Marketing Trend 2021 – Boundaryless Competitive Landscape การแข่งขันแบบไร้ขอบเขต
การแข่งขันจะไม่ถูกจำกัดแค่กับคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันอีกต่อไป การผสมผสานของเทคโนโลยี, ดาต้า, และเงินทุนสามารถทำให้บริษัทต่างๆสามารถเข้าไปในธุรกิจอื่นได้ง่ายขึ้น จากปัจจัยนี้ทำให้ธุรกิจจากอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันเข้ามาตอบสนองความต้องการเดิม ในขณะที่เวลาและกำลังซื้อของผู้บริโภคก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนคู่แข่ง
คู่แข่งจะมีสองรูปแบบ
- สินค้าทดแทนได้ทางตรง ยกตัวอย่างเช่น Starlink ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ SpaceX สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตได้และสามารถเข้ามา Disrupt เครือค่ายอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ได้อนาคต
- การสนองความต้องการทางอ้อม การซื้อ Nintendo Switch เพื่อการออกกำลังกายแทนที่การไปออกกำลังกายในฟิตเนส
ดังนั้นแล้วธุรกิจไม่ได้แค่สู้กับ share of wallet หรือรายได้ที่ผู้บริโภคสามารถจับจ่ายใช้สอยแต่รวมถึงความสนใจและการแก้ปัญหาใหม่ๆของผู้บริโภคด้วย ผู้ที่สามารถดึงความสนใจของผู้บริโภคได้มากกว่าจะสามารถชนะในการแข่งขันในตลาดจริง
สิ่งที่ธุรกิจควรทำและกรณีศึกษา
การจะชนะในศึกนี้ต้องนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด แบรนด์ต้องเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้ และมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของลูกค้า
วิธีการที่ธุรกิจสามารถชนะในศึกไร้ขอบเขตได้วิธีการดังนี้
1) จงหานิยามใหม่ของเกมส์การแข่งขัน ด้วยการป้องกันภัยคุกคามจากอุตสาหกรรมอื่น
กรณีศึกษา:
ธนาคารต่างๆในประเทศได้ยกเลิกค่าธรรมเนียมในการโอนเงินระหว่างธนาคารไปซึ่งทำให้สูญเสียรายได้ไปกว่าสิบล้านบาทแต่ได้ทำการออก Neo-banking ที่จะเสริมกำแพงกั้นคู่แข่ง e-Wallets หรือบริษัท fintech เจ้าต่างๆ กำแพงนี้จะช่วยรักษาฐานลูกค้าและข้อมูลธุรกรรมการเงินที่มีคุณค่าที่สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาสินค้าและโซลูชั่นใหม่ๆได้
เซเว่นอีเลฟเว่น ที่ออก Vending Machine เพื่อปกป้องตลาด เพราะ Vending Machine ที่เติบโตขึ้นอาจเป็นคู่แข่งทางอ้อมในอนาคตของเซเว่นอีเลฟเว่น
2) หาแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมอื่น
ด้วยการมองให้กว้างจากกลุ่มลูกค้าปัจจุบัน เพื่อหาโอกาสใหม่
กรณีศึกษา:
Google Analytics จากที่เคยเจาะกลุ่มแผนกไอทีที่โดยปรกติแล้วเป็นลูกค้าซอฟท์แวร์โซลูชั่นซึ่งเป็นฐานลูกค้าของสินค้านี้ การมองกว้างออกไปกูเกิ้ลสามารถเจาะกลุ่มแผนกมาร์เกตติ้งโดยแค่ลดความซับซ้อนของโปรแกรมลงและมีฟรีเวอร์ชั่นสำหรับผู้ใช้เริ่มต้น
Starbucks ออกเมนูที่เป็นชาและเครื่องดื่มผลไม้แบบใหม่ๆ เพื่อเอาใจคนที่ไม่ได้ทานกาแฟ ให้เข้ามาดื่มที่ร้านมากขึ้น
เพราะการหาไอเดียสดใหม่ ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในกรอบธุรกิจของเรา!
กรณีศึกษา:
ครั้งหนึ่งที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์อยากสร้างแบรนด์เพื่อดึงลูกค้าระดับสุดยอดวีไอพี แทนที่จะดูว่าแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เจ้าอื่นทำยังไง เขาควรมองไปที่แบรนด์แฟชั่นหรูหราที่เป็นเลิศเพราะนี่เป็นธุรกิจที่ผู้นำในตลาดลูกค้าสุดยอดวีไอพี เรียนรู้ว่จะเสริมแบรนด์ยังให้ดู exclusive จาก Hermès แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ก็เพิ่มมูลค่าได้แม้ว่าจะเรียนรู้จากกระเป๋า Birkin ก็ตาม (กระเป๋า Birkin เป็นชื่อกระเป๋าภายใต้แบรนด์ Hermès)
สำหรับแบรนด์ที่เป็นผู้นำ จงอย่ามองแค่คู่แข่งขัน เพราะถ้าคุณทำตามคู่แข่งขัน เราจะเป็นแค่ผู้ตามตลอดไป แต่จงจับตาและเรียนรู้แบรนด์อื่นๆนอกวงการมากกว่า เพื่อเรียนรู้แล้วสร้าง “สิ่งใหม่ๆ” ให้วงการของคุณ แบบนี้แหละที่เรียกว่า “ผู้นำตลาดของแท้”
3) ขยาย ecosystem และพัฒนา value offering
จงมองหาพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่า
กรณีศึกษา:
การเดินทางของ Grab สู่ สุดยอดแอพในทุกๆวัน จะไม่สำเร็จถ้าไม่จับมือกับอุตสาหกรรมอื่นๆเพื่อเติมเต็ม ecosystem สำหรับชีวิตประจำวัน ยกตัวอย่างเช่น การจับมือกับเซนทรัลกรุ๊ปสำหรับการจับจ่ายใช้สอย อโกด้าสำหรับโรงแรมหรือแอร์เอเชียสำหรับเครื่องบิน เมเจอร์กรุ๊ปสำหรับตั๋วหนัง Klook สำหรับแพคเกจทัวร์ ทรูสำหรับการจ่ายเติมบิลมือถือและอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าคุณเป็นโรงแรม คุณก็หาสามารถหาพันธมิตรกับแหล่งท่องเที่ยว กิจกรรม และการเดินทางของ นักท่องเที่ยวเป็นต้น
Key Take Away: การแข่งขันแบบไร้ขอบเขต
- จับตาดูลูกค้าคุณให้ดี หน้าที่เราคือรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า และทำให้ชีวิตลูกค้าคุณดีขึ้น
- จับตาดูคู่แข่งของคุณให้ดี จุดอ่อนคู่แข่งคืออะไร เพื่อให้คุณพร้อมรับมือในการแข่งขัน
- จับตาดูวงการอื่นๆ เพื่อหาไอเดีย สดใหม่ มาใช้ในธุรกิจคุณ
เรียบเรียงและศึกษาข้อมูลโดย Hummingbirds Consulting