เมื่อ Digital มาถึงยุคหุ่นยนต์ คนต้องรู้จักทำงานร่วมกับเครื่องจักรเพื่ออยู่รอด

  • 82
  •  
  •  
  •  
  •  

ในช่วงปีที่ผ่านมานี้นักการตลาดหรือคนทำงานในด้านธุรกิจหลาย ๆ คนนั้นได้ยินเรื่องปัญญาประดิษฐ์หรือ Artificial Intelligence (A.I.) กันมาอย่างมากมาย และหลาย ๆ คนนั้นก็กลัวว่าอนาคตนั้นตัวเองจะต้องตกงานเพราะถูกหุ่นยนต์นี้มาแย่งงานทำไป แต่ในความจริงแล้วมันคือเรื่องของการปรับตัวแค่นั้น อนาคตของการทำ Digital เริ่มแน่ชัดแล้วว่าจะเข้าสู่หนทางของการทำอะไรที่หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรจะเข้ามามาดูแลมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามกำลังคนที่มีความสามารถที่จะทำงานร่วมกับเครื่องจักรนี้ยังจำเป็นอยู่เพื่อทำงานให้มีมุมมองหลากหลายมากขึ้น ซึ่งคนทำงานนั้นถ้ารู้จักปรับตัวก็จะสามารถอยู่รอดได้ในอนาคตที่เครื่องจักรทำงานและตัดสินใจมากขึ้น หุ่นยนต์หรือเครื่องจักรนั้นไม่ได้มาแย่งงานของมนุษย์ที่ทำงานแต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่งคือหุ่นยนต์นั้นมาช่วยทำงานให้เรานั้นสบายขึ้น

Screen Shot 2559-09-05 at 6.18.11 PM

Screen Shot 2559-09-05 at 6.18.17 PM

การทำงานของหุ่นยนต์และเครื่องจักรนั้นจำเป้นต้องมีมนุษย์หรือคนทำงานที่ทำงานร่วมกับหุ่นยนต์นั้น ๆ เพราะหุ่นยนต์ยังต้องการการเรียนรู้และต้องการคนที่เก่ง ๆ มาถามคำถามที่ดี แก้ปัญหาที่ถูกจุดได้อย่างสร้างสรรค์ และทำการบริหารจัดการข้อมูล การมาของหุ่นยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องของการมาทำงานแทนที่มนุษย์ แต่เป็นการมาทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อให้การทำงานนั้นมีความรวดเร็วขึ้นและทำธุรกิจให้ฉลาดขึ้น สำหรับคนทำงานแล้วนี่คือการปรับตัวให้อยู่เหนือคลื่นของกระแสเทคโนโลยีที่กำลังมา เพราะถ้าไม่ปรับตัวก็จะถูกกระแสคลื่นนี้กลืนกินอย่างเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต ไม่ใช่แค่เรื่องว่าใครจะเร็วกว่าหรือถูกกว่า แต่เป็นเรื่องของการพัฒนาความสามารถที่เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์ที่หุ่นยนต์ยังไม่สามารถทำได้ในตอนนี้ เช่นการคิดบูรณาการในการแก้ไขปัญหา การคิดค้นนวัตกรรม ความเอาใจใส่ต่าง ๆ และการดูแลแบบปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ คนทำงานนั้นต้องโฟกัสในงานที่หุ่นยนต์นั้นทำไม่ได้หรือยังไม่มีไหวพริบในการแก้ไขสถานการณ์แบบมนุษย์ ทั้งนี้องค์กรนั้นจะเอาความสามารถและข้อดีของหุ่นยนต์และมนุษย์มาทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ผลที่ดีขึ้นได้อย่างไร วันนี้เรามี 5 หลักการที่องค์กรและคนทำงานนั้นสามารถใช้ได้ในยุคของหุ่นยนต์นี้

  1. ใช้หุ่นยนต์มาสร้างพนักงานให้เก่งขึ้น : บริษัทใหญ่ ๆ ที่เป็นผู้นำในธุรกิจโลกนั้นกำลังเพิ่มความสามารถในวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลความสามารถพนักงานและจะพัฒนาความสามารถกับความเป็นอยู่ของพนักงานนั้นให้ดีขึ้นได้อย่างไร ทาง Google และ Best Buy นั้นเริ่มต้นใช้เครื่องจักรนั้นวิเคราะห์ว่าจะทำอย่างไรให้พนักงานได้ทำผลงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และวิเคราะห์ว่าจะรักษาหรือดูแลพนักงานที่อยู่ในระดับที่เก่ง ๆ ได้อย่างไร ด้วยการใช้เครื่องมือพวกนี้ยังสามารถติดตามเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ในที่ทำงานอีดด้วย เช่นการใช้ข้อมูลสุขภาพมาคำนวน ROI (return on investment) ว่าพนักงานมีอัตราการป่วยหรือลางานแค่ไหน เพราะยิ่งลดการป่วยหรือการไปหาหมอลง ยิ่งทำให้ต้นทุนของธุรกิจและผลผลิตการทำงานเพิ่มขึ้นเท่านั้น
  2. ใช้วิเคราะห์ความสุขพนักงาน : ความสุขในการทำงานของพนักงานหรือความทุกข์ในการทำงานของพนักงานนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เคยถูกวิเคราะห์และปิดบังไว้ในการองค์กรหรือบริษัทที่ทำงาน การใช้เครื่องมือเหล่านี้วิเคราะห์พฤติกรรมของพนักงานผ่านทางเครื่องมือที่พนักงานทำงานอย่างมือถือหรืออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรและส่งผลต่อการทำงานแค่ไหน เช่นตัวอย่างของ ธนาคารในอเมริกาที่ใช้ข้อมูลเซนเซอร์ในการทำความเข้าใจประสิทธิภาพของพนักงานให้ดีขึ้น และค้นพบว่าพนักงาน Call Center นั้นจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้นเมื่อมีเวลาคุยกันระหว่างพนักงานหรือเพื่อนในช่วงพักเที่ยง ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพกว่า 23% เลยทีเดียว
  3. สร้างสถานที่ทำงานอัจฉิรยะ : การเกิดขึ้นของสถานที่ทำงานอัจฉิรยะนั้นกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นสถานที่ทำงานที่สามรรถตรวจดูว่าสิ่งแวดล้อมที่ทำงานเป็นอย่างไร บรรยากาศในที่ทำงาน ความต้องการต่าง ๆ ของพนักงาน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีที่สุดออกมา
  4. สร้างการทำงานระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ใหม่ : ด้วยการใช้เครื่องจักรมาช่วยทำงาน จะทำให้พนักงานเก่ง ๆ นั้นสามารถทำงานอื่น ๆ ได้มากขึ้นเพราะมีผู้ช่วยที่เป็นหุ่นยนต์มาทำงานให้ ทำให้ระบบต่าง ๆ สามารถทำงานได้ดีและคล่องตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำให้งานนั้นมีความละเอียดแม่นยำมากขึ้นเพราะได้เครื่องมือที่สามารถมาคิดวิเคราะห์ในเรื่องละเอียด ๆ อย่างเช่นข้อมูลจำนวนมากได้
  5. ทำให้บริษัทปรับตัวให้เหมาะสม : หลาย ๆ องค์กรนั้นกลัวการปรับตัวที่ไม่ทันและจะถูกทิ้งไว้ด้านหลังของการเปลี่ยนแปลง แต่บางทีการปรับตัวที่เร็วเกินไปนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะทำลายบริษัทได้เพราะทำให้คนไม่สามารถปรับตัวได้ทันการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไป ด้วยการใช้เครื่องจักรหรือหุ่นยนต์นี้ สามารถทำให้วิเคราะห์ได้ว่าบริษัทนั้นควรจะทำอะไร ด้วยความเร็วแค่ไหนได้ หรือจะปรับตัวไปไหนทิศทางไหนก็ได้ด้วย ทำให้พนักงานนั้นสามารถปรับตัวได้อย่างพอดีกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น

แน่นอนว่ายุคหน้านั้นหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์แน่ ๆ และเราคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนทำงานนั้นคงต้องหาทางที่จะต้องทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ โดยมาว่าเราจะมีคนมาช่วยงานมากขึ้น และถ้ามองอีกมุมหนึ่งคือการได้หุ่นยนต์มาช่วยทำงานนั้นจะทำให้งานของเรานั้นดีขึ้นอย่างแน่นอน

httpv://www.youtube.com/watch?v=tjrZQIcU4aQ


  • 82
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ