การทำการสื่อสารตลาดนั้น การเล่าเรื่อง (Storytelling) นั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเล่าเรื่องนั้นถูกปลูกฝังอยู่ในสัญชาตญาณของตัวมนุษย์มานานแสนนาน อยู่คู่กับอารยธรรมของมนุษย์มาเนิ่นนานอย่างมาก ซึ่งการเล่าเรื่องนั้น ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าในความสนุก การสอน หรือวรรณกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดเพื่อการเจรจาต่อรอง หรือแม้กระทั่งการขายสินค้าและบริการเองก็ตาม ทั้งนี้การเล่าเรื่องเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการสื่อสารการตลาด เพื่อที่จะดึงความสนใจของผู้บริโภคมาให้ได้ และทำให้สื่อที่กำลังสื่อสารออกไปจับความสนใจ จนเปลี่ยนมาซื้อสินค้าได้
ยิ่งในยุคนี้ที่เทคโนโลยีนั้นมีการพัฒนาอย่างมาก จนมี AI หรือ artificial intelligence ทำให้การทำการเล่าเรื่องหรือ Storytelling สามารถพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการที่ใช้เครื่องมืออย่าง AI ที่มีพลังในการที่จะคำนวนและสร้างสรรค์วิธีการที่จะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย และเรียนรู้กับเข้าใจการทำงานของแต่ละ Platform ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้ AI นี้ก้าวมามีบทบาทอย่างมากในองค์กร และทำให้ในอนาคตคนที่สามารถใช้ AI ในการทำ Content ได้ จะสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งธุรกิจที่สามารถใช้ AI มาช่วยงานต่าง ๆ ได้เร็วมากขึ้นแค่ไหน ยิ่งทำให้องค์กรนั้นสามารถเคลื่อนตัวและนำหน้าคู่แข่งได้มากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังสามารถลดรายจ่ายต่าง ๆ เพราะสามารถใช้ทีมงานน้อยลงในการทำงานได้ด้วยการใช้ AI ทำงานแทน
ในบทความนี้จะพาไปรู้จักเครื่องมือที่ AI ที่จะมาช่วยทำ Storytelling ที่บริษัทใหญ่ ๆ ในต่างประเทศใช้กัน เครื่องมือเหล่านี้จะสามารถสร้างสรรค์ Storytelling ที่สามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้และทำให้ธุรกิจมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ เพราะการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เนื่องด้วย AI หลาย ๆ ตัวพัฒนามาจากต่างประเทศ การใช้ในภาษาไทย อาจจะต้องมีบรรณาธิการที่คอยช่วยตรวจทานและตรวจสอบเนื้อหาว่าใช้ได้ไหมอีกด้วย
1. NovelAI (https://novelai.net/) เป็น AI ที่ช่วยนักประพันธ์วรรรกรรม การเล่าเรื่อง หรือเป็นเพื่อนที่จะมาช่วยคุณคุย คุณคิด ด้วยการที่มี GPT เป็นขุมพลังในการประมวลผลอยู่ด้านหลังบริการ โดยมีค่าบริการที่คิดเป็นรายเดือน
NovelAI สามารถช่วยสร้างเรื่องราวตามที่คุณต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวโรแมนติก หรือเรื่องราวสนุก ๆ ตลก ๆ นอกจากนี้ยังสร้างภาพตัวละครเนื้อเรื่อง หรืออยากปรับเนื้อเรื่องให้ตรงกับ เนื้อหาหรือนิยายดัง ๆ เล่มไหนก็ได้เลย
2. Charisma (https://charisma.ai/) เป็น AI อีกตัวที่มีความเป็นมนุษย์อยู่ในตัว โดยการเล่าเรื่องที่จะมีการเข้าถึงประสบการณ์ หรือให้ผู้อ่านได้รับประสบการณ์แบบ immersive experience ทำให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ มากขึ้น เบื้องหลังของ Charisma คือ AI ที่มีความเป็นตัวละคร และถูกนำไปใช้ในการสร้าง NPC ใน Metaverse และเกมต่าง ๆ
หาคุณต้องการการเล่าเรื่องแบบที่มีอารมณ์เกี่ยวข้อง Charisma จะสามารถตอบโจทย์ได้ทันที เพราะจะทำตัวเป็นตัวละครที่สื่อสารกลับได้ด้วย
3. Sassbook AI (https://sassbook.com/ai-story-writer) เป็น AI ที่ทำหน้าที่ Story Generator ที่จะมาทำหน้าที่การเล่าเรื่องสินค้าและบริการของคุณด้วยการใช้ AI นี้เป็นจุดเริ่มต้น ข้อดีของการใช้ Sassbook AI คือ มีตัวเลือกมากมายของการเล่าเรื่องที่ออกมาว่า คุณอยากได้ความสร้างสรรค์ระดับไหน หรือสามารถใส่สไตล์ของแบรนด์หรือผู้เขียนลงไป หรือจะใส่ genre ที่ชอบก็ได้
4. Friday AI (https://www.heyfriday.ai/home) ตามชื่อ AI เลยตัว ฟรายเดย์ คือ AI ที่แต่งเนื้อหาง่าย ๆ สบาย ๆ เหมือนวันศุกร์ที่คนจะเลิกงาน โดย AI ตัวนี้จะสามารถช่วยในการที่จะทำงานตั้งแต่ทำ producing brief ads, blog posts หรือบทความง่าย ๆ แถมยังเข้าใจเรื่อง SEO อีกด้วย มีขั้นตอนง่าย ๆ ให้คุณทำตาม และใส่ข้อมูลที่ AI ต้องการลงไป ก็จะผลิตเนื้อหาทางการตลาดที่คุณต้องการได้เลย ทั้งนี้ด้วยการใช้เครื่องมือนี้จะสามารถทำให้คุณได้เนื้อหาที่รวดเร็วขึ้นมาได้เลย
5. Tome (https://tome.app/) เป็น AI ที่ช่วยทำการเล่าเรื่องแบบ narrative ในรูปแบบการเล่าเรื่องที่ผู้ใช้ต้องการ และปรับแต่งเนื้อหาจนได้ตามที่ต้องการได้ ซึ่งการใช้ Tome จะสามารถได้การเล่าเรื่องที่ดีได้จากการให้ข้อมูลที่สามารถเข้าใจได้ง่าย มี insight ที่ต้องการ และทาง AI จะเอาความง่ายในการเล่าเรื่องนั้นมาปรุงแต่งให้มีความน่าสนใจขึ้นมาได้ทันที