ในวงการธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของประเทศจีนต้องยอมรับว่า ALIBABA คือเบอร์ 1 ที่ต่อสู้กับแบรนด์อื่น ๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน แต่ดูเหมือนว่าในปี 2020 นี้จะต่างออกไปเพราะพวกเขากำลังโดนเปิดเกมรุกอย่างหนักจาก PINDUODUO ซึ่งกลายมาเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่ง รวมถึงยังมีกลุ่มคู่แข่งเดิม เช่น JD, Douyin ต่อกรอยู่ด้วย
เรื่องนี้น่าสนใจและอยากนำมาเล่าสู่กันฟังเพราะเป็นสิ่งที่กำลังถูกตั้งคำถามว่าในปี 2020 นี้ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของจีนใครจะก้าวขึ้นมาเป็นรายใหญ่และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอันดับ 1 จากเดิมที่ ALIBABA เคยนอนมาตลอดมันอาจไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป
ความแข็งแกร่งของ ALIBABA ที่เคยถูกท้าทาย
ในวงการอี-คอมเมิร์ซของประเทศจีนต้องยอมรับว่า ALIBABA มีความแข็งแกร่งในทุก ๆ ด้านทั้งเรื่องระบบจัดการ โครงสร้างธุรกิจ สื่อดิจิตอล และธุรกิจด้านนวัตกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้คือรากฐานที่ช่วยสร้างให้พวกเขาเติบโตอย่างสมบูรณ์แบบ ในอดีต JD.com เคยเป็นคู่แข่งสำคัญของ ALIBABA ซึ่ง JD.com มีแนวทางที่จะเอาชนะด้วยการประกันคุณภาพสินค้าและระบบโลจิสติกส์ที่สร้างขึ้นมาเอง ทว่าท้ายที่สุดมันก็ล้มเหลว
วิเคราะห์การต่อสู้ระหว่าง ALIBABA VS PINDUODUO ในปี 2020
ต้องยอมรับว่าเวลานี้บรรดาธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ในประเทศจีนผุดขึ้นมาเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะในปี 2019 ที่ผ่านมา และถูกคาดการณ์ว่าน่าจะมีการเติบโตออกไปอีกเรื่อย ๆ ซึ่งถ้ามองย้อนไปก่อนหน้านี้ราว 2-3 ปี ALIBABA ยังคงเป็นกลุ่มบริษัทอี-คอมเมิร์ซรายใหญ่ที่มีกำไรและสร้างมูลค่าตลาดได้อย่างโดดเด่น เป็นบริษัทแม่ของ Taobao และ Tmall
อย่างไรก็ตามช่วงก่อนปี 2019 PINDUODUO ได้เริ่มส่งสัญญาเตือนมาให้ ALIBABA ได้รับรู้บ้างแล้ว แต่ทางผู้บริหารกลับมองว่า PINDUODUO น่าจะเน้นขยายตลาดไปยังชนบท และพลาดอย่างหนึ่งที่ไม่ได้วางตำแหน่งของคู่แข่งรายนี้เอาไว้ในจุดที่สูงนัก ซึ่งในปี 2019 กลายเป็นว่า ALIBABA มีโปรเจคใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเพียง 3 โปรเจค ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 โดยในปี 2020 แพลตฟอร์มอย่าง Juhuasuan ซึ่งเป็นแนวทางในการซื้อสินค้าแบบใหม่ โดยอาศัยกลุ่มผู้คนจำนวนมากทำให้ราคาสินค้าถูกลงของพวกเขามีกระแสตอบรับที่น่าพึงพอใจ
PINDUODUO คู่แข่งผู้น่ากลัวที่สุดของ ALIBABA
ต้องยอมรับว่าเวลานี้ความกดดันในการแข่งขันพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ALIBABA มีการเสนอขายหุ้นในตลาดหุ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม และระดมทุนได้ถึง 1.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้มีความน่าสนใจบางประการคือ
- PINDUODUO มียอดขายมากกว่า 1 แสนล้านหยวน / ปี ทั้ง ๆ ที่แพลตฟอร์มขายสินค้าของพวกเขาพึ่งเปิดตัวได้เพียง 2 ปี
- มีผู้ใช้งานเป็นประจำโดยนับถึงเดือนมิถุนายน ปี 2018 สูงถึง 195 ล้านครั้ง
- เพศผู้ใช้งานส่วนใหญ่คือ ผู้หญิงและอาศัยอยู่ในเมืองลำดับชั้น 3+
- คำสั่งซื้อเฉลี่ยของ PINDUODUO คือ 6 ดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Taobao / Tmall 30 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ com 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทั้งนี้จากจำนวนผู้ใช้งานเฉลี่ยรายเดือนอยู่ที่ 366 ล้านราย นั่นจึงทำให้ PINDUODUO กลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ ALIBABA และ JD.com โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมามีการระบุว่ารายได้ไตรมาสที่ 2 ของ PINDUODUO เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า จากมูลค่าตลาดที่สูงถึง 40 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกลายเป็นบริษัทอี-คอมเมิร์ซ ที่มีมูลค่ามากสุดลำดับที่ 5 ของประเทศจีน
สรุปแนวคิด
แม้ว่าคู่แข่งด้านอี-คอมเมิร์ซที่มีความสูสีกับ ALIBABA ในปัจจุบันคือ PINDUODUO แต่สิ่งที่แสดงให้เห็นคือ มูลค่าการซื้อของลูกค้า / ครั้งยังแทบเทียบกันไม่ติด นั่นจึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนอย่างหนึ่งคือ การจะทำธุรกิจแข่งกับยักษ์ใหญ่ในวงการเดียวกันจำเป็นต้องพยายามมองหากลยุทธ์ที่จะเข้ามาต่อสู้ให้ได้ดีที่สุด ใครที่เคยซื้อสินค้าของ PINDUODUO จะรู้ดีว่าพวกเขาเน้นการซื้อในรูปแบบของกลุ่มลูกค้า ซึ่งทำให้มีราคาสินค้าที่ถูกกว่า แต่ทางด้านของ ALIBABA ในฐานะที่เป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจนี้พวกเขาจึงไม่ยอมน้อยหน้าและสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาด้วยเช่นกัน
เมื่อมองมายังกลุ่มธุรกิจในเมืองไทยที่ใครกำลังคิดสร้างตัวเองขึ้นมาแม้จะมียักษ์ใหญ่ในวงการค้ำอยู่ อยากแนะนำให้เริ่มต้นจากการวางแผนและค่อย ๆ เจาะกลุ่มลูกค้าขนาดเล็ก มีการมองกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน กำหนดแนวทางให้ดี จะช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนได้ไม่ยาก
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com