลยทำให้สินค้าของ Apple นั้นกลายมามีความต้องการสูงคนพูดถึงเยอะอย่างทันทีทำให้เกิดความอยากได้ความกลัวที่จะตกกระแสและความต้องการในการซื้อมากขึ้นไปอีก

เคล็บลับของ Apple ในการตลาดนั้นเริ่มจากการมีสินค้าที่ดีบริการที่ดีและเข้าใจประสบการณ์ของลูกค้าในทุกจุดก่อนทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าให้ลึกซึ้งเมื่อแบรนด์มีความรู้ความเข้าใจกับลูกค้าตัวเองเยอะแล้วการใช้จิตวิทยาการออกแบบและสื่อการสามารถสร้างกระแสความต้องการของแบรนด์ได้อย่างดีขึ้นมาแบรนด์ไหนที่อยากเป็นอย่าง Apple อลงทำตามเคล็ดลับนี้ดู