ด้วยการที่การตลาดนั้นคือเบื้องหลังที่ทำให้ธุรกิจนั้นขับเคลื่อนและเจริญเติบโตจนใหญ่ขึ้นมาได้ นำพาสินค้า บริการ และแบรนด์มาสู่เบื้องหน้าให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้การวางแผนกลยุทธ์ต่าง ๆ ขึ้นมา การใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการลงมือสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย การปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย และการใช้วิธีการขายต่าง ๆ ด้วยการทำการตลาดที่เชี่ยวชาญนั้นสามารถสร้างการปฏิสัมพันธ์ การดึงดูดลูกค้า การสร้างมุมมองสินค้า บริการและแบรนด์ที่ถูกต้อง หรือที่ต้องการกับลูกค้าได้ และทำให้เกิดการรู้จักแบรนด์ได้อย่างกว้างขวางขึ้นมาได้
แต่มาในทุกวันนี้ การตลาดนั้นไปไกลมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมา ไม่ได้ทำแค่การโปรโมทสินค้าและบริการแล้วจะทำให้คนรู้จักแล้วซื้อได้เลย แต่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวมากมายโดยเฉพาะการทำ Storytelling การสร้างอารมณ์ร่วมระหว่างแบรนด์ สินค้าและบริการกับกลุ่มเป้าหมาย และรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยวิธีการที่นิยมมากที่สุด ในคือการทำ Content ที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายนั้นได้รับสารทางการตลาดที่อยากจะสื่อ จนสามารถกลับมาปฏิสัมพันธ์เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นลูกค้าขึ้นมาได้
ในปี 2024 นี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างมากมาย รวมทั้งกลุ่ม Generation ใหม่ ๆ ที่กำลังกลายเป็น Purchasing Force ในปัจจุบัน ทำให้นักการตลาดและคนวางแผนการตลาดนั้นต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีในการทำ Content ขึ้นมาซึ่งนี้จะเป็นแนวทางในการทำ Content ของปี 2024 นี้
1. โชว์ มากกว่าพูด : ตอนนี้นั้นการทำ Content Marketing นั้นเป็นมากกว่าการที่เล่าเรื่องต่าง ๆ เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ขึ้นมาได้ แต่เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ คุณค่าและการกระทำของแบรนด์กับประสบการณ์ของกลุ่มเป้าหมาย และชีวิตที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่า แบรนด์ที่โชว์ว่าตัวเองทำอะไรมักจะสามารถเชื่อมหรือจับจองพื้นที่ในหัวใจของกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าแบรนด์ที่ออกมาบอกว่าตัวเองเป็นใครได้มากกว่า
ตัวอย่างเช่น RedBull หรือกระทิงแดงในประต่างเทศนั้น ไม่ได้มาเล่าหรือบอกว่าตัวเองเป็นคนที่เก่งและทำเรื่องผาดโผนตื่นเต้น ต่าง ๆ แต่นำเสนอให้เห็นว่าตัวเองมีความผาดโผน ตื่นเต้น และสนับสนุนเรื่องนี้ได้อย่างไร โดยการมีแคมเปญที่กระโดดจากบอลลูนที่สูงกว่า 39,045 เมตร ลงมายังพื้นโลก
การนำเสนอกีฬาที่สร้างความตื่นเต้นต่าง ๆ ของ Redbull นั้น ทำให้เกิดการโชว์และการบอกต่อถึงความเป็นตัวตนของ Redbull ออกมา ทำให้คนที่สนใจเรื่องดังกล่าวกลับมาติดตาม และทำให้เกิดความรู้สึกว่า แบรนด์กล้าท้าทายในความเป็นไปไม่ได้ต่าง ๆ ให้เป็นไปได้ ซึ่งทำให้แตกต่างจากคู่แข่งได้ทันทีโดยการแสดงออกให้เห็นความเป็นแบรนด์ออกมา
2. สร้างแรงบันดาลใจ : ทุก ๆ คนนั้นชอบแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจนั้น เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญอย่างมากที่จะกระตุ้น Passion หรือกระตุ้นให้เกิดความอยากที่จะสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา และทำให้กลุ่มเป้าหมายที่กำลังต้องการแรงบันดาลใจ กับธุรกิจต่าง ๆ สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างมากไม่คาดคิดอีกด้วย ด้วยการใช้แรงบันดาลใจ ใน Content จะสามารถจับความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งขึ้นมาได้
ตัวอย่างเช่น Nike ที่เป็นผู้นำตลาดในรองเท้ากีฬาและชุดกีฬาต่าง ๆ สิ่งที่ Nike นำเสนอตลอดเวลานั้นไม่ได้การบอกให้ทุกคนออกกำลังกาย แต่เป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ด้วยการเอานักกีฬาต่าง ๆ มาเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการที่จะเป็นนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ได้เกิดจากการ ลงมือทำ ไม่ใช่แค่ฝันไปอย่างเดียว ทำให้คนที่อยากประสบความสำเร็จตามนั้นต้องลงมือทำตาม
ด้วยการสื่อสารของ Nike ทำให้สามารถจับความรู้สึกและสร้างแรงบันดาลใจมหาศาล และซื้อสินค้าเพื่อที่อยากจะเป็นตามนักกีฬาที่ตัวเองใฝ่ฝันได้ขึ้นมา และผูกผันทางอารมณ์กับกลุ่มเป้าหมายว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จด้วยการลงมือทำ ก็ต้องเป็นNike
3. UGC หรือ User-Generated Content : เป็นวิธีการที่เรียกได้ว่าที่น่าเชื่อถือในการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายขึ้นมาและสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ขึ้นมาด้วย เพราะด้วยการที่กลุ่มลูกค้าของแบรนด์มาบอกเล่า หรือแนะนำ สินค้าและบริการของแบรนด์คุณขึ้นมาในแง่ดีนั้น ย่อมทำให้เกิด Social Proof ของแบรนด์ขึ้นมาคือกลุ่มเป้าหมายได้ทันที และยังสามารถโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายกลายมาเป็นลูกค้าได้อย่างง่ายดายมากขึ้นได้นั้นเอง
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์เครื่องสำอาง ที่ดารา หรือคนดังใช้ในการแต่งหน้า จะเห็นได้ว่าพอมีการโพสภาพดาราหรือคนดังออกไป จะมีกลุ่มผู้ใช้เครื่องสำอาง ที่ตามหาแบรนด์ที่คนดังและดารานั้นใช้ทันที ทำให้การแนะนำผ่าน UGC นี้ได้ผลอย่างมาก ขึ้นมา