คำสื่อสารนั้นมีพลัง เพราะคำสื่อสารไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่มนุษย์สื่อสารกันและสามารถสร้างชีวิตให้กับธุรกิจของแบรนด์ขึ้นมาได้ หลาย ๆ ครั้ง หลายๆ แบรนด์ถึงไม่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารของตัวเอง โดยทุกอย่างอาจจะดูดีจากภายนอก มีภาพลักษณ์ที่ดี แต่ในความเป็นจริงแล้วภาพลักษณ์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ เพราะคำพูดคือสิ่งสำคัญ โดยข้อความของแบรนด์ที่จะเข้าไปอยู่ในใจของกลุ่มเป้าหมายได้
คำสื่อสารเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนถึงความยั่งยืนของธุรกิจ นี่คือจุดที่เกิดการเติบของแบรนด์ขึ้น การใช้คำสื่อสารในการสร้างแนวคิดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายได้
วิธีการสร้างข้อความที่สื่อสารตัวตนของแบรนด์
การสื่อสารธุรกิจผ่านคำสื่อสารนั้นเริ่มต้นจากการระบุแนวคิดหลักและเป้าหมายอย่างชัดเจน ใช้ภาษาเชิงพลังเพื่อบอกเล่าเรื่องราวและสร้างภาพที่ชัดเจนให้กับแบรนด์ นี่คือขั้นตอนที่สามารถใช้ในการพัฒนาข้อความให้สื่อสารตรงใจลูกค้า:
- เริ่มต้นด้วยการโครงสร้างปัญหาที่คุณจะแก้ไข : ลองนึกถึงมุมมองของลูกค้า ปัญหาของพวกเขาคืออะไร? การแก้ปัญหานี้มีความสำคัญต่อพวกเขาอย่างไร? ยิ่งคุณใช้เวลาในการทำความเข้าใจและกำหนดปัญหามากเท่าไร โซลูชันของคุณก็จะยิ่งชัดเจนและเข้าถึงใจลูกค้ามากขึ้น
ให้ถามคำถามเหล่านี้:
- ลูกค้าคือใคร? (กลุ่มเป้าหมาย)
- แบรนด์ให้บริการอะไร? (Solution)
- อะไรที่ทำให้ธุรกิจแตกต่าง? (unique value)
เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถกำหนดข้อความพันธกิจของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลังจากนั้นคุณสามารถสร้างคำที่บอกเล่าเรื่องราวเพื่อเชื่อมโยงกับผู้ฟังได้
- สร้างข้อความแบบ elevator pitch : ต้องสามารถอธิบายธุรกิจได้อย่างกระชับและน่าสนใจ ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจภาพรวมได้อย่างรวดเร็วชัดเจน คิดถึงจุดเด่นของแบรนด์และใช้คำพูดที่สามารถสร้างความสงสัยหรือความอยากรู้ ตัวอย่างเช่น:
- Google: “To organize the world’s information and make it universally accessible and useful” คำว่า world’s information และ universally accessible ทำให้เกิดการเชื่อมโยงที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ไม่เคยรู้จัก Google มาก่อน
- HubSpot: “Helping millions of organizations grow better” คำว่า grow better เป็นเป้าหมายที่ชัดเจนในตลาดการตลาด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือผลลัพธ์
- Target: “To help all families discover the joy of everyday life” คำว่า families และ joy of everyday life สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะสร้างประสบการณ์ที่อบอุ่นและมีความสุขให้กับครอบครัว
การเลือกใช้คำที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรมจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงที่ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น:
- เทคโนโลยี/ซอฟต์แวร์: ใช้คำว่า Innovative, Streamline, Efficient, AI-powered ซึ่งสะท้อนถึงความก้าวหน้าและความทันสมัย
- ค้าปลีก: คำว่า Curate, Personalize, Convenient, Inspire ซึ่งช่วยให้แบรนด์ดูเป็นมิตรและเน้นประสบการณ์ของลูกค้า
- ธุรกิจที่ให้บริการ: ใช้คำว่า Personalized, Expert, Reliable, Support, Assist ซึ่งสะท้อนถึงความเอาใจใส่และความน่าเชื่อถือ
บทสรุป
จำไว้ว่า ทุกคำที่เลือกใช้มีพลังในการสร้างการเชื่อมโยงกับลูกค้าหรือทำให้เกิดความรู้สึกเฉยๆ เป้าหมายคือการทำให้คำพูดเหล่านั้นสื่อสารและสะท้อนตัวตนของแบรนด์อย่างแท้จริง ด้วยการใช้คำที่เหมาะสมและเข้าใจความต้องการของลูกค้า ก็จะสามารถทำให้แบรนด์โดดเด่นและน่าจดจำ