การสร้าง Conversion Rate คือหัวใจสำคัญของการทำการตลาดในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน แค่ทำ Awareness หรือได้เพียง Engagement นั้นไม่พออีกต่อไป แต่ต้องมาวัดว่า คนเปลี่ยนมาเป็นแฟนมากน้อยแค่ไหน เปลี่ยนเป็นลูกค้ามากน้อยแค่ไหนหรือเปลี่ยนเป็นคนให้ Active มากน้อยแค่ไหน ทำให้การสร้าง Conversion Rate จากการ Optimise Customer Journey นั้นเป็นส่วนสำคัญ
Website หรือ Landing Page นั้นก็เปรียบเสมือนหน้าบ้าน หรือหน้าร้านในพื้นที่ตัวเอง การมาสามารถสร้าง Conversion Rate บนหน้าเว็บไซต์หรือ Landing Page ของตัวเองได้นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าคุณจะทำการขายสินค้าและบริการออนไลน์ หรือไม่ขาย ก็ควรจะให้การขายหรือการเกิด Conversion Rate นั้นเกิดบนพื้นที่ตัวเอง เหตุผลนั้นเพราะ ถ้าขายสินค้าหรือบริการ คุณไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและได้รับรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือถ้าไม่ได้ขายสินค้าและบริการก็สามารถนำเสนอข้อมูลได้อย่างเต็มที่ และสุดท้ายก็สามารถทำการเก็บข้อมูลลูกค้า สะสม Data ต่าง ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ประโยชน์ได้เองด้วย ดังนั้น เพื่อที่จะสร้าง Conversion Rate ให้ได้มากที่สุด ก็สามารถทำได้ด้วย 12 เคล็ดลับนี้
1. ทำให้คนต้อง Scroll ต่อ เมื่อคนเข้าเว็บไซต์มา คนต้องการเห็นสิ่งที่การต้องการเห็นทันทีก่อน Scroll ถ้าไม่เห็นก็จะเกิดออกจากหน้าเว็บไซต์ทันที ดังนั้นเข้ามาบนหน้าแรกที่โหลดบนเว็บควรจะมี headline ที่นำเสนอ คุณสมบัติที่อธิบายเพิ่มเติม ภาพสินค้าและบริการ และ CTA ที่ให้ Scroll ต่อไป
2. ใช้หลักการ 4Ps โดยการใช้หลักการ 4Ps จะทำให้คุณสำเร็จเพิ่มขึ้นได้ แก่ People ให้คนได้รู้ว่าเราแคร์ปัญหาและมีทางแก้ไข Painpoint คนที่เข้ามา Promise มีภาพที่ทำให้จินตนาการถึงการแก้ไขปัญหาด้วยสินค้าและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา Proof ข้อพิสูจน์ว่าสินค้าและบริการของเราดีจริง ๆ Propose คือการบอกผู้บริโภคว่าจะต้องทำอะไรเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาของตัวเองได้
3. มี Headline ที่ดี headline นั้นเป็นสิ่งแรกที่ผู้บริโภคนั้นจะอ่านกันและเป็นความประทับใจแรก ในเว็บไซต์ GoodMarketingHQ มีการแชร์ถึงวิธีการเขียน Headline ที่ดีคือลองเขียนมาสัก 10 แบบแล้วนำเสนอเพื่อดู แล้วทำการเมินต่อคำแนะนำ รอไปอีก 24 ชั่วโมง และดูว่าอันไหนที่คุณจำได้มากสุด อันนั้นคือดีที่สุด
4. โฟกัสที่ผลประโยชน์ ด้วยการที่ผู้บริโภคนั้นสนใจแต่ตัวเอง การนำเสนอผลประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้เลยแบบง่าย ๆ ไม่ต้องตีความทำให้ผู้บริโภคเข้าใจได้อย่างรวดเร็วและสนใจได้อย่างทันที
5. สนับสนุนด้วย Features เพื่อที่จะสร้างความหนักแน่นของเหตุผลในความสนใจ หรือยืนยันความมั่นใจของสินค้าและบริการในหน้า Landing Page การบอก Feature ไปเลยจะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้นว่าการทำงานของสินค้าและบริการนั้นจะเป็นแบบไหน
6. Social Proof การมี Social Proof เป็นกระบวนการสร้างความมั่นใจทางจิตวิทยาเข้าไป ให้คนได้รู้สึกว่า มีคนใช้เหมือนกัน หรือมีคนดังใช้ หรือคนน่าเชื่อถือมารับรอง ยิ่งใส่มากเท่าไหร่ หรือใส่ในหลาย ๆ ที่ย่อมสร้างความมั่นใจในการที่จะสั่งสินค้าและบริการทันที
7. มีข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ การมีข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้ ย่อมทำให้ผู้บริโภคหรือคนที่เข้ามาเปลี่ยนใจที่จะไม่เอายาก ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าในการใช้สินค้าและบริการ หรือคุณค่าที่ผู้ใช้จะได้รับคุณค่าทางใจและอารมณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา
8. มี CTA ที่ชัดเจน การมี CTA ที่ชัดเจนนั้นจะทำให้ผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามานั้น รู้ว่าจะต้องเดินไปทางไหนต่อถ้ามีความสนใจ ทำให้ CTA นั้นเด่นชัด มีการบอกที่ชัดเจนว่าปุ่มจะทำหน้าที่อะไร และจะเกิดอะไรขึ้นหลัง CTA
9. อย่าให้มีอุปสรรคมาขัดขวาง หลาย ๆ ครั้งการสร้าง Conversion Rate ไม่เกิดขึ้นในขั้นตอนสุดท้าย เพราะเกิดอุปสรรคตรง CTA ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Copy Writing ให้คนฉุดคิด หรือการรู้สึกว่าไม่คุ้มที่จะได้รับสินค้าและบริการที่เกิดขึ้น ทำลายอุปสรรคเหล่านั้นเพื่อให้เกิด Conversion Rate ที่ดีที่สุดขึ้นมา
10. โชว์สินค้าและบริการให้เห็น ผู้บริโภคอยากเห็นว่าสินค้าและบริการของคุณทำงานอย่างไร การแสดงสินค้าและบริการให้เห็นนั้นทำหน้าที่ได้ดีอย่างมาก ๆ ในการที่จะเปลี่ยนคนทั่วไปให้กลายเป็นลูกค้า
11. FAQs การมี FAQs จะช่วยสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา เพราะก่อนจะซื้อสินค้านั้นย่อมมีคำถามอยู่ การมีคำตอบให้คำถามเหล่านั้นก่อนซื้อเลย ทำให้เกิดความมั่นใจในการซื้อได้
12. จับผู้บริโภคให้ตรงกับความสนใจ ผู้บริโภคที่เข้าเว็บไซต์มามีความสนใจที่แตกต่างกัน บางคนมีปัญหาแล้วเข้ามา บางคนยังไม่รู้ปัญหา บางคนรู้ทางแก้ หรือบางคนหาอะไรที่ดีขึ้น การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายตัวเองและสามารถจับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาในแต่ละแบบได้ ย่อมสร้าง Conversion Rate ที่ดีขึ้นมาได้