ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับธุรกิจที่จะต้องหมุนเคลื่อนไปตามการเปลี่ยนแปลง ยิ่งถ้ามีผู้บริหารที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ โอกาสและความสำเร็จก็จะเป็นของผู้นั้น ซึ่งคนแบบนี้หายากจนแทบจะไม่มี ทั้งที่มีเป้าหมายในการนำธุรกิจไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “ประสบผลสำเร็จ” หลายครั้งที่มีความมุ่งมั่นแต่แค่นั้นอาจไม่พอ
อย่างนั้นมาลองดูมุมมองของคนที่ได้ชื่อว่าเศรษฐีหรือระดับมหาเศรษฐี เพราะคนเหล่านี้มีแนวคิดที่แตกต่างจากคนทั่วๆ ไป แถมสายตาของคนกลุ่มนี้มองไปยังเป้าหมายตลอดเวลา ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ต้องมีเคล็ดลับในการทำงานเพื่อให้สามารถได้ชื่อว่าเป็นเศรษฐี นี่คือ 6 แนวคิดของคนระดับเศรษฐีที่สามารถประยุกต์ปรับใช้กับมุมมองของธุรกิจ
1. ทำยังไงก็ไม่ถึงเป้าหมาย
คนระดับเศรษฐีมักจะมีเป้าหมายการทำงานอยู่เสมอ แต่รู้หรือไม่ว่าเศรษฐีเหล่านั้นไม่เคยถึงเป้าหมายซักครั้ง นั่นเพราะคนระดับเศรษฐีเชื่อว่า เมื่อถึงเป้าหมายเท่ากับภาระกิจสำเร็จ เมื่อภาระกิจสำเร็จก็จะหยุดประสิทธิภาพไว้ตรงนั้น คนระดับเศรษฐีจึงมีเป้าหมายใหม่ไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ไม่เคยถึงเป้าหมายสักครั้ง และเพราะยังไม่เคยถึงเป้าหมายนี้เอง จึงทำให้คนระดับเศรษฐีต้องคิดและสร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆ ตลอดเวลาเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย
2. เศรษฐีมักเป็นคนสายตายาว
หลายคนบอกว่าคนระดับเศรษฐีมักจะเป็นคนสายตายาว แต่ไม่เกี่ยวกับ Focus ในการมอง เพราะสายตายาวคือการมองแผนไปข้างหน้ายาวไกล เพราะการวางแผนระยะสั้นแม้จะช้วยให้รู้สึกว่าง่าย ช่วยสร้างความกระตือรือร้น แต่การมองระยะยาวจะช่วยให้คนระดับเศรษฐี สามารถวางแผนระยะสั้นเพื่อไปยังแผนระยะยาว และเมื่อแผนระยะยาวใกล้สำเร็จ ก็จะมีแผนระยะยาวที่มากกว่าเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
3. อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ในการทำธุรกิจมักจัมีปัจจัยอยู่ 2 ปัจจัย ทั้งปัจจัยที่ควบคุมได้และปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่เป็นปัญหากับธุรกิจบ่อยครั้งคือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งธุรกิจทั่วไปเมื่อปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้มีผลกระทบกับธุรกิจหลายคนก็จะมองหาวิธีแแก้ปัญหา แต่คนระดับเศรษฐีกลับมองว่า เพราะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นผลดีหรือผลร้ายก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน หากแต่คนเหล่านั้นไม่ได้มองเพื่อแก้ปัญหา แต่จะมองหาโอกาสจากผลกระทบเหล่านั้น
4. แรงกระตุ้นพิเศษ สร้างพลังฮึด
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า คนระดับเศรษฐีไม่เคยถึงเป้าหมายสักครั้ง ซึ่งโดยปกติสิ่งที่ทำโดยไม่มีจุดสิ้นสุด ทำให้สิ้นหวังและท้อแท้ได้ นั่นจึงทำให้คนระดับเศรษฐีก็มีเป้าหมายหรือความฝันเหมือนกัน แต่เป้าหมายหรือความฝันของคนระดับเศรษฐีมันต้องพิเศษหรือยากเย็นกว่าคนอื่น เป้าหมายหรือความฝันเหล่านี้จะกลายเป็นแรงกระตุ้นชั้นเยี่ยมให้กับคนระดับเศรษฐี ในการพิชิตสิ่งที่ใฝ่ฝันให้ได้
5. การลงทุนมีความเสี่ยง
ส่วนหนึ่งของคนระดับเศรษฐีที่มีเหมือนๆ กันคือชอบความท้าทาย โดยเฉพาะความเสี่ยงในการทำธุรกิจ เพราะนั่นหมายความว่า การลงทุนน้อยหรือความเสี่ยงต่ำ มักจะได้รับผลตอบแทนที่น้อยและไม่คุ้มค่า ขณะที่ยิ่งความเสี่ยงสูงก็ต้องลงทุนมาก แต่ถ้าสำเร็จผลตอบแทนก็มากมายมหาศาลเช่นกัน นี่จึงเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของคนระดับเศรษฐี และนั่นทำให้คนระดับเศรษฐีมักจะหาข้อมูลศึกษามากมายเพื่อลดความเสี่ยงลง
6. ความรู้เกิดขึ้นใหม่ได้เสมอ
อย่างที่บอกว่าคนระดับเศรษฐีมักจะชอบความเสี่ยง สิ่งที่จะมาลดความเสี่ยงได้คือความรู้ ยิ่งโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ความรู้ใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การหยุดเรียนรู้และถือว่ามีความรู้อยู่แล้วเป้นสิ่งที่คนระดับเศรษฐีไม่ปฏิบัติกัน เพราะยังมีความรู้อีกมากมายบนโลกที่เกิดมาใหม่ตลอดเวลา ในอดีตใครจะไปคิดได้ว่าปัจจุบันแค่มีมือถือก็ทำธูรกิจบน e-Commerce ได้แล้ว หรือใครจะไปคิดว่า LINE ในวันนั้นที่ท้าทายคู่แข่งอย่าง WhatsApp และ BB Chat จะกลายเป็น SuperApp อย่างวันนี้
Source: Entrepreneur