จะทำงานร่วมกับ ‘คู่สมรส’ อย่างไรให้ชีวิตแต่งงานก็แฮปปี้ ชีวิตการทำงานก็ดี๊ดี

  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  

เชื่อว่าคงจะมีหลายคนที่เคยได้ยินคำพูดเตือนประมาณว่า ‘อย่าทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนสนิท’ หรือ ‘อย่าเอาแฟนมายุ่งกับธุรกิจ’  กันมาบ้าง แต่ไม่ใช่กับนักธุรกิจสาวอย่าง Caitlin Gould” ซึ่งเธอบอกว่าเธอนั้นแต่งงานกับสามี ซึ่งตอนนี้มีลูกด้วยกันสองคน เพราะว่ามีเซนส์ทางธุรกิจเหมือนกัน แถมยังร่วมกันประกอบธุรกิจด้านบรอดคาสติ้งอย่าง Nexstar Broadcasting ประสบความสำเร็จสูงมาก ทำรายได้ถึง 33 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

และวันนี้เธอจะมาแบ่งปันเคล็ดลับดีๆ กับการทำธุรกิจร่วมกับคู่สมรสว่า จะทำอย่างไรให้มันประสบความสำเร็จได้ โดยไม่กระทบทั้งชีวิตคู่และการงาน ลองมาฟังกันนะคะ

wedding

1.สังเกตปฏิกริยา

ในการทำงานร่วมกับคู่สมรส จะทำให้เราเห็นอีกด้านหนึ่งในความสัมพันธ์กับคู่ของเราซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน มันจะให้มุมมองแบบ 360 องศา ทั้งคุณค่าในตัวเขาและบุคลิกอีกแบบที่เราอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน

เช่น ถ้าคู่ของเรากำลังดีลธุรกิจใหญ่อยู่ ซึ่งมีความยุ่งยากมาก หากเขาสามารถจัดการกับมันได้ ทำให้เราเห็นว่าเขา (หรือเธอ) พึ่งพาได้ ทำให้ธุรกิจผ่านอุปสรรคสำคัญไปได้ ก็น่าคิดว่าในการดำเนินชีวิตคู่ถ้าต้องเจอกับเรื่องท้าทายเราก็จะสามารถผ่านพ้นไปด้วยกันได้

2.แยกธุรกิจกับชีวิตส่วนตัวให้ออก

คนส่วนใหญ่แยกชีวิตออกเป็น 2 เซกชั่น คือส่วนตัวกับความเป็นมืออาชีพ แต่เมื่อคุณแต่งงานกับผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจด้วยกัน ความเป็นชีวิตส่วนตัวของคุณกับความเป็นมืออาชีพของคุณจะถูกผูกโยงเข้าหากัน ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะแบ่งแยกให้ชัดเจน โดยการมุ่งมองไปยังเป้าหมายสำคัญ โดยที่ไม่ควรนำเรื่องธุรกิจมาเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว มิเช่นนั้นนอกจากจะทำอะไรไม่สำเร็จแล้วก็ยังจะกลายเป็นแผลฝังลึกในใจอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากทีเดียวที่จะแยกเรื่องส่วนตัวออกจากธุรกิจ เมื่อคนที่คุณเกิดไม่เห็นด้วยในความคิดเห็นการทำงานกลับเป็นคนที่เดียวกับที่คุณใช้ชีวิตคู่ด้วย ดังนั้น จึงสำคัญมากทีเดียวที่คุณจะต้องให้ความเคารพและรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน แต่ทั้งนี้สิ่งที่จำเป็นจะต้องพูดก็ควรจะต้องพูด เพราะไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นปัญหาที่ยากเกินจะแก้ไขได้

การทำธุรกิจโดยเฉพาะ Startups ต้องทำด้วยความรวดเร็วและมุ่งมั่น กับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยก็ควรจะเงียบๆ ไปเพื่อไม่ให้มีคำพูดที่ทำร้ายความรู้สึกซึ่งกัน ที่สำคัญคือเปิดใจและซื่อสัตย์ในการสื่อสารกันคือคีย์ที่สำคัญ

3.มองแง่บวก

แต่งงานกับผู้ร่วมธุรกิจ ทำให้รู้จักกันดีมากขึ้นและเร็วขึ้น มันคือความท้าทายที่น่าสนใจ คุณรู้ถึงวิธีที่จะพูดคุยกัน อะไรที่เป็นจุดอ่อนจุดแข็งของคู่สมรสเรา และเป้าหมายที่วางจะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างกัน ไม่เอนเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

การสร้างบริษัทร่วมกันมันคือการสร้างข้อผูกมัดที่ใหญ่โตมาก นั่นไม่ใช่เพราะว่าคุณใช้เวลาร่วมกันมาแต่เป็นเพราะทุกๆ วันคุณทำงานบนเป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น เรื่องของความยืดหยุ่นและการช่วยเหลือซึ่งกันและกันจึงสำคัญมากกับคู่ลักษณะนี้ ซึ่งคู่สมรสอื่นๆ จะไม่มี

ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ธุรกิจของคุณกำลังไปได้สวย เมื่อเราทำงานร่วมกันจึงทำให้การใช้ชีวิตแบบ work-life balance สมดุลขึ้น เช่น คุณสามารถแบ่งเวลาในการดูแลลูกร่วมกันได้มากขึ้น โดยไม่มีความรู้สึกว่าต่างคนต่างทำงานกันจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว

ตอนท้าย Caitlin Gould สรุปความได้ดีว่า ในการแต่งงานกับผู้ร่วมธุรกิจ คุณสามารถผลักดันคู่ของคุณให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ 100% และคุณยังได้เรียนรู้ร่วมกัน เติบโตไป และประสบความสำเร็จร่วมกันทั้งในธุรกิจและชีวิตสมรส.

แหล่งที่มา


  • 1
  •  
  •  
  •  
  •  
pigabyte
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น มาเรียนรู้และสนุกไปกับบทความ จาก MarketingOops! กันนะคะ แล้วเราจะได้ค้นพบว่าโลกของ Marketing นั้น So Sexy and Cool!