ฟีเจอร์ใหม่ที่มาร์เกตเตอร์ให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบันคือฟีเจอร์การลงโฆษณาโดยเน้น location-based mobile targeting บนแฟลตฟอร์มต่างๆ เพราะเราเชื่อว่าโฆษณาแบบนี้สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่อาศัยหรือกำลังเดินทางอยู่ใกล้กับร้านค้าหรือออฟฟิศของแบรนด์ได้อย่างถูกเป้า เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะแวะเวียนมาที่ร้านของแบรนด์มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มาร์เกตเตอร์หลายคนอาจยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือใหม่นี้มากเท่าไหร่นัก วันนี้เราจึงเอาประสบการณ์ของ Craign Weinberg คอลัมนิสต์จาก Marketing land มาเผยเทคนิคการใช้location-basedmobile targeting ที่ได้ผลและประหยัดงบประมาณมากที่สุด ลองดูกันเลยครับ
1.พัฒนาคอนเทนต์
การจับใจลูกค้าแถวนั้นได้ก็หมายความว่าคุณต้องมีคอนเทนต์ที่ localize หรือทำให้เป็นท้องถิ่นนิยมเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะไม่กว้างเกินไปและเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าคอนเทนต์ที่เหวี่ยงแหไปยังคนกลุ่มใหญ่
เทคนิคที่น่าใช้คือการมอบคูปองให้แก่ลูกค้าภายใต้เงื่อนไข หนึ่ง พวกเขาอยู่ในรัศมีใกล้ๆ ร้านค้า สอง พวกเขาชอบเรื่องราวที่เกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ สาม เขาเคยคลิกโฆษณาที่มีลักษณะใกล้เคียงมาก่อน มาร์เกตเตอร์ที่เก่งกาจจะเข้าใจว่าผู้ใช้นิยมใช้โมบายอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อเชื่อมต่อกับ WiFi ที่บ้านหรือที่ทำงาน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเปิดใจรับข้อความของคุณในช่วงเวลาดังกล่าวเท่านั้น จุดหลักที่คุณต้องทำคือทดลองหลายๆ ครั้งเพื่อทำให้รู้ว่าลูกค้าเชื่อมต่ออย่างไร เมื่อไหร่ และที่ไหนผ่านโมบายของพวกเขา
2.อย่าเหวี่ยงแห่จับทุกกลุ่ม
ไม่จริงเสมอไปว่าการจับกลุ่มลูกค้ายิ่งกว้างยิ่งดี บางครั้งการจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันก็ทำให้คุณทำงานสับสนเสียเอง
ลองวางลักษณะของผู้ใช้เพียงแค่สองสามอย่างเช่น geo-targeting และ demographic targeting การจับกลุ่มตลาดมากเกินไปอาจทำให้ข้อความของคุณไม่โดนใจกลุ่มไหนเลย สุดท้ายก็ทำกำไรไม่ได้สักกลุ่ม
3.เลือกแฟลตฟอร์มดีๆ
ข้อเสนอแนะที่กล่าวมาข้างต้นนั้นสามารถพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงได้ตามแฟลตฟอร์มที่คุณจะนำแคมเปญไปเผยแพร่
ตัวอย่างเช่น หากมาร์เกตเตอร์จะทำแคมเปญบน IG ปัจจัยด้านอายุและเพศเป็นปัจจัยหลักที่คุณควรใช้ในการทำแคมเปญ เท่าที่ศึกษามานั้น IG เป็นแฟลตฟอร์มที่มีความอ่อนไหวและต้องการคอนเทนต์เฉพาะมากกว่าแฟลตฟอร์มอื่น ดังนั้น Facebook จึงมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้มาร์เกตเตอร์สามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณาได้ยังไงล่ะ
หากคุณเชื่อว่าธรรมชาติของแต่ล่ะแฟลตฟอร์มต่างกัน คุณก็ควรทดลองทั้งแคมเปญและโพสต์เพื่อหาพฤติกรรมหลักของกลุ่มเป้าหมายของคุณเสีย
4.ทดลองก็อปปี้ของคุณ
เมื่อเป็นเรื่องของท้องถิ่น คุณต้องเข้าใจว่าบางท้องถิ่นก็ชอบข้อความแบบหนึ่งขณะที่อีกท้องถิ่นไม่ชอบ ดังนั้น ลองส่งข้อความหรือสารบางอย่างออกไปดูปฏิกริยาของคนในพื้นที่ก่อนที่จะส่งแคมเปญจริงออกไปดีกว่า
5.อย่าคาดหวังความสมบูรณ์แบบ
การโฆษณาแบบ Location-based นั้นไม่สามารถการันตีผลงานได้ แน่นอนว่าในพื้นที่ของคุณคุณสามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้แน่นอนแต่เมื่อเป็นนอกพื้นที่ ผลสำรวจพบว่าคุณจะได้รับผลตอบรับที่ดี 10-15% เท่านั้น
6.อย่าใช้แฟลตฟอร์มเดียวในการโปรโมทแคมเปญ
แม้จะเป็นการโฆษณาภายในพื้นที่แต่คุณก็ควรมีกลยุทธ์อื่นเพื่อส่งเสริม
ลองสร้างแอพฯ หรือส่งโฆษณาโปสเตอร์หรือ traditional campaign ไปช่วยแคมเปญออนไลน์ของคุณบ้างเพราะการมองเห็นโฆษณาบ่อยๆ ซ้ำๆ จะทำให้ผู้ใช้เกิดการจดจำคุณได้มากขึ้น