การทำอะไรซ้ำๆ เหมือนเดิมทุกวันอาจเป็นสิ่งที่เราเคยชิน แต่บางครั้งถ้าได้ปรับเปลี่ยนอะไรเล็กๆ น้อยๆ ชีวิตคุณก็เปลี่ยนได้ เหมือนกับ 8 เรื่องที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ บางเรื่องก็ฟังดูง่าย แต่บางเรื่องก็ไม่ ทั้งนี้ ถ้าคุณนำไปปรับใช้ได้จริง วิถีชีวิตของคุณเปลี่ยนแน่นอน
1. ใส่ใจเรื่องเสื้อผ้า
การใส่ใจในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าทั้งตู้ต้องเต็มไปด้วยเสื้อผ้าราคาแพง หรือของแบรนด์เนมทั้งหมด แต่ถ้าคุณมีเสื้อผ้าดีๆ ที่เรียกว่า “ชุดเก่ง” ชุดที่ใส่เวลาออกงานหรือมีประชุมสำคัญ จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้น แถมความมั่นใจนี้ยังส่งผลให้วันนั้นๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดี แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น ถ้าได้ใส่ชุดเก่งทุกวันคุณก็มั่นใจได้ทุกวัน ในขั้นตอนนี้คุณจึงต้องใส่ใจตั้งแต่การเลือกซื้อเสื้อผ้า เลือกที่ตัวเองใส่แล้วมั่นใจที่สุด
2. ทำสมาธิ
สำหรับการทำสมาธิ เป็นเรื่องที่คุณไม่ต้องเสียเงินสักบาท แค่ไม่กี่นาทีก็ทำได้ ใช้เวลา 5-15 นาทีต่อวันนั่งสมาธิในตอนเช้า จะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้ หรือถ้าไม่มีเวลาจริงๆ ให้ใช้วิธีจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น การล้างมือ ค่อยๆ คิดว่าตอนนี้กำลังทำอะไร มีสติกับทุกการกระทำ กลิ่นของสบู่ล้างมือเป็นยังไง มือสะอาดหรือยัง แค่ปล่อยตัวให้สนุกกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแค่นี้ก็สร้างสมาธิได้แล้ว
3. ยืนทำงาน
ถ้านั่งทำงานนานๆ แล้วเมื่อยหรือเบื่อเกินไป แนะนำให้ยืนทำงานแทน แม้จะฟังดูแปลกแต่การยืนทำงานจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากกว่าการนั่งทำงาน การนั่งสลับยืนยังช่วยเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้ ทั้งนี้ คุณต้องมีโต๊ะที่รองรับกับการยืนทำงาน เพื่อป้องกันการปวดหลัง และไม่ควรยืนนานเกินไป ครั้งละ 10 นาทีกำลังดี
4. ปิดมือถือบ้าง
สำหรับบางคนที่บอกว่าการเช็ค Facebook หรือแชท Line เป็นวิธีพักผ่อนที่ดีที่สุด แต่จริงๆ แล้วสมองคุณไม่ได้หยุดทำงานเลย ลองปิดมือถือแล้วสนุกกับสิ่งที่อยู่รอบข้าง ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว ทานอาหารด้วยกัน ดูทีวีและพูดคุยกัน การสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกัน เรื่องเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีความสุขกว่าเดิม
5. ตื่นให้เช้ากว่าเดิม
ใครๆ ก็เกลียดการตื่นเช้า แต่หากมองอีกมุม ถ้าคุณตื่นเช้าขึ้น 30 นาที คุณจะมีเวลาทำอะไรๆ เพิ่มขึ้นอีกตั้ง 30 นาที ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือจิบกาแฟ
6. อ่านให้มากขึ้น
เพราะการอ่านเป็นพื้นฐานการดำเนินชีวิตที่ทุกคนต้องมี ด้วยความก้าวล้ำของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ ทำให้คุณอ่านหนังสือได้ทุกที่ทุกเวลาทั้งการอ่านจากหนังสือ หรือ E-Book แบ่งเวลาเพียงกี่นาทีต่อวัน สมองของคุณจะถูกกระตุ้นให้ทำงานได้ดีขึ้น ทว่า ถ้าคุณเป็นคนที่จับหนังสือทีไรตาจะปิดทุกที แนะนำให้ฟังจาก Podcast หรือ TED Talks แทนได้
7. เปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดินทาง หรือเปลี่ยนที่อยู่
ในข้อนี้คงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้คุณเปลี่ยนที่อยู่ทุกวัน แต่อย่างน้อยการเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณโตขึ้น ทั้งในแง่ของความคิด และการใช้ชีวิต ถ้าคุณเป็นคนต่างจังหวัด และย้ายเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ (รวมถึงการย้ายจากบ้านเกิด มาอาศัยอีกแห่งเป็นเวลานาน) คุณจะเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนที่อยู่ส่งผลต่อชีวิตอย่างไร นอกจากความเหงาแล้ว สิ่งที่ได้คือคือ มุมมองการคิด การมองโลกเปลี่ยนไป รวมถึงกล้าคิดกล้าตัดสินใจมากขึ้น
ในกรณีที่คุณไม่มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนที่อยู่ การท่องเที่ยวจะทำให้คุณได้เรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกับคนอื่น และเข้าถึงวัฒนธรรมของสถานที่นั้นๆ หาเวลาว่างที่ลงตัวที่สุดแล้วออกเดินทางกันเลย
8. ลงมือเขียน
การเขียนในที่นี้ไม่ได้จำกัดแค่กระดาษ ปากกา หรือการจดไดอารี่ แต่ยังหมายถึง การเขียนบล็อก เพื่อบอกเล่าประสบการณ์หรือแชร์เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ คุณสามารถเริ่มต้นได้จากการอัปเดทสเตตัสสั้นๆ ใน Social Media แล้วค่อยขยับมาสู่การเขียนบล็อก ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดในการเขียนคือ ต้องเขียนทุกวัน สั้นบ้างยาวบ้างก็ว่ากันไป อย่าขาดก็พอ
มาถึงตรงนี้ ถ้าอ่านอย่างเดียวชีวิตของคุณอาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก มาลงมือทำไปด้วยกันค่ะ Source
