การบุกเจาะลูกค้าที่หลากหลายกลุ่ม
เพราะความที่เป็น “วันคนโสด” คอนเซปต์ของการช็อปปิ้งในวันนี้ เลยต้องเน้นแก้ความโสดด้วยการช็อปปิ้งออนไลน์ซะเลย ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ
แล้วเมื่อมากๆเข้า ก็กลายเป็นว่าวันนี้ไม่ได้แปลว่าคนที่แห่ซื้อวันนี้คือคนโสดเสมอไป แล้วร้านค้าทั้งหลายพร้อมช่วยสนองให้โดยพร้อมใจกันลดราคาพิเศษในวันนี้ด้วย
น้ำหอมและเครื่องสำอางมาแรงที่สุด
มีรายงานจาก CIW ที่ระบุว่า กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของวันนี้ นอกจากกลุ่มที่กำลังมาแรงก็คือบรรดาสาวๆ แม่ๆ รวมถึงมีคนต่างชาติ ทั้งจากใน เอเชียและตะวันตก ที่เข้ามาซื้อสินค้าใน Tmall Lazada Aliexpress มากกว่าหลายล้านชิ้น
นอกจากนี้ยังข้อมูลจากในเครือ อาลีบาบา เกี่ยวกับสถิติน่าสนใจในอีคอมเมิร์ซจีน วันคนโสดครั้งนี้ว่า
- มียอดคนสั่ง Order มากกว่า 6 แสนครั้งต่อวินาที
- มีผู้ใช้บริการเฉพาะวันคนโสดมากกว่า 800 ล้านคน
- น้ำหอม เครื่องสำอาง กลายเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1
- มี 2,600 แบรนด์ทั่วโลกเข้าร่วมในเว็บ Tmall
ซึ่งสินค้าที่ขายดีอันดับต้นๆ ได้แก่ น้ำหอม เครื่องสำอาง สกินแคร์ ที่แสดงให้เห็นถึงสินค้าในกลุ่มความงามที่ยังคงเป็นตลาดมาแรงอันดับต้นๆของโลกที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
จุดติดการสร้างกระแสร่วม
จริงอยู่ว่า Alibaba เป็นผู้เริ่มต้นของกระแสวันคนโสด 11.11 แต่ที่จริงไม่ใช่แค่วันคนโสดเท่านั้นที่มีการลดกระหน่ำราคา มันเลยกลายเป็นว่า ทำให้ลูกค้าจดจำวันลดราคาหรือเทศกาลค้าขายต่างๆของจีนไปด้วย นอกเหนือจาก 11.11
ซึ่งบรรดาร้านค้าปลีกออนไลน์และช่องทางธุรกิจ E-Commerce ก็เลือกใช้ช่องทางต่างๆเพื่อทำการตลาดอย่างเต็มที่แล้วก็จุดติดด้วย
Tmall ใช้กลยุทธ์ Live สด
จุดนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก สำหรับการใช้กลยุทธ์ Live-Stream เพื่อช่วยในเรื่องการรีวิวและขายสินค้า ปจนถึงการทำตลาด แล้วกระตุ้นยอดขายให้น่าสนใจขึ้น โดยมีการนำ Live มาขึ้นบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่างเช่น Taobao Youku Weibo และ Toutiao เพื่อกระจายโอกาสในการตลาด
ส่วนในปีนี้ พบว่ามีมากกว่า 400 บริษัทเอเจนซี่ และบรรดา 300 เซเล็บดังเข้าร่วมในการทำ Live รีวิวและขายสินค้า
ซึ่งบรรดาเนตไอดอลหรือ Influencer ในจีน มีความแตกต่างจากในไทยและหลายประเทศ ตรงที่ว่าพวกเขามักจะมีสัญญากับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาของตนเอง หรือไม่ก็ทำสัญญากับสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆโดยตรง เพราะความที่จีนเป็นชาติใหญ่ มีประชากรมาก คนมีกำลังซื้อสูง และความต้องการสินค้าก็กำลังมากที่สุด อีกทั้งในแต่ละมณฑลมีเงื่อนไขทางการตลาดและความต้องการบริโภคแตกต่างกันไปอีก ทำให้การทำตลาดไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
เพราะมันไม่ใช่ว่าทำรีวิวสินค้าด้วยพรีเซนเตอร์คนเดียว หรือให้ KOL ช่วยทำ Live แล้วยิงทางออนไลน์แล้วจะได้ผลเสมอไป แต่การทำงานยังต้องการ “ทีมงาน” ทั้งการจัดองค์ประกอบ การทำ Live สำหรับใช้ในช่องทางที่แตกต่างกันบนแพลทฟอร์ม เช่น Tmall Tiktok Xiaohongshu เป็นต้น
การปรับแพลทฟอร์มใหม่ของ Taobao และ Tmall
การปรับหน้าจอแพลทฟอร์มใหม่ ก็เป็นอีกปัจจัยที่มีส่วนช่วยกระตุ้นความ “น่าซื้อ” ในเว็บทั้งสอง เพื่อเพิ่มความสะดวกขึ้นในการหาสินค้าที่ “ตรงจริต” ของผู้ใช้งาน
โดยเฉพาะการนำ A.I. และ Big Data เข้ามาช่วย ด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมการค้นหาข้อมูลของผู้ใช้งาน เพื่อที่จะ “จัดหา” สิ่งที่คิดว่าผู้ใช้งานน่าจะสนใจเอาไว้ให้
ในปีนี้ มีสินค้าเปิดตัวใหม่มากกว่า 2 ล้านชิ้น ที่จะวางขายใน 11.11 และคาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อน
กลยุทธ์การกระจาย QR Code
เรื่องนี้เป็นกลยุทธ์ที่ Tencent ทำได้ดีเหนือกว่า Alibaba เพราะด้วยการใช้งาน WeChat สามารถใช้กลยุทธ์ง่ายๆด้วยการสร้าง QR Code เพื่อเป็น Official Account ขึ้นบนหน้าร้านออนไลน์ของแตละแบรนด์ได้ ซึ่งเราสามารถนำไปใช้เพื่อทำตลาดของแบรนด์สินค้าของเราเองได้ด้วย
ซึ่งกลยุทธ์ที่แบรนด์ต่างๆที่เข้าร่วมนำมาใช้ก็คือการนำตัว QR Code ไปขอติดไว้ตามร้านค้าหรือผ่านช่องทางสื่ออื่นๆ โดยหากใครทำการสแกนเข้ามา ก็จะมีโปรโมชั่น ส่วนลด เพื่อกระตุ้นความสนใจซื้อสินค้าได้ ปัจจุบันวิธีการนี้ถูกนำมาใช้แทบจะทั่วประเทศจีน ซึ่งปรากฏว่าสามารถเพิ่มโอกาสซื้อขายสินค้ากับผู้ติดตามได้มากขึ้น การส่งโปรโมชั่นต่าง ๆ ก็มีความสะดวกรวดเร็ว ทันใจ ผู้ใช้สามารถเอามาตรวจดูหรืออัพเดทเมื่อไรก็ได้นั่นเอง
ซุปเปอร์มาร์เก็ตไร้เงินสด
Hema Supermarket แบบไร้เงินสดที่แรกของจีนในเครือของอาลีบาบา ก็เข้าร่วมโปรโมชั่นสำหรับวันคนโสดด้วย ก็เป็นการเพิ่มช่องทางผสมผสานของการซื้อของในห้างแบบออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน ไม่ใช่แค่ต้องสั่งทางออนไลน์อย่างเดียวเท่านั้น
ในภาพรวมแล้ว กลายเป็นว่า หลังจากโควิด-19 ยอดซื้อของออนไลน์ปีนี้กลับพุ่งกระฉูดที่สุด และน่าจะเดินหน้าสร้างสถิตใหม่ๆหลังจากหมดวันไปแล้วด้วย
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com