เมื่อโลกเรากำลังสู่สังคมผู้สูงอายุ นั่นก็หมายความว่า Gen Z คือกลุ่มที่จะเติบโตมาเพื่อขับเคลื่อนอนาคต มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2020 ประชากรชาว Gen Z หรือกลุ่มที่มีอายุ 22 ปี หรือน้อยกว่านั้น จะมีสัดส่วนประมาณ 40% ของประชากรโลก นี่จึงเป็นเหตุผลที่นักการตลาดและแบรนด์ต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมของพวกเขา อาทิ การใช้ Social Media ในแต่ละแพลตฟอร์ม อย่างการใช้ Instagram เพื่อแสดงไลฟ์สไตล์และถ่ายทอดความเป็นตัวของตัวเอง หรือการใช้ Twitter ที่ใช้เพื่อติดตามข่าวสารแบบเรียลไทม์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผลสำรวจบอกอีกว่า Gen Z ใช้ Social Media มากถึง 100 ครั้งต่อวัน
ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึง Gen Z ได้
อย่างที่ทราบกันว่า Gen Z จะใช้ Social Media เป็นส่วนใหญ่ การส่งอีเมลอาจไม่ได้ผลเท่าไรนัก หรือเผลอๆ พวกเขาก็ไม่เปิดอ่านด้วยซ้ำ ดังนั้น แบรนด์จึงต้องปรับตัว ปรับกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงมากที่สุด อาทิ คอนเท้นต์ในแต่ละแพลตฟอร์มต้องแตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้แพลตฟอร์มนั้นๆ และอย่าลืมว่าคุณจะมีเวลาเพียงไม่กี่วินาทีในการดึงดูดความสนใจของกลุ่ม Gen Z ที่เลื่อนไทม์ไลน์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คอนเท้นต์ต้องเด่นและสะดุดตาเท่านั้น
• ต่อให้สินค้าดีแค่ไหน ถ้าแบรนด์พูดเอง ก็ไม่น่าเชื่อถือเท่าผู้ใช้จริงพูด : แทนที่จะทุ่มทำโฆษณาโปรโมทความเจ๋งของสินค้า ลองเปลี่ยนวิธีทำตลาดแบบเดิมๆ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน เช่น การนำรีวิวของลูกค้ามาแชร์
• เน้นสร้างแรงบันดาลใจ : ไม่ว่าใครก็ต้องการแรงบันดาลใจ ชาว Gen Z เองก็เช่น แม้จะเป็นวัยรุ่นที่มีความคิดและความฝันแตกต่างกันไป สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการสร้างแรงบันดาลใจ หรือเรื่องราวที่สะท้อนชีวิตตัวเอง เช่น แคมเปญ Real Beauty ของโดฟ ที่สื่อสารไปยังผู้หญิงทุกคน โดยออกแบบแพคเกจจิ้งครีมอาบน้ำออกมา 6 รูปทรง แทนความแตกต่างของรูปร่างผู้หญิง พร้อมบอกว่า ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบไหน ผู้หญิงทุกคนที่มีความงามในแบบของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่มีพลังอย่างมาก
• ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม : นอกจากคุณภาพและราคาที่เป็นธรรมแล้ว Gen Z ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วย หากแบรนด์ไหนได้รับการรับรอง B-Corp หรือเป็นธุรกิจเพื่อสังคม ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จะตอบโจทย์ Gen Z ได้ดีกว่า
เนื่องจาก Gen Z เป็นกลุ่มที่เรียนรู้และปรับตัวเร็ว การสื่อสารผ่าน Social Media ก็ต้องรวดเร็วด้วย