การทำเว็บไซต์นั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งในการทำการตลาด Digital Marketing ที่คุ้นเคยกันดี เพราะเรียกได้ว่าเป็นหน้าร้านสำนักงานใหญ่เลยทีเดียว ที่จะทำให้คนเข้ามาค้นหาข้อมูล หรือเข้ามาซื้อของต่าง ๆ และเจอหน้าเว็บไซต์ได้นี้ได้ผ่านการค้นหาเวลาที่มีปัญหา หรือเวลาต้องการสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา การทำเว็บไซต์ให้ดีจึงมีส่วนสำคัญอย่างมาก และหลาย ๆ ที่ชอบทำเว็บไซต์ขึ้นไปเพื่อเทสระบบต่าง ๆ ด้วยการใช้เว็บไซต์ที่ยังไม่เสร็จดีซึ่งมีผลหลาย ๆ อย่างต่อคนที่เข้ามาที่เว็บไซต์
การทดสอบเว็บไซต์นั้นเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการที่จะรู้ว่าเว็บไซต์นั้นทำงานได้ตามที่ต้องการหรือไม่ การทดสอบเว็บไซต์หลาย ๆครั้งนั้นหลาย ๆ คนมักจะอบเอาดีไซน์ขึ้นไปก่อนโดยไม่มีเนื้อหาอะไรหรือใช้เนื้อหาที่ mock up ที่เป็น Default ของการดีไซน์นั้นคือ Lorem Ipsum ซึ่ง Lorem Ipsum นี้เป็น dummy word ที่ใช้กันบ่อยเมื่อ content นั้นยังไม่มี และใส่เพื่อให้ลูกค้านั้นเห็นว่าดีไซน์และเนื้อหาที่จะวางนั้นอยู่ตรงไหนและเป็นอย่างไร เพื่อให้เวลาขายงานกับคนที่จ้างออกแบบนั้นสามารถซื้องานได้ง่ายขึ้น Lorem Ipsum นี้ถูกใช้มาตั้งแต่ยุคสิ่งพิมพ์เลยทีเดียว เรียกได้ว่าตั้งแต่ปี 1500 ขึ้นมาได้ และอยู่ในวงการดีไซน์จนมาถึงยุคเทคโนโลยีเช่นนี้
ปัญหาของการใช้ Lorem Ipsum คืออะไร หลาย ๆ คนอาจจะมองไม่เป็นปัญหาอะไรในการใช้งาน แต่จริง ๆ แล้ว คุณจะดีไซน์งานได้อย่างไร ถ้าคุณไม่ได้เข้าใจมันว่ากำลังดีไซน์เพื่อใส่ข้อความอะไรลงไป คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าข้อความที่ลงไปนั้นจะสามารถสร้างประสบการณืที่ดีต่อคนใช้งาน และทำให้การใช้งานนั้นดีขึ้นมาได้ การใช้ Lorem Ipsumลงไปในงานดีไซน์นั้นเหมือนการออกเดินทางลงไปในทะเลโดยไม่มีแผนที่หรืออะไรนำทางเลย ซึ่งทำให้ยากต่อกการที่จะเจอทางที่ถูกต้องได้ ซึ่งเมื่อใช้ Lorem Ipsum ที่เป็น Mock up word ลงไปในดีไซน์ เป็นการยากของคนที่จะมาตัดสินดีไซน์แล้วว่ามันดีหรือไม่ดี เพราะไม่ได้รู้ว่าจะมีเนื้อหาอะไรตรงนั้น หรือเนื้อหาตรงนั้นจะแสดงออกซึ่งประสบการณ์อย่างไร ทำให้คนอ่านนั้นไม่เห็นภาพและตัดสินใจในการที่จะให้ความเห็นต่าง ๆ ได้ยากขึ้นทันที
สิ่งหนึ่งที่เกิดปัญหาจากการใช้งาน Lorem Ipsum คือการดีไซน์ด้วย Lorem Ipsum ไม่ได้สะท้อนการดีไซน์จริง ๆ ขึ้นมาด้วย เพราะยุคนี้ไม่ได้มีใครเข้าใจหรือรู้ภาษาลาตินอีกแล้ว ทำให้เวลาใช้ Lorem Ipsum ขึ้นมา คนดีไซน์มักจะตัดคำ Lorem Ipsum ให้พอดีและดูสวยงามในงานดีไซน์ออกมา แต่ในความเป็นจริงเมื่อเจอเนื้อหาจริง ๆ ใส่เข้าไปทำให้การออกแบบนั้นไม่ได้ผลกับเนื้อหาที่ต้องใส่เข้าไป สิ่งที่คนดีไซน์ต้องแก้นั้นมีอยู่ 2 ทางคือแก้ดีไซน์ให้ตรงกับเนื้อหา หรือแก้เนื้อหาให้ตรงกับดีไซน์ ซึ่งทำให้งานนั้นยากเข้าไปอีก แต่ถ้าเราใช้เนื้อหาจริง ๆ มาดีไซน์ก็จะพบว่าไม่เกิดปัญหาดังนี้ เพราะดีไซน์เนอร์ต้องออกแบบเพื่อให้ตรงกับเนื้อหาที่ต้องใส่จริง ๆ และทำให้เนื้อหานั้นอยู่ในดีไซน์ที่พอดีต่อการอ่านมากขึ้นมาอีก
วิธีการแก้ปัญหานี้ง่ายมาก นั้นคือการใช้ Content จริง ๆ ใส่เข้าไป ด้วยการใส่ Content จริง ๆ หรือ Content ที่คล้ายกับที่จะใช้งานจรงิ ๆ เพื่อดีไซน์เสร็จ ซึ่งมีการเล่าข้อความที่คล้ายกัน ความยาวพอ ๆ กัน ทำให้คนอ่านนั้นเห็นภาพมากขึ้น เนื้อหาที่ใส่นั้นควรจะมีความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่จะนำเสนอและคนที่อยากจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ให้เข้ามาอ่าน ซึ่งเมื่อคนเข้ามาอ่านเนื้อหาเหล่านี้แล้วก็จะเริ่มตอบสนองและให้ความเห็นต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อความที่อ่านและความรู้สึกที่ได้ในดีไซน์และการอ่านนั้นประกอบกันขึ้นมา ซึ่งความเห็นเหล่านี้จะสะท้อนว่าชิ้นงานนั้นได้ผลหรือไม่ได้ผล และทำให้เกิดความน่าเชื่อถือขึ้นมาได้ หลาย ๆ ครั้งข้อดีของการใช้เนื้อหาจริงนี้คือคนดีไซน์จะได้รับความเห็นที่ไม่เคยคิดมาก่อน และเอาไปปรับปรุงงานได้ดีขึ้นอย่างมาก ซึ่ง Lorem Ipsum ไม่สามารถทำให้เกิดความเห็นอย่างนี้ได้ เพื่อที่จะให้ได้เนื้อหาจริง ๆ ใส่เข้าไปในงานลองใช้วิธีเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้ได้งานเนื้อหาที่จะใส่ได้เร็วขึ้น
1. ให้ลูกค้ามีส่วนร่วม : เพราะลูกค้านั้นรู้ดีมากกว่าเราและรู้ว่าอยากจะได้อะไร การเอาประสบการณ์ของลูกค้ามาช่วย จะทำให้ได้ข้อความที่ตรงใจมากขึ้นและถูกต้องในงานดีไซน์มากขึ้นไปอีก ดีกว่าออกแบบข้อความมาเองแล้วถูกลูกค้าตีตกเพราะไม่ใช่ในภายหลัง
2. การใช้เนื้อหาจาก partner อื่น ๆ : เช่นถ้าเว็บไซต์นั้นต้องมีหน้าข่าว PR หรือหน้าที่เกี่ยวข้องกับ Partner ลองเอาข่าวหรือเนื้อหาที่ Partner เกี่ยวข้องนั้นมาใส่ ทำให้ลูกค้าจะเห็นว่าเนื้อหาที่จะเอามาใส่ที่เกี่ยวข้องกับ Partener นั้นง่ายขึ้น
3. ใช้จากคู่แข่ง : การไม่รู้ว่าจะใส่อะไร สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการเอาไปหาเนื้อหาคู่แข่งที่พูดเรื่องเดียวกันมาใส่ ซึ่งข้อความที่ได้นั้นจะมีความคล้ายกันทำให้สามารถเห็นภาพได้ง่ายขึ้นอย่างมากว่าข้อความที่เห็นในส่วนนั้นจะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้การใช้ Lorem Ipsum นั้นไม่ได้มีประโยชน์อย่างมากในยุคนี้ เพราะไม่ได้ทำให้รู้จักดีไซน์หรือประสบการณ์ที่ดีขึ้น ไม่ได้ให้อารมณ์และวิญญาณขึ้นมา การใช้ข้อความจริงนั้นจึงมีผลที่ดีกว่าในการออกแบบดีไซน์และทำให้สื่อสารว่าดีไซน์กำลังทำงานอย่างไรได้ดีขึ้นด้วย