หาก Cryptocurrency Exchange จับมือกับโบรคเกอร์สินทรัพย์ในประเทศไทย จะเกิดอะไรขึ้น ?

  • 241
  •  
  •  
  •  
  •  

เกริ่นการลงทุนในประเทศไทยที่ทำได้โดยผ่านตัวกลางในตลาดต่างๆ อย่างที่คนไทยโดยทั่วๆ ไปมักคุ้นชินกันมาก็คงหนีไม่พ้น “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)” หรืออาจจะมีการเทรดหรือซื้อขายทองคำกันบ้างประปราย

ขณะเดียวกันตลาดของ Digital currency ที่ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในตลาดหน้าใหม่ของประเทศไทยที่เพิ่งเป็นที่รู้จักและเปิดเทรดในประเทศในช่วงเพียง 5-6 ปีมานี้เท่านั้น แต่ก็ได้รับความสนใจต่อนักลงทุนในไทยมากพอสมควรแม้จะยังไม่แพร่หลายนัก รวมไปถึงการได้รับความสนใจจากหน่วยงานภาครัฐถึงขนาดมีการออกมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุนในไทยออกมา หรือที่เรียกว่า “พรบ.สินทรัพย์ดิจิทัล” อย่างที่เราพอคุ้นหูคุ้นตากัน

กราฟแสดงมูลค่าของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลโดยรวมที่ได้พุ่งทะลุ $150 Billion ไปเรียบร้อย (ภาพจาก https://coinmarketcap.com/charts/)

สำหรับในส่วนของต่างประเทศนั้น สินทรัพย์ดิจิทัลค่อนข้างได้รับความนิยมในการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว  ชนิดที่ภาครวมของตลาดมีมูลค่าทะยานไปสูงถึง $366,159,300,843 (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2563) เมื่อมีกระแสการซื้อขายที่สูงมากและเรื่องเริ่มมาถึงหูนักลงทุนในไทยส่งผลให้มีการพูดถึงกระสเหรียญเหล่านี้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

ทว่าท่ามกลางความใหม่ของตลาดเหล่านี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงลิบเช่นกัน ทั้งในส่วนของความผันผวนของราคา ทั้งความเสี่ยงในเรื่องของโปรเจคหลอกลวงกินเงินนักลงทุน  หรือพูดกันตรงๆ ก็คือ สำหรับหน้าใหม่การที่จะลงทุนในตลาดนี้ให้รอดก่อนช่วงที่ภาครัฐจะลงมา Take Action จริงจัง   นักลงทุนกลุ่มนี้ถือเป็นเหยื่ออันโอชะของกลุ่มมิจฉาชีพ  ที่ผุดโปรเจคหลอกเอาเงิน จับแพะชนแกะเยอะเป็นดอกเห็ด

เมื่อนักลงทุนประหม่าในความเสี่ยงของการลงทุน เป็นการเปิดช่องให้การใช้บริการโบรคเกอร์เป็นอีกตัวเลือกสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สำหรับในประเทศไทยนั้นจำนวนของนักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลหลักแสนคนต้นๆ  ขณะที่จำนวนของนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้นมีมากถึง 4-5 ล้านคน  จะเห็นได้ว่าตลาดแห่งนี้โอกาสในการเติบโตยังมีอยู่อีกมาก

ด้วยมีนักลงทุนที่ลงทุนอยู่ในตลาดโลกเก่าเช่นตลาดหุ้นของประเทศไทยอยู่แล้วจำนวนมหาศาลแต่เนื่องด้วยความกังวลในเรื่องของ  ความเสี่ยงและมูลค่าความผันผวนในตลาดที่ไม่แน่นอน   ครั้นหากนักลงทุนจะเริ่มศึกษาใหม่จากศูนย์ก็มีความกังวลว่าจะช้าเกินไปสำหรับการลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล  การเลือกใช้บริการรผู้โบรคเกอร์ในการดูแลพอร์ตก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี  เปรียบเสมือนการมีทีมงานและนักลงทุนมืออาชีพเป็นผู้คอยดูแลและบริหารจัดการความเสี่ยงในการลงทุนเหรียญดิจิทัลเหล่านี้มาแล้วเป็นอย่างดี  ทั้งนั้นการเลือกโบรคเกอร์ที่ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ควรเลือกในรายที่มีใบอนุญาต ได้รับการยอมรับ และมีชื่อเสียงจะดีที่สุด

ก้าวที่สำคัญของวงการลงทุนในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทยเองนั้นเมื่อไม่นานมานี้  ก็เพิ่งมีข่าวใหญ่เรื่องการประกาศการจับมือร่วมกันระหว่างเว็บไซต์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังแห่งประเทศไทย Bitkub.com ร่วมกับบริษัทโบรคเกอร์ยักษ์ใหญ่ Trinity ด้วยการเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตของตลาด และเล็งเห็นถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้บริการ เพื่อช่วยให้นักลงทุนไม่พลาดโอกาสทองในการทำกำไร  ด้วยทางบริษัทหลักทรัพย์เองก็เล็งถึงความสำคัญในการแนะนำและคอยดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงคอยให้ความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ให้แก่ลูกค้ารายเก่าและนักลงทุนทั่วไปอีกด้วย

กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ Trinity ที่ประกาศจับมือกับตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชื่อดังของเมืองไทย Bitkub.com

แนวโน้มมูลค่าตลาดที่อาจเพิ่มขึ้นได้อย่างมหาศาล

โดยการร่วมมือระหว่างบริษัทชั้นนำทั้งสองขั้วนี้ถือเป็นการเปิดทางให้นักลงทุนในแบบเดิมๆ มีความมั่นใจยิ่งขึ้นที่ก้าวขาเข้ามาสู่การลงทุนรูปแบบใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น  ที่อย่างน้อยนักลงทุนที่รู้สึกว่ายังใหม่กับตลาดนี้อยู่มากสามารถเข้าไปใช้บริการและมีผู้คอยช่วยให้คำปรึกษาดูแลที่ค่อนข้างคุ้นชิน  ด้วยรูปแบบการบริการมาตรฐานแบบมืออาชีพที่เคยดูแลลูกค้าในตลาดหลักทรัพย์

สำหรับกระแสในอนาคตบริษัทหลักทรัพย์ที่ไหนจะก้าวเข้ามามีบทบาทในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลอีกนั้นก็ต้องคอยติดตามข่าวสารกันต่อไป  แต่สิ่งหนึ่งที่มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นตามมาคือความคึกคักในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเมืองไทยที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากจำนวนผู้เล่นมือฉมังจากตลาดหุ้นที่จะก้าวสู่ตลาดนี้นั่นเอง

 

 

เขียนโดย จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา
Expertise:
  Blockchain & FinTech
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่


  • 241
  •  
  •  
  •  
  •  
Jirayut Srupsrisopa
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ให้กับการทำงานในแวดวงอุตสาหกรรม เทคโนโลยี Cryptocurrency และ Blockchain ก่อนหน้านี้เคยทำงานในฐานะนายธนาคารด้านการลงทุนที่ปรึกษาทางการเงินและนายธนาคารกลาง มีประสบการณ์การเป็นวิทยากรหนึ่งในทีมชั้นนำระดับประเทศ จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ประเทศสหราชอาณาจักร ตอนนี้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ bitkub.com - การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศไทย