Location คุณใช้ข้อมูลนี้ให้เป็นประโยชน์ทางการตลาดรึยัง

  • 170
  •  
  •  
  •  
  •  

เคยไหมที่เวลาไปเดินเที่ยวห้าง หรือ ตลาดนั้น มีเจ้าของร้าน มาเชิญชวนเอาตัวอย่างมาให้ชิม มาให้ลองใช้  บอกว่ามีโปรโมชั่นอะไรเพื่อเชิญชวนเข้าร้าน หรือมีป้ายตลอดทางเดินที่มีโปรโมชั่นเชิญชวนให้ไปที่ร้านที่ใกล้ที่สุด นี้คือพลังของการทำการตลาดที่ใช้พลังของการที่ผู้บริโภคอยู่ในสถานที่นั้น ๆ เข้ามา แล้วจะเป็นอย่างไรถ้านักการตลาดสามารถทำการตลาดผ่านสถานที่เหล่านี้ได้อย่างทันที การทำการตลาดนั้นมักจะเริ่มต้นด้วย Who What When Where ซึ่งในอดีตนั้น Where นี้คือจะช่องทางที่นักการตลาดจะเข้าไปสื่อสาร และจะไปสื่อสารที่ไหนที่ผู้บริโภคอยู่ได้บ้าง ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่คิดขึ้นมาจากการตลาด แต่ปัจจุบัน Where นั้นกลับไม่ใช่สถานที่อีกต่อไป แต่เป็นทุก ๆ จุดที่ผู้บริโภคนั้นอยู่ว่าจะอยู่ที่ไหน ที่นักการตลาดจะสามารถเชื่อมต่อไปสื่อสารได้ และใช้สิ่งแวดล้อมในสถานที่ที่ผู้บริโภคอยู่นั้นในการทำการตลาดเข้าไปได้อีกด้วย

httpv://www.youtube.com/watch?v=6Fk0r1BQ3vk

ในตอนนี้เรามีดาวเทียมมากกว่า 2,000 ดวงที่โคจรรอบโลกที่คอยสื่อสารสัญญาณต่าง ๆ จากอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคถือ และส่งสัญญาณบอกว่าอยู่ในสถานที่ไหนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเราเห็นได้จากการใช้แผนที่ในมือถือในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่นนำทางหรือค้นหาสถานที่นั้นสามารถทำได้อย่างแม่นยำมาก ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่ต้องคอยระวังว่าจะไปถูกไหม นอกจากนี้ยุคนี้เป็นยุคที่ผู้บริโภคนั้นมีมือถือหรืออุปกรณ์พกพาที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เนตตลอดเวลาเป็นอวัยวะใหม่อีกชิ้นหนึ่ง และด้วยพลังของเครื่องมือนี้ทำให้นักการตลาดนั้นสามารถทำการตลาดเข้าไปสู่มือถือในบริบทที่ผู้บริโภคนั้นอยู่ถูกที่ถูกเวลา ด้วยข้อความที่ถูกต้องได้ ซึ่งนี้เองที่จะสามารถเข้าไปกระตุ้นให้ผู้บริโภคลองเข้าไปยังหน้าร้านที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ด้วยการรู้ถึง Location ที่อยู่ สร้างยอดขายได้อย่างทันทีหรืออย่างน้อยก็ได้ Traffic ของผู้บริโภคมาที่ร้านอีกด้วย

screen-shot-2559-11-15-at-2-05-39-pm

และถ้านักการตลาดนั้นมีแอพ และมีผู้บริโภคดาว์นโหลดไปใช้ ด้วยข้อมูลสถานที่ที่ผู้บริโภคนั้นแชร์ออกมาจากการกดอนุญาตให้แอพนั้นใช้ข้อมูล Location  ไม่ว่าจะเพราะอยากได้โปรโมชั่น ข่าวสาร หรือโดยเปิดแบบไม่รู้ตัว ทำให้นักการตลาดนั้นสามารถจะเอาข้อมูลที่ส่งออกมานั้นมาวิเคราะห์ได้ด้วยว่า ผู้บริโภคนั้น กำลังทำอะไรอยู่ในสถานที่นั้น และมีการใช้แอพของเราในสถานที่ต่าง ๆ นั้นแบบไหน ข้อมูลเหล่านี้นักการตลาดสามารถนำมาคิดต่อยอดได้ด้วยว่าเราจะสามารถทำการสื่อสารกับผู้บริโภคที่อยู่ในสถานที่หรือมีพฤติกรรมในสถานที่ต่าง ๆ เมื่อใช้แอพหรือติดต่อกับแบรนด์ได้อย่างไร ทำให้ผู้บริโภคได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้แอพหรือติดต่อแบรนด์ผ่านสถานที่ต่าง ๆ ได้ด้วย

httpv://www.youtube.com/watch?v=G6dHampJPSY

มีตัวอย่างการใช้พลังของ Location ในการแก้ปัญหาผู้บริโภคนอกจากการใช้ในการทำการตลาด นั้นคือในอินเดียนั้นรถติดมาก ซึ่งมีการคาดการณ์ความเสียหายทางเศรษฐกิจว่ามีมากกว่า 10.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อปีเพราะการจราจรที่ติดขัดนี้ เหตุที่จราจรติดขัดนั้นเป็นเพราะการต้องปล่อยให้วัวนั้นเดินในถนนอย่างอิสระ (วัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในอินเดีย) ทางบริษัทโฆษณาอย่าง Y&R  ได้รับโจทย์เพื่อที่จะหาทางออกในแก้ปัญหาการจราจรนี้ จึงได้คิดการติดตัวส่งสัญญาณ (ซึ่งทำมาจากมือถือรีไซเคิลมาเชื่อมกับแผง Solar Cell แล้วทำเป็นปลอดคอวัว) ไว้กับที่ตัววัว และส่งสัญญาณการเคลื่อนที่ของวัวนี้ไปยัง Application ที่มีชื่อว่า Gaaye app โดยเป็นแอพที่อ่าน GPS ของมือถือที่ระบุไว้ ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ในอินเดียนั้นสามารถได้รับข้อมูล location-based ของการจราจรที่ติดขัดจากวัวได้ ซึ่งผลจากการแก้ปัญหาด้วยการเอาเรื่องข้อมูล Location Based นี้มาใช้ ทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ในอินเดียใช้เวลาขับรถลดลงกว่า 15 นาที ทำให้ลดการใช้เชื้อเพลิงลง แล้วก็ทำให้สิ่งแวดล้อมหรือมลพิษลดลงด้วย ด้วยพลังของ Location ที่ทำให้รู้ว่าวัวนั้นอยู่สถานที่ไหนที่ทำให้เชื่อมต่อกับ Application ได้ ก็สามารถช่วยผู้บริโภคให้มีการใช้ชีวิตดีขึ้นได้แล้ว

httpv://www.youtube.com/watch?v=mZZ11alimPA

ด้วยการใช้พลังของ Location ในการทำการตลาดที่มากกว่าการส่งข้อความทางการตลาดเข้าไป โดยมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์และช่วยผู้บริโภคนั้นกำลังเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ และการที่จะทำได้แบบนี้ต้องมีเรื่องคำนึงในการทำ 3 ข้อด้วยกัน

  1. ถ้ามีแบรนด์คุณทำแอพ ที่เชื่อมกับเรื่อง Location คุณจะให้อะไรกับผู้บริโภคที่เปิดแอพในการเชื่อม Location นั้นมาหาคุณ ซึ่งสิ่งที่ควรให้กับผู้บริโภคนั้นควรจะมีประโยชน์ต่อผู้บริโภคอีกด้วย
  2. เปลี่ยนข้อมูล Location นั้นให้เป็นข้อมูลที่ฉลาดมากขึ้น โดยการนำข้อมูลนั้นมาวิเคราะห์กับผู้บริโภคว่าเป้นใคร ไปสถานที่นั้นบ่อยไหม หรือซื้อสินค้าในของแบรนด์เราในสถานที่นั้น ๆ รึเปล่า เพื่อที่จะทำการสื่อสารทางการตลาดให้ได้ดียิ่งขึ้น
  3. หา Partner ในการทำให้ข้อมูล Location ตัวเองนั้นแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ลองหาพันธมิตรหรือแบรนด์อื่นที่จะสามารถแชร์ข้อมูล Location เพื่อทำให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้น หรือหา Technology ในการเก็บข้อมูล  Location  ของผู้บริโภคให้ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเก่า

ทั้งนี้ลองดูว่าการทำการตลาดผ่าน Location ของคุณนั้นเป็นแค่การส่งข้อความทางการตลาดไปแค่นั้นรึเปล่า ถ้าทำแค่นั้นลองเอาข้อมูล Location ที่เกิดขึ้นนั้นมาลองคิดหาทางต่อยอดสร้างแคมเปญทางการตลาด หรือทำการตลาดที่แม่นยำขึ้นผ่าน Location ขึ้นมาดู


  • 170
  •  
  •  
  •  
  •  
Molek
Head of Strategic Marketing ใน Integrated Service Agency ที่หนึ่ง ผู้หลงใหลในหลาย ๆ ที่มีความอยากรู้และเรียนรู้ในเรื่อง Startup, นวัตกรรม, การตลาด จากมุมมองหลาย ๆ ด้านและวัฒนธรรมของแบรนด์ต่าง ๆ