เซี่ยงไฮ้เป็นเมืองใหญ่ที่น่าหลงใหลที่สุดเมืองหนึ่งของโลก เป็นเมืองที่มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ผมในฐานะนักเรียนต่างชาติที่เคยไปศึกษาต่อในระดับปริญญาตรียังรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของเมืองทุกครั้งที่ได้ไปเยือนเมืองนี้ ซึ่งเรามักได้ยินคนต่างชาติทั่วโลกได้วิเคราะห์และกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนแล้วนำมาเปรียบเทียบกับเมืองที่ตนเองอยู่หรือเคยไปในมุมมองของชาวต่างชาติ แต่ไม่ค่อยกล่าวถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วต่อชาวจีนที่อยู่ในประเทศซึ่งในจุดนี้คงไม่มีใครที่รู้ดีไปกว่าคนจีนด้วยกันเอง
รัฐบาลจีนประสบความสำเร็จมากในการออกแบบพฤติกรรมของผู้คนในรอบทศวรรษที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วบังคับให้ผู้คนในประเทศจีนโดยเฉพาะผู้คนที่อยู่ในหัวเมืองใหญ่ ๆ ต้องปรับตัวตามนโยบายรัฐบาลที่สะท้อนออกมาทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้คนทุกวัยเริ่มเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันมากขึ้น แอปพลิเคชั่นและระบบการจ่ายเงินออนไลน์เป็นสิ่งที่ผู้คนในจีนหนีไม่พ้น ผมจะขออนุญาตยกตัวอย่างอาชีพหนึ่งที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน เช่น โชเฟอร์แท็กซี่ ต้องเท้าความกลับไปก่อนในอดีตว่าอาชีพคนขับแท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้เป็นอาชีพสงวนสำหรับชาวเซี่ยงไฮ้เท่านั้น ฉะนั้นเราจะเห็นว่าโชเฟอร์รถแท็กซี่ในเซี่ยงไฮ้แทบจะร้อยทั้งร้อยเป็นคนรุ่นลุงที่สามารถพูดภาษาเซี่ยงไฮ้ได้ แต่ปัจจุบันสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปมาก รัฐบาลเซี่ยงไฮ้เริ่มให้อนุญาตให้ผู้คนต่างเมืองเข้ามาประกอบอาชีพนี้มากขึ้น สัดส่วนเริ่มเยอะมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุหลักมาจากว่าอาชีพนี้ในปัจจุบันมีรายได้ค่อนข้างต่ำถ้าเทียบกับอาชีพอื่น ๆ และเป็นอาชีพที่ไม่สามารถสร้างอนาคตให้กับตนเองได้ชัดเจน เราจึงสังเกตได้ว่า ช่วงหลังมานี้ชาวเซี่ยงไฮ้โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ผันตัวมาเป็นโชเฟอร์รถแท็กซี่น้อยมาก
ผลกระทบของการเข้ามาของเทคโนโลยีต่อชีวิตการขับรถแท็กซี่ของโชเฟอร์ทั้งหลายมีอยู่หลายอย่างมาก แต่ประเด็นหลัก ๆ ที่ต้องพูดถึงคือ การเข้ามาของแอปพลิเคชั่น เมืองจีนมีแอปพลิเคชั่นด้านการเดินทางหลายตัวมาก เช่น Uber ตีตี ไคว่ตี ตีตา เสินโจว เป็นต้น ผมมีเพื่อนรุ่นลุงท่านหนึ่งชื่อว่า Mr.Wang อายุ 60 ปี ขับรถแท็กซี่มานานกว่า 20 ปี ปัญหาที่เขาพบเจอบ่อยครั้งคือลูกค้าลืมพกเงินสด ไม่มีเงิดสดที่จะจ่าย มีแต่เงินที่อยู่ใน Alipay และ WechatPay เพื่อนผมท่านนี้ดื้อดัน ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง และไม่ยินดีที่จะเรียนรู้การใช้แอปพลิเคชั่นและการจ่ายเงินออนไลน์มาโดยตลอด จนภายหลังค้นพบว่าจำเป็นต้องเรียนรู้ เพราะเป็นไฟท์บังคับ อย่าว่าแต่ระบบการจ่ายเงินออนไลน์ หรือเทคโนโลยีด้านอื่น ๆ โชเฟอร์ท่านนี้แทบจะไม่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือในชีวิตประจำวันเลยด้วยซ้ำ โทรศัพท์มือถือเก่า ๆ เครื่องหนึ่งของเขามีไว้เพียงเพื่อโทรหาภรรยา ลูกชายที่อยู่ต่างเมือง และบริษัทเจ้าของอู่รถในบางครั้งเพียงเท่านั้น
กระทั่ง สุดท้ายเขาต้องไปซื้อโทรศัพท์ใหม่เพื่อดาวน์โหลดวีแชท ต้องไปธนาคารเพื่อเปิดบัญชี และเอาเบอร์โทรศัพท์ของตนผูกกับบัญชีไว้จึงสามารถที่จะรับเงินที่ลูกค้าจ่ายผ่านทาง WechatPay ได้ นอกจากนี้อีกสิ่งหนึ่งที่เขาได้ทำคือ เขาเริ่มโหลดและเรียนรู้แอปพลิเคชั่นด้านการเดินทางเพื่อที่จะรับลูกค้าที่จะใช้บริการรถแท็กซี่ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ซึ่งในปัจจุบันผู้คนในเซี่ยงไฮ้แทบทั้งหมดเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โชเฟอร์แท็กซี่เริ่มหาลูกค้าที่ยืนโบกเรียกรถตามท้องถนนได้ยากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ในทางตรงกันข้ามลูกค้าก็มีความจำเป็นต้องใช้บริการการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชั่นเพราะหารถได้ยากมาก ยังไม่รวมปัญหาการโดนแย่งลูกค้าจากโชเฟอร์เฉพาะกิจที่ถูกนำพาเข้าวงการโดยแอปพลิเคชั่นการเดินทางต่าง ๆ โดยไม่มีสิทธิ์มีเสียงในการออกมาแสดงความคิดเห็นต่อต้าน
ประเทศจีนมีแพลตฟอร์มออนไลน์เมากมายหลากหลายที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในทุก ๆ ด้าน และแอปพลิเคชั่นหลายตัวในประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในการตีตลาดโดยเริ่มจากการสร้างตรรกะ “ความต้องการใช้” ให้กับคนบางกลุ่มจนกลายเป็น“ความจำเป็น” ที่จะต้องใช้ในคนหมู่มาก สุดท้ายกลายเป็นการสร้าง “Huge Data” ที่จีนมีในปัจจุบัน
เขียนโดย ณัฐพงศ์ เลิศวุฒิรักษ์
Expertise: Marketing Strategy
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com