ผลสำรวจโดยหน่วยวิจัยของอาลีบาบาชี้ให้เห็นว่า แม้จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) แต่ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ทั่วประเทศจีนยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อโอกาสทางธุรกิจ
นอกจากนี้ในผลสำรวจชี้ว่า มากกว่าร้อยละ 66 ของผู้ประกอบการ 23,715 รายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดังของอาลีบาบา อันได้แก่ เถาเป่า (Taobao) และทีมอลล์ (Tmall) มีมุมมองเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจในอนาคตช่วงปี 2020 นี้ ถึงแม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างในระยะสั้น ได้แก่
- จำนวนและยอด Order สั่งซื้อของลูกค้าลดลง
- สินค้าบางประเภทลดความจำเป็นในการสั่งซื้อ
- ปัญหาการขนส่งและจัดส่ง
- รายได้ของหลายธุรกิจลดลงมาก
- กระแสเงินสดไม่คล่องตัว
ซึ่งการสำรวจทางออนไลน์ดังกล่าวดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยสถาบันวิจัยอาลี (Ali Research Institute) และศูนย์สำรวจและวิจัยด้านการเงินในครัวเรือนของจีน (China Household Finance Survey and Research Center) ของมหาวิทยาลัยการเงินและเศรษฐศาสตร์แห่งภาคตะวันตกเฉียงใต้ (Southwestern University of Finance) ซึ่งมีการรายงานผลการสำรวจของศูนย์วิจัยหลัวฮั่น (Luohan Academy) ที่ดำเนินการโดยอาลีบาบา มีรายงานว่า
แนวโน้มในการดำเนินธุรกิจและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังประสบปัญหา โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs หรือผู้ประกอบการรายย่อย คือกลุ่มที่มีปัญหาหนักที่สุดในช่วงการระบาดของโควิด-19 และทำให้พวกเขาฟื้นตัวได้ยากที่สุดด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าเครืออาลีบาบา ได้เริ่มคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วว่า สถานการณ์จะกระทบเป็นวงกว้าง แต่ทางอาลีบาบาก็มีรายงานว่าจะไม่ลดตำแหน่งงานลง
หนึ่งในการศึกษาที่น่าสนใจก็คือ นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนนั้น มีความนั้นเชื่อมโยงมากกับการกลับมาทำงานของพนักงาน รวมถึงกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ที่มีจำนวนมากกว่า 170 ล้านคน โดยเฉพาะหลังหมดวันหยุดยาวช่วงตรุษจีน ซึ่งในปีนี้ถือว่ายืดเยื้อนานกว่าปกติ สาเหตุจากความกังวลด้านสุขภาพเป็นหลัก
ในงานวิจัยชี้ว่า การให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมในสถานที่ทำงาน และด้านสุขอนามัย จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจ ที่จะช่วยให้ภาคเศรษฐกิจฟื้นคืน
ส่วนที่น่าสนใจก็คือ อาลีบาบา ได้มีการเปิดเผยความช่วยเหลือที่จะมีต่อกลุ่ม SMEs สองกลุ่มหลัก ทั้งฝ่ายที่เน้นการส่งออกและเน้นการผลิต โดยรายละเอียดของความร่วมมือที่อาลีบาบาจะให้คือ
1.SMEs กลุ่มที่เน้นการผลิต ทางอาลีบาบาตั้งเป้าเปิดสายการผลิตเพิ่มเติม ได้แก่
- การสร้างกลุ่ม Super Producer IP
- ส่งเสริมกลุ่มการผลิตทางดิจิทัลที่มีมูลค่าผลผลิตหลักหมื่นล้านหยวน จำนวน 10 กลุ่ม
- ช่วยเหลือโรงงาน 1,000 แห่ง บรรลุยอดจำหน่ายตรงสู่ผู้บริโภค (D2C) มูลค่าเกิน 100 ล้านหยวนภายใน 3 ปี
- จัดตั้งศูนย์เกษตรกรรมดิจิทัล 1,000 แห่งทั่วประเทศ
2.SMEs ที่เน้นการส่งออก อาลีบาบาจะช่วยด้านการขยายตลาดใหม่ โดยผ่านทางแพลตฟอร์มอนไลน์ต่างๆในเครือ ได้แก่
- AliExpress
- Lazada
- Tmall World
ซึ่งการขยายความร่วมมือนี้จะทำให้ SMEs ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่การทำธุรกรรมผ่านทางแพลทฟอร์มออนไลน์ รวมถึงการจ่ายเงินออนไลน์ และลดขั้นตอนอื่นๆที่ไม่จำเป็นออกไปด้วย
นอกจากนั้น ทางอาลีบาบาจะช่วยลดภาระทางการเงินกับ SMEs โดยมีการขยายบริการชำระเงินจนถึงวันที่ 30 มิ.ย. โดยธนาคารออนไลน์ของ Ant Financial ซึ่งก็เป็นหนึ่งในบริษัทการเงินในเครืออาลีบาบา ที่จะมีการทำงานร่วมกับธนาคารอีกหลายร้อยแห่ง เพื่อปล่อยสินเชื่อแบบไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันให้ SMEs อีกจำนวนมาก
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งการพลิกวิกฤตเป็นโอกาสของทางอาลีบาบาในการร่วมโครงการกับ SMEs ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งต้องอัพเดทกันต่อไป
เขียนโดย อิทธิชัย อรรถกระวีสุนทร
Expertise: China Marketing
อ่านบทความ Exclusive เพิ่มเติมได้ที่นี่
Copyright © MarketingOops.com