แบรนด์น้ำหอมอย่าง Chanel, Dior, และ CK ต่างก็มีเคล็ดลับในการทำการตลาดและการลงทุนในการตลาดที่ทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดีกลับมาอย่างมาก การขายสินค้าที่เป็นน้ำหอมนั้น เรียกได้ว่าเป็นการตลาดที่มีความซับซ้อนและเน้นการขายโดยใช้ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก เรียกได้ว่า มีความยากกว่าการขายสินค้าปัจจัย 4 เพราะสินค้าน้ำหอมนั้น ไม่ได้มีความจำเป็นของชีวิต แต่เป็นสินค้าที่ขายเจาะไปยังจิตใจ ความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย ที่อยากให้คนรับรู้ภาพลักษณ์ของตัวเองผ่านน้ำหอมนั้น ๆ ขึ้นมา ซึ่งความสำเร็จของแบรนด์นั้นไม่ได้อยู่ที่ยอดขายอย่างเดียว แต่เป็นการที่แบรนด์สามารถผูกพันทางอารมณ์กับกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาได้ขึ้นมา ดังนั้นกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์น้ำหอม จึงเต็มไปด้วยความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการตลาดได้ทุกแบบ
1. พลังของ Storytelling
แบรนด์น้ำหอมมีความเก่งอย่างมากในการเล่าเรื่อง โดยถ่ายทอดเรื่องราวที่ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและสร้างความผูกพันทางอารมณ์ขึ้นมา ซึ่งน้ำหอมแต่ละกลิ่นมักมาพร้อมกับเรื่องราวที่ปลุกเร้าอารมณ์ ความทรงจำ และความรู้สึกในตัวตนของกลุ่มเป้าหมายขึ้นมา ตัวอย่างเช่น Chanel №5 ไม่ใช่แค่น้ำหอม แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามและความงามที่ไม่เคยเสื่อมถอย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากดาราดังอย่าง Marilyn Monroe ทุกคนอยากรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่พิเศษและมีความหมาย ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกนี้เช่นกัน
2. Sensory Experience
การตลาดของแบรนด์น้ำหอมนั้น เป็นการทำ Sensory Experience เรียกได้ว่าเป็นการใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมด กับกลิ่นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ทรงพลังและการจดจำได้ แบรนด์น้ำหอมมักใช้โฆษณาที่มีภาพที่สวยงามอย่างมาก หรือดูน่าทึ่ง และมีประสบการณ์ในร้านที่น่าดึงดูดกลุ่มเป้าหมายเข้ามา ตัวอย่างเช่น โรงแรม หรือร้านค้าระดับ Luxury มักมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และการตกแต่งที่หรูหราซึ่งสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์ ที่จะทำให้คนจดจำแบรนด์นั้นผ่านกลิ่น และจดจำการตกแต่งโรงแรมและร้านค้า ทำให้เกิดการจำประสบการณ์ที่เข้ามาในโรงแรม หรือร้านค้านั้น ๆ ได้
3. สร้างความ Exclusive และ Scarcity
แบรนด์น้ำหอมมักมีกลยุทธ์ออกสินค้าในรุ่น Limited หรือคอลเลคชันพิเศษ เพื่อสร้างความรู้สึกของความขาดแคลน หรือ Scarity ขึ้นมา และสร้างความรู้สึกของความเป็น Exclusive ที่ได้มาซื้อสินค้า หรือได้ครอบครองสินค้าขึ้นมา กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่กระตุ้นยอดขายได้อย่างทันที แต่ยังเพิ่มมูลค่าของสินค้าในสายตากลุ่มเป้าหมายขึ้นมาด้วย ด้วยการสร้างข้อเสนอในช่วงเวลาจำกัดมีสินค้าพิเศษ หรือการเข้าถึงเฉพาะกลุ่มเท่านั้น ก็สามารถสร้างต้องการสินค้าในแบบที่จะแย้งชิงกัน และเพิ่มความน่าดึงดูดของสินค้าขึ้นมาได้อย่างทันที
4. การมีคนดังรับรอง
ให้นึกถึงแบรนด์ Dior กับน้ำหอม Dior’s Sauvage ที่ได้มี Johnny Depp เป็น Presenter ซึ่งสะท้อนภาพลักษณ์ของน้ำหอมนี้ ถึงความเป็นชายและการผจญภัย การใช้ Influencer และคนดัง หรือดารา นั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก ในการทำการตลาดในตลาดน้ำหอม เพราะมีการมีคนดังเหล่านี้ มาช่วยโปรโมทนั้น สามารถสร้างความสัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์หรือภาพลักษณ์บางอย่างขึ้นมาได้ ทำให้คนมีภาพจำของแบรนด์น้ำหอมกับ Presenter ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดผู้ติดตามของคนดังมายังแบรนด์ได้
5. ความสม่ำเสมอของตัวตนของแบรนด์
แบรนด์น้ำหอมนั้นมีเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอในทุก ๆ Experience ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ไปจนถึงโฆษณาที่ทำออกมา ไปจนถึงประสบการณ์ในร้านที่กลุ่มเป้าหมายเข้าไปใช้บริการ ความสม่ำเสมอนี้ช่วยเกิดการสร้างการจดจำและความไว้วางใจในแบรนด์ขึ้นมาได้อย่างง่ายได้ ตัวอย่างเช่น Packaging ที่เรียบง่ายและสวยงามแบบ Simplecity ของ Jo Malone เป็นที่รู้จักและด้วยความสม่ำเสมอในทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ Jo Malone ทุกอย่างตั้งแต่ Logo ไปจนถึงการทำ Content ลงบน Social Media ก็สะท้อนถึงคุณค่าและบุคลิกของแบรนด์ Jo Malone เอง