เมื่อตอนช่วง Cannes Lions International Festival of Creativity ผมได้มีโอกาสมาเล่าให้ฟังถึงเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งที่เป็นหัวข้อที่พูดถึงกันมากมายในช่วงนั้นทั้งจาก Agency, Brand และบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ในเรื่อง VR หรือ Virtual Realtity ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีใช้กันมาอย่างนาน แต่ด้วยความที่เทคโนโลยียังมีราคาแพงในสมัยนั้นและยังไม่รู้ว่าจะพัฒนามาเป็นอะไรต่อไป ในสมัยนี้วัตถุประสงค์และการใช้งานของ VR นั้นสามารถมาประยุกต์ใช้ได้หลาย ๆ อย่างแล้ว
มูลค่าของตลาด VR ทั้ง Hardware, Content และ Software รวมกันจะมีมูลค่ามากกว่า 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในปี 2020 ทำให้ในจำนวนอุปกรณ์ VR และเรื่อง Content VR นั้นเพิ่มขึ้นอย่างมากมายจากช่วง Cannes Lions ที่ผ่านมาและการแข่งขันทางด้าน VR ของหลาย ๆ บริษัททำให้รูปแบบ VR นั้นสามารถก้าวไปไกลอย่างมากในด้านทั้งความบันเทิงในบ้าน การศึกษา และทำการตลาด และยิ่งนับวันก็ยิ่งมีการสร้างอุปกรณ์เสริมมากมาย เพื่อให้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ในโลก VR ได้เพิ่มเติมนอกจากแค่เข้าไปรับชมประสบการณ์ในนั้น ทำให้ประสบการณ์ที่แค่ได้แค่เห็นจากดวงตาหรือใช้การมองในการสั่งการ จะสามารถสั่งการผ่านการสัมผัส และการออกแรงต่าง ๆ ได้ด้วย ทำให้ความน่าสนใจของ VR นั้นมีมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา ด้วย VR มีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าในอดีตมาก ทำให้หลาย ๆ แบรนด์และผู้ผลิต Content ต่างเดิมพันที่จะลองสร้าง Content ต่าง ๆ ลงไปในโลก VR และแสดงให้ผู้บริโภคเห็นความน่าสนใจของแบรนด์ตัวเองหรือการได้รับประสบการณ์จากแบรนด์มากขึ้นผ่านประสบการณ์เสมือนนี้
httpv://www.youtube.com/watch?v=pr0JnKtl7FY
แม้ว่าหลาย ๆ แบรนด์จะมีท่าทีสนใจ แต่ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์เช่นที่กล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะทำการตลาดในตรงนี้เพราะปัญหาที่ยังมองไม่เห้นว่าจะสามารถสร้างความสำเร็จผ่าน VR ได้อย่างไร หรือ VR จะสร้างประสบการณ์ให้คนพร้อม ๆ กันได้อย่างไร เพราะด้วยข้อจำกัดทางด้านอุปกรณ์ที่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ง่าย และบริษัทที่จะสามารถสร้าง Content หรือเรื่องราวเหล่านี้ได้ และความใหม่ที่เหล่านักการสื่อสารทางการตลาดต้องกลับมาคิดว่าจะสร้างเรื่องราวที่ให้ประสบการณ์เสมือนแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยโจทย์ที่ว่านี้ทำให้กลุ่มแบรนด์ที่สนใจนั้นต่างหาทางแก้โจทย์กัน วิธีการแก้ปัญหาของโจทย์นี้ในหลาย ๆ แบรนด์ใช้วิธีการเดียวกับ Google ที่ทำนั้นคือการแจก Google Cardboard เพื่อให้คนนั้นเข้าถึงอุปกรณ์ที่จะใช้ในการดู Content นั้นได้ด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วได้อย่างเช่นมือถือตัวเอง และเข้าถึง Content ต่าง ๆ ที่แบรนด์นั้นเตรียมไว้ให้ อย่างเช่นหนังสือพิมพ์ NewYork Times ที่ได้แจกตัว VR Cardboard นี้ให้กับคนที่รับหนังสือพิมพ์ของตัวเอง เพื่อให้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่ NewYork times เตรียมไว้ ซึ่งเป็นการเอาเรื่องเด็กที่หนีภัยสงครามมาทำเป็นภาพยนตร์ VR ทำให้ผู้บริโภคต่างสามารถมีประสบการณ์ส่วนตัวด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่บ้านได้
แต่ด้วยโจทย์ที่เป็นอุปกรณ์นี้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ยากอยู่ในการทำ ก็ยังมีอีกโจทย์คือการเข้าถึง content นั้น ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปดูเนื้อหานั้น ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสนใจเนื้อหาดังกล่าว นอกจากนี้หลังจากดูเนื้อหานั้นแล้ว ถ้าไม่สามารถส่งต่อหรือดึงให้มี Call To Action นั้นไปต่อได้ ด้วยสาเหตุนี้ยังเป็นเรื่องที่ต้องคิดว่าจะสร้างประสบการณ์ในรูปแบบที่เรียกว่า immersive ที่ทำให้แต่ละคนนั้นเข้าไปอยู่ในสถานที่เสมือนนั้นได้อย่างไร และได้รับประสบการณ์ดังกล่าวให้ง่ายที่สุด ทั้งนี้ด้วยโจทย์นี้เองทำให้มีกลุ่ม Startups คนไทยใน Silicon Valley ที่เข้าใจเรื่องดังกล่าวและได้ออกมาแก้ไขปัญหาโจทย์นี้ให้กับนักการตลาดนั้นเอง โดยกลุ่ม Startups นี้เป็นสาย Startups ที่อยู่ในกลุ่ม Adtech ที่ทำเรื่องเทคโนโลยีด้านการโฆษณาต่าง ๆ ให้กับนักการตลาดที่สนใจในแนวทางใหม่ ๆ ซึ่งชื่อบริษัทนี้คือ AdsOptimal และกำลังมาแรงในกลุ่ม Adtech ที่สหรัฐอเมริกา
ผมได้รู้จักบริษัท AdsOptimal ครั้งแรกจากการที่ทีมงานส่วนหนึ่งเป็นผู้ชนะจากงานของ Microsoft Imagine Cup เมื่อนานมากแล้ว มาก่อตั้งบริษัทนี้ และทางคุณเอ วรวิสุทธิ์นั้นแนะนำให้รู้จักกันอีกรอบในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคุณเอได้ส่งจดหมายแนะนำและเอกสารต่าง ๆ มาเล่าให้ฟังว่า AdsOptimal นั้นแก้ปัญหาทางการตลาด VR ได้อย่างไร ซึ่งทาง AdsOptimals นั้นได้ใช้หลักการทาง Immersive Experience นี้เข้าไปผูกกับเรื่อง Native Advertising ทำให้เมื่อผู้บริโภคนั้นกด Content ที่เล่นอยู่ไม่ว่าจะเป็น Banner หรือ Video Content นั้นจะเข้าสู่โลกของ VR ได้ทันที ซึ่งทางทีม AdsOptimal นั้นเคลมว่าด้วยการทำการตลาดผ่าน VR นี้สามารถทำให้ CTR นั้นมีอัตราสูงขึ้นจาก 0.3% ในแบบเดิมมาเป็น 3.1% ในแบบ VR นี้ และข้อดีอีกอย่างของ AdsOptimal นั้นยังสามารถใช้ระบบ Ad Network ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องผูกติดกับ Platform ใด platform หนึ่ง ระบบของ AdsOptimal นี้ยังมีเป็นพัน ๆ ล้าน Impression ที่ตอบสนองความต้องการของนักการตลาดได้ทันที
ด้วยช้อจำกัดของ VR ที่มีมา การใช้ระบบของ AdsOptimal นั้นจึงมีความน่าสนใจในการใช้งานและทดลองดูความเป็นไปของตลาดหรือสามารถสร้างชื่อได้ว่าเป็นแบรนด์ที่สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เพิ่มขึ้นไปอีก หรือจะสามารถลองใช้ VR ในรูปแบบปกติเพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานที่สามารถสร้างประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกแบบก็ได้