เราได้เห็นปรากฎการณ์ของ Generative AI มาเป็นเวลานานนับปีแล้วแต่แบรนด์ที่ทำให้เทคโนโลยี AI มาอยู่ในชีวิตประจำวันแบบที่ทำให้เราได้ใช้มันทุกๆวัน และยังเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้โลกก้าวเข้าสู่ยุค AI Phone ได้อย่างแท้จริงก็คือแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง “ซัมซุง” กับ Galaxy S24 Series ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของ Galaxy AI สิ่งนี้พิสูจน์อย่างชัดเจนกับยอดการสั่งซื้อ Galaxy S24 Series ที่สูงกว่า Galaxy S23 Series ถึง 200% และประเทศไทยยังทำสถิติยอดสั่งซื้อสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโซนโอเชียเนียอีกด้วย ดังนั้นบทความนี้เราจะลองมาเจาะกระบวนท่าของซัมซุงกันว่าความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไรบ้าง?
จับกระแสตลาด AI ที่เติบโต
การเติบโตของตลาด AI ทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา โดย Bloomberg Intelligence เปิดเผยผลการวิจัยพบว่าภายในปี 2032 การเติบโตของ Generative AI ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว ขณะที่ ChatGPT ซึ่งเป็น Generative AI ที่ปลุกกระแส AI เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกนับจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 180.5 ล้านคนเข้าไปแล้ว
ขณะที่ในประเทศไทยขนาดตลาด Generative AI คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีที่ 23.46% ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐหรือราว 38,900 ล้านบาทภายในปี 2030 โดยสัดส่วนของผู้บริโภคในประเทศไทยที่มีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน มีมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 35% เลยทีเดียว
พัฒนาสมาร์ทโฟนสอดรับเทรนด์ AI
นอกจากตลาด AI ที่เติบโตแล้วเทรนด์ของการใช้งาน AI ในรูปแบบต่างๆยังเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องศึกษาก่อนที่จะพัฒนา Galaxy AI และนำจับไปใส่ในสมาร์ทโฟน โดยซัมซุงพบว่าเทรนด์หลักของ AI ในปี 2024 ที่มี 5 เทรนด์ต่อไปนี้
- เทรนด์ที่ 1: Generative AI เป็นการใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่ข้อความไปจนถึงดนตรี มีแนวโน้มว่าปี 2026 องค์กรต่างๆ มากกว่า 80% จะนำ Generative AI ในการดำเนินงานซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 5% ในปัจจุบัน
- เทรนด์ที่ 2: BYOAI หรือ Shadow AI เป็นแนวโน้มใหม่ในที่ทำงานโดยพนักงานนำ AI ของตนเองเข้ามาใช้ในการทำงาน เกิดจากเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง โดยผลการรายงานจาก Forrester ระบุว่า 60% ของพนักงานจะใช้ AI มาช่วยทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น
- เทรนด์ที่ 3: แอปพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วย AI เฉพาะบุคคล ในปี 2026 1 ใน 3 ของแอปพลิเคชั่นทั้งหมดจะใช้ AI เพื่อสร้างอินเตอร์เฟชให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้
- เทรนด์ที่ 4: AI สำหรับการเขียนโค้ด งานบางอย่างถูกโยนไปให้ AI แก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner ระบุว่า ภายในปี 2028 บริษัทซอฟแวร์จะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ดจาก 3 ใน 4 ของบริษัททั้งหมด ซึ่งในปี 2023 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น
- เทรนด์ที่ 5: การค้นหาออนไลน์ด้วย AI ซึ่ง AI ปรับปรุงการค้นหาออนไลน์โดยให้ตรงกับความชอบของผู้ใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรือการค้นหาแบบสนทนาเพื่อให้การตอบโต้กับเครื่องมือการค้นหาได้อย่างธรรมชาติและรวมไปถึงการค้นหาด้วยภาพหรือวิดีโอ
รับพฤติกรรมใช้ AI ของคน Gen MZ
Galaxy S24 Series ยังเป็นการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ตอบรับกับพฤติกรรมและความสนใจของคน Gen MZ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รวมเอา Gen Millennials และ Gen Z เข้าไว้ด้วยกัน โดยการวิจัยเกี่ยวกับความสนใจของผู้บริโภค Gen MZ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของซัมซุงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย พบว่าคนกลุ่มนี้มีความสนใจหลากหลายด้าน โดย “อาหาร” เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดที่ 77% ตามมาด้วย “การเดินทาง” 68%, “ดนตรี” 58%, “เกม” 53%, “แฟชั่น/ความงาม” 46%, “กีฬา” 35% และ K-Wave 27%
ซัมซุงจึงพัฒนา Galaxy S24 Series ให้มีฟีเจอร์ AI ที่ตอบสนองความต้องการและความสนใจในทุกจุดของ Gen MZ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์เพื่อการสื่อสารอย่าง Live Translate และ Interpreter, มาตรฐานใหม่ของการค้นหาสิ่งต่างๆ อย่าง Circle to Search, การแก้ไขภาพถ่ายด้วย Photo Assist, หรือฟีเจอร์ที่ช่วยในการทำงานและหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Transcript Assist, Note Assist และ Browing Assist อย่างที่เราเห็นความสามารถกันไปบ้างแล้วนั่นเอง
จับมือผู้นำ AI พัฒนา Galaxy AI
ด้วยเทรนด์อนาคตของ AI ทั้งในแง่ตลาดและการใช้งานทำให้ซัมซุงพัฒนา Galaxy AI และใส่เข้าไปใน Galaxy S24 Series กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของสมาร์ทโฟนไปได้อีกขั้นและก้าวเข้าสู่ยุคของ AI Phone ได้อย่างแท้จริง ซึ่งนั่นยังไม่นับการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ภายในที่ยังคงก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการพัฒนา Galaxy AI นั้นซัมซุงได้จับมือกับผู้นำด้าน AI ในตลาดระดับโลกอย่าง “Google” และ “Microsoft” นำมาพัฒนาเทคโนโลยีและฟีเจอร์ล้ำๆต่างๆที่เราเห็นใน Galaxy S24 Series ไม่ว่าจะเป็น Circle to Search ที่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ยังซัมซุงยังทำงานร่วมกับ LLM โซลูชั่นที่มอบประสบการณ์การใช้ AI ด้วยฟีเจอร์หลัก เช่น Live Translate,Voice Recorder, Samsung Notes และอื่นๆอีกหลายฟีเจอร์ที่เราได้เห็นกันไปแล้ว
ไม่เท่านั้น AI ยังเข้าไปมีบทบาทกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยของ Galaxy S24 Series ด้วยไม่ว่าจะเป็น การตั้งค่าขั้นสูงด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลของ AI แบบเต็มรูปแบบได้จากทางออนไลน์ แดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยซัมซุงได้พัฒนาแดชบอร์ดนี้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายว่าแอปใดกำลังเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูล หรือกล้อง จากนั้นสามารถปิดการอนุญาตได้เองทันทีเพียงคลิกเดียว ไปจนถึงการใส่ลายน้ำ Metadata ที่ช่วยให้สามารถแชร์รูปภาพได้อย่างปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว นอกจากนี้ Galaxy S24 Series ยังได้รับการป้องกันด้วย Samsung Knox Metrix ซึ่งให้การเข้ารหัสและเชื่อมต่อคลาวด์อย่างปลอดภัย รวมถึง Knox Vault, Auto Blocker, Secure Wi-Fi, Private Share เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์การตลาดสร้างความสำเร็จในประเทศไทย
ต้องยอมรับว่าความสำเร็จของ Galaxy S24 Series ในประเทศไทยที่มียอดสั่งซื้อพุ่งสูงเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโอเชียเนีย มีส่วนสำคัญมาจากกลยุทธ์การตลาดในประเทศไทยด้วยเช่นกันที่สามารถสร้างปรากฎการณ์ AI Phone ให้เกิดขึ้นได้ทั่วประเทศ โดยคุณสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ กล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดตัว Galaxy S24 Series ในเมืองไทยว่า ซัมซุงได้สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series ทำให้ยอดการสั่งจองล่วงหน้ากว่า 200% เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy S23 Series และสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง
“นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำโดนใจผู้บริโภคแล้ว ซัมซุงยังทุ่มเต็มที่ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ สร้างประสบการณ์ และสร้างกระแสเกี่ยวกับ Galaxy S24 Series เริ่มจาก VDO Mapping ที่หัวลำโพงที่เป็นทีเซอร์พร้อมกับการเคาท์ดาวน์สู่งาน Galaxy Unpacked ตามมาด้วยการเปิด Galaxy Experience Space ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปิดให้ผู้บริโภคได้มาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หลังจากเพิ่งเปิดตัวที่งาน Galaxy Unpacked โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับเลือกให้จัดงาน ตามมาด้วยงานอีเวนท์เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ที่ยิ่งสร้างกระแสให้พูดถึงผลิตภัณฑ์มากขึ้น ประกอบกับการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ที่กำลังเป็นกระแสถูกพูดถึงทั่วประเทศสร้างความสนใจให้กับเหล่า Gen MZ นอกจากนี้ซัมซุงยังจัดโปรโมชั่นพรีออเดอร์ที่ดึงดูด ทำให้ผู้บริโภคสนใจสั่งซื้อล่วงหน้าเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการนำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับผลตอบรับดีมาก” คุณสิทธิโชค ระบุ
จากนี้คงต้องติดตามตลาดและอุตสาหกรรมสามาร์ทโฟนที่จะต้องมีการแข่งขันและพัฒนาด้าน AI กันอย่างคึกคักอย่างแน่นอน หลังจาก ซัมซุง ก้าวไปก่อนใครเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ AI Phone ด้วย Galaxy S24 Series ด้วยความสำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว จากนี้อนาคตจะน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นมากเพราะซัมซุง นำอนาคตมาปรากฏตัวตรงหน้าเรากันไปแล้วนั่นเอง