ใช้จิตวิทยาเพื่อให้คนแชร์ : รู้จัก 6 ตัวตนของนักแชร์ก่อนทำ Content

  • 720
  •  
  •  
  •  
  •  

การทำ Social Media Marketing หรือ Content Marketing นั้นสิ่งที่มุ่งหวังกันอย่างมากคือการที่จะได้ Earn Media กลับมา โดยเฉพาะการ Shares ออกไปสู่เครือข่ายของตัวเองออกไปมากมายจากคนที่ชอบในเนื้อหานั้น ๆ ออกมา ผลของการแชร์นั้นไม่เพียงจะมีผลต่อแบรนด์ แต่มีผลต่อผู้แชร์ด้วย ซึ่งถ้า content นั้นดีจนมีการแชร์ออกไป ผู้แชร์จะได้รับการตอบสนองจากคนที่ติดตามเพื่อให้ผู้แชร์นั้นได้แชร์เนื้อหาต่าง ๆ ออกมาอีกด้วย ทั้งนี้การแชร์ออกมาจากผู้แชร์นี้ทำให้ตัวตนของผู้แชร์นั้นมีความสัมพันธ์กับเนื้อหาที่แชร์ออกมาด้วย

Screen-Shot-2014-03-26-at-12.52.33

ทั้งนี้เพื่อสร้างเนื้อหาที่จะสามารถส่งต่อไปได้อย่างดี การเข้าใจกลุ่มที่จะสื่อสารออกไปว่ามีพฤติกรรมอย่างไรและสร้าง Content ที่ตอบสนองกลุ่มต่าง ๆ ให้ตรงมากขึ้นนั้นมีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเพื่อที่จะจัดกลุ่มผู้ฟังหรือสร้าง Segment ของการทำ Content ขึ้นมา ทางหนังสือพิมพ์ New York Times ได้แนะนำการสร้างบุคลิกภาพ 6 แบบของกลุ่มที่จะทำการแชร์เนื้อหาออกมา (Six Distinct Personas) โดยแต่ละกลุ่มจะมีเหตุผลที่อยากจะแชร์นั้นแตกต่างกันออกไป ซึ่ง 6 กลุ่มนั้นมีดังนี้

1. Altruists : มองว่าการแชร์นั้นเป็นการกระทำที่ตัวเองนั้นสนใจที่จะมอบให้ผู้อื่น สนใจว่าคนที่ติดตามจะได้ประโยชน์อย่างไรโดยไม่ได้มองว่าจะได้อะไรตอบแทนกลับมาจากการกระทำนี้ ซึ่งคนกลุ่มนี้แค่สนใจว่าเนื้อหานั้นจะดีต่อคนที่ได้รับเนื้อหานี้ต่อไปได้มากแค่ไหนต่อไป

2. Careerists : มองว่าการแชร์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง Profile ตัวเอง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมองหาเนื้อหาที่มีความหมายและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค้าออกมา สิ่งที่กลุ่มนี้ต้องการจากการกระทำคือการได้รับการยกย่องจากการแชร์เนื้อหาต่าง ๆ คนกลุ่มนี้อยากจะมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนที่สร้างขึ้นมา และที่น่าสนใจคือจะชอบปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาที่แชร์มาหาตัวเองด้วย

3. Hipsters: เป็นกลุ่มที่แชร์เนื้อหาเพียงเพราะว่าเนื้อหาดังกล่าวนั้นสะท้อนตัวตนในสิ่งที่ตัวเองเป็น และช่วยให้ตัวเองเชื่อมต่อกับโลกได้ พวกนี้อยากเป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่จะแชร์ออกมาและจะมีความ Active สูงในการหา Content ใหม่ ๆ เพื่อแชร์ออกไป หรือแชร์ในสิ่งที่เจอมาในทันที

4. Boomerangs : กลุ่มนี้คือกลุ่มที่แชร์เนื้อหาต่าง ๆ เพราะว่าจะทำให้สามารถปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ได้ คนกลุ่มนี้ต้องการหาวิธีที่จะเริ่มการสนทนาหรือถกเถียงในหัวข้อต่าง ๆ และถูกผลักดันความต้องการที่จะต้องการการยืนยันความถูกต้องในความคิดได้ ซึ่งจะมีความคล้ายกับกลุ่ม Hipsters คือเป็นกลุ่มที่จะหา Content ใหม่ ๆ มาแชร์เสมอ

5. Connectors: พวกนี้คือกลุ่มที่แชร์ Content เพราะมองว่า Content นี้จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มที่แชร์ออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องบันเทิง คูปองและส่วนลดราคาในการซื้อของต่าง ๆ การแชร์ของคนกลุ่มนี้คือการแชร์ที่เพื่อจะรักษาสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ เอาไว้ในเครือข่ายของตัวเอง

6. Selectives: กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเฉพาะที่จะเลือกเนื้อหาที่ตัวเองจะแชร์อย่างมากและจะแชร์กับกลุ่มทีตัวเองเลือกเท่านั้น คนกลุ่มนี้จะสนใจคุณค่าของข้อมูลใน Content ที่จะแชร์ว่ามีความสำคัญแค่ไหน หรือมีความพิเศษแค่ไหน และที่สำคัญคนกลุ่มนี้จะใช้เครือมือในการแชร์ที่เฉพาะมาก หรือแชร์ในเครือมือของกลุ่มที่ใช้ไม่เปิดให้สาธารณะเข้าถึง ตัวอย่างเช่น กลุ่มสนทนา หรือ email และไม่นิยมใช้ปุ่มแชร์

ทั้งนี้เมื่อเข้าใจกลุ่มการแชร์ทั้ง 6 กลุ่มออกมา ที่นี้ก็สามารถใช้วิธีการที่เรียกว่า Persona-Based Approach ในการทำให้เกิดการแชร์เนื้อหาออกไป เพราะกลุ่มที่จะสื่อสารทางการตลาดนั้นย่อมจะตกอยู่กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนี้ เพราะฉะนั้นการรู้ว่าจะสร้าง Content แบบไหนเพื่อจับกลุ่มแชร์แบบไหนนั้นสำคัญ การสร้างเข้าไปดูว่าคนที่แชร์นั้นเป้นใครบ้างและทำการศึกษาว่าชอบแชร์ Content แต่ละแบบนั้นอย่างไรสามารถทำให้เราวางแผนการสร้าง Content ได้ดีขึ้นเช่น ถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นเรื่องเทรนด์ อาจจะไปจับกลุ่มคน Careerists มาได้ หรือลองดูว่า channel แต่ละ Channel ที่จะทำ Content ลงไปนั้นมีคนกลุ่มใดอยู่ก็สามารถวางแผนการทำ content ให้เหมาะกับช่องทางต่าง ๆ ได้

Types of sharers

หลังจากนั้นสร้าง Content ที่อยากจะจับกลุ่มที่อยากให้แชร์ออกไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น ถ้าทำเว็บไซต์ขายของ ก็ต้องทำ content จับกลุ่มคนที่เป็น Connectors ออกไปเพราะชอบแชร์โปรโมชั่นการขายของต่าง ๆ ออกไป ถ้ากำลังทำอะไรใหม่ ๆ หรือเป็นเรื่องใหม่ต้องจับกลุ่ม Careerists หรือถ้าเป็นเรื่องต้องการการถกเถียง เสนอความคิดเห็น การให้ Hipsters หรือ  Boomerangs แชร์ออกไปก็ตรงมาก เมื่อสร้าง Content ออกไปคราวนี้ก็ต้องมาดูแลเนื้อหาต่าง ๆ ที่จะมีในช่องทางตัวเอง โดยลองดูว่ากลุ่มที่แชร์เนื้อหาต่าง ๆ ออกไปในช่องทางตัวเองนั้นมีคนกลุ่มไหนอยู่เยอะ ก็ต้องทำ Content ที่เหมาะกับการแชร์ของคนกลุ่มนั้นออกไป

ทั้งนี้นี่คือไอเดียคร่าว ๆ ที่จะสามารถเนื้อหาที่จะสร้างการแชร์ได้เยอะขึ้น และสามารถแชร์ให้ตรงกลุ่มออกไปมากขึ้น สร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้นของแบรนด์ หรือสินค้าและบริการออกไป สู่กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากสุด ถ้าใครยังไม่ลองใช้ลองใช้เครืองมือดูว่ากลุ่มคนที่แชร์นั้นเป็นใครแล้วลองสร้างเนื้อหาที่เหมาะกับการแชร์ขึ้นมาดู เพื่อจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการทำ Content


  • 720
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ